ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ ปิดในแดนลบ จากตลาดมีความกังวลว่าสหรัฐฯ จะเข้าร่วมความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยประกาศให้อิหร่านยอมจำนนโดยไร้เงื่อนไข
บทสรุป
กระแสเงินในวันที่ 16 มิ.ย. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) กระแสเงินที่ไหลเข้าโลหะมีค่าเพิ่มขึ้น 3) กระแสเงินในตลาดเอเชียและ EM มีแรงซื้อเกิดขึ้น 4) มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มเทคโนโลยี 5) มีแรงซื้อในหุ้นขนาดเล็กและกลุ่มการเงินจากความคาดหวัง Tax Bills 6) มีแรงขายในตลาดญี่ปุ่น
ยอดขายปลีกในเดือน พ.ค. ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2023 โดย ยอดขายรถยนต์ลดลงมากที่สุดถึง 3.5% ในเดือน พ.ค. ขณะที่การใช้จ่ายที่บาร์ ร้านอาหาร และการซื้อวัสดุก่อสร้างก็ลดลงเช่นกัน เรามองกลุ่มสินค้าไม่จำเป็นจะได้รับผลกระทบเป็นหลัก เรายังประเมินว่ายังมี downside risk ในกลุ่มนี้อยู่
สว. สหรัฐฯ เสนอแผนลดเครดิตภาษีสำหรับโครงการพลังงานลมและโซลาร์ เรามองประเด็นนี้เป็นความเสี่ยงสำคัญที่จำกัด Upside และทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ผันผวนได้ และมองว่าUpside ในระยะถัดไปของกลุ่มนี้จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเป็นหลัก
Eli Lilly เข้าซื้อ Verve Therapeutics เพื่อนำการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ร่วมมือกับ Juvena Therapeutics ในการพัฒนายาที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ มองเป็นปัจจัยบวกต่อ LLY อย่างไรก็ดีท่าทีเข้มงวดของทรัมป์ต่อกลุ่ม Healthcare ยังคงเป็นความเสี่ยง จึงยังไม่แนะนำให้ลงทุน
งบ 2Q25 ของ Lennar (บริษัทสร้างบ้าน) รายได้สูงกว่าคาด แต่กำไรต่อหุ้นลดลงราว 50% YoY และอัตรากำไรขั้นต้นลดลงราว 4% YoY จากกลยุทธ์ลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าจากกำลังซื้อที่อ่อนแอลง เรามองงบกลุ่มค้าปลีกวัสดุสร้างบ้านอย่าง HD, Low จะได้รับแรงกดดันในช่วงที่เหลือของปีนี้
ความต้องการที่อยู่อาศัยในจีนยังชะลอต่อเนื่องจากปัจจัยโครงสร้างและปัญหาหนี้ ขณะเดียวกันแบรนด์ตะวันตกเผชิญแรงกดดันจากผู้บริโภคจีนที่หันหาแบรนด์ท้องถิ่นมากขึ้น เราจึงยังแนะหลีกเลี่ยงหุ้นอสังหาฯจีน และมองบวกต่อหุ้น Local อย่าง Xiaomi ในระยะยาว
SoftBank ขายหุ้น T-Mobile มูลค่า $4.8bn เพื่อลงทุนใน AI ขนาดใหญ่แทนการกู้ยืม ช่วยลด LTV ลงเล็กน้อย แต่หากลงทุนครบ $40bn อาจต้องขายสินทรัพย์เพิ่มอีก ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกลดเครดิต เราแนะลงทุนในหุ้น AI โดยตรงอย่าง NVDA และ TSMC ที่มีแนวโน้มเติบโตชัดเจนกว่า
