Program_Thumbnail-04
PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 25 เม.ย. 2568

25 Apr 25 10:20 AM
สรุปสาระสำคัญ
  • ดัชนี Composite PMI เบื้องต้นเดือน เม.ย. ชะลอตัวลงในเกือบทุกประเทศหลักโดยมีแรงฉุดมาจากภาคบริการเป็นหลัก ด้านภาคการผลิตมีสัญญาณฟื้นตัวบ้างเล็กน้อย
  • Fed beige book ระบุเศรษฐกิจโดยรวมยังทรงตัว แต่ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าเป็นความเสี่ยงมากขึ้น
  • IMF ปรับลดการคาดการณ์รุนแรงจากความเสี่ยงสงครามการค้า

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวต่อ ท่ามกลางความผันผวนที่ยังคงมีอยู่ จากแนวคิดการปลดประธานเฟด ก่อนที่จะครบวาระใน พ.ค. 69  โดย ปธน. ทรัมป์ออกมาแก้ข่าวว่าไม่มีเป้าหมายดังกล่าว สงครามการค้ายังมีทิศทางคลี่คลายลงต่อเนื่อง หลัง ทรัมป์และรมว. คลังสหรัฐ ออกมาพูดว่าจะลดภาษีจีนลงมาก แต่ไม่ถึงระดับ 0% แต่จีนต้องเข้ามาเจรจา นอกจากนั้นยังมีการลดภาษีบางกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์  หลังสัปดาห์ก่อนยกเว้นพวกสินค้า IT บางประเภทไปแล้ว ในส่วนการเจรจาเริ่มมีพัฒนาการเชิงบวกเพิ่มขึ้น ล่าสุดการเจรจาเริ่มมีความคืบหน้าไปอีกขั้น หลัง รอง ปธน สหรัฐเดินทางไปอินเดีย และได้รับความร่วมมือที่ดีจากทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตามด้านจีนยังไม่ตอบรับการเจรจา แต่เริ่มเปิดโอกาสสินภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าบางประเภทเช่นกัน ด้านเศรษฐกิจ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP โลกปี 2025 เป็น 2.8% (ลดลง 0.5 จุด) เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ขณะที่ Fed beige book บ่งชี้ธุรกิจกังวลมากขึ้น โดยเฉพาะแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ด้านตลาด EM ฟื้นตัวได้เช่นกัน นำโดยฮ่องกง อินโดนีเซียและเกาหลีใต้ จากทิศทางการเจรจาที่เริ่มคลี่คลายไปในเชิงบวกมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากความคาดหวังสงครามการค้าผ่อนคลายลง และการเจรจาของหลายประเทศมีความคืบหน้ามากขึ้น แม้ว่าการเจรจาของไทยจะถูกเลื่อนออกไป แต่รัฐบาลเตรียมเม็ดเงินสนับสนุนเศรษฐกิจ 5 แสนลบ. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดผลกระทบ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงหลังสมาชิก OPEC+ เรียกร้องให้เพิ่มการผลิตในเดือน มิ.ย. เร็วขึ้นต่อเนื่องจาก พ.ค. 

 

ตลาดหุ้นโลก 

สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นจาก ปธน. ทรัมป์ ส่งสัญญาณพร้อมจะลดระดับภาษีจากเดิม 145% แต่ไม่ถึงระดับ 0% ขณะที่เผยไม่มีเป้าหมายที่จะปลดเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งก่อนที่จะครบวาระ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของสงครามการค้าเริ่มเห็นชัดขึ้นผ่าน (1) IMF ปรับลดคาดการณ์แรง (2) Fed beige book บ่งชี้ธุรกิจกังวลมากขึ้น และ (3) PMI ทั่วโลกลดลงจากภาคบริการเป็นหลัก

 

ตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยปรับขึ้นเล็กน้อยหลังจากความหวังการเจรจาการค้าดีขึ้นหลังญี่ปุ่น-สหรัฐเจรจาคืบหน้า ขณะที่ (1) ไทยถูกเลื่อนการเจรจาออกไปอย่างไม่มีกำหนด (2) รมว. คลัง เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังผลกระทบภาษีทรัมป์ส่อรุนแรง โดย IMF หั่น GDP ไทยสู่ 1.8%  ประเมินใช้เม็ดเงิน 5 แสนลบ. กระตุ้นผ่านการบริโภค การลงทุนในประเทศ และ Soft Loan (3) นักท่องเที่ยวจีนมาไทยช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 มีเพียง 1.3 ล้านคน

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงที่ 4.31% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับตัวลดลงที่ 3.79% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 52 bps 
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 1.94% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 1.56% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 20,574 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 2.1%WoW หลัง OPEC+ กำลังพิจารณาจะเร่งเพิ่มการผลิตน้ำมันใน มิ.ย. นี้ ต่อเนื่องจาก พ.ค. ที่เคยมีมติเร่งขึ้นเป็นสามเท่าหรือราว +411kBD  ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้น 0.63%WoW สู่ 3,347.95 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทรงตัวที่ 99.6 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 142.93 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.13 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาททรงตัวที่ 33.45 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.29 หยวน

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5