- ผลตอบแทนสหรัฐพุ่งขึ้นรุนแรงหลังการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐและจีนรุนแรงขึ้น
- ประธานาธิบดีทรัมป์ชะลอการเก็บภาษี "reciprocal" อัตราสูง เป็นเวลา 90 วัน แต่ยังเก็บภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับการนำเข้าสินค้าจากเกือบทุกประเทศทั่วโลก ยกเว้นจีน ซึ่งถูกเพิ่มภาษีการนำเข้าเป็น 125% มีผลทันที
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวได้หลัง ปธน. ทรัมป์ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้าตอบโต้บางส่วนเป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดทางให้เจรจาลดกำแพงการค้า แต่ยังคงอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับประเทศส่วนใหญ่ แต่ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี หลังตลาดเริ่มกลับมากังวลถึงคู่ค้ารายใหญ่ทั้ง 2 ราย ยังคงมีการตอบโต้กันต่อเนื่อง ล่าสุดสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนรวมเพิ่มเป็น 145% หลังจีนมีการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐรวม 84% ด้านสหภาพยุโรปตอบรับการชะลอการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ออกไปด้วยการประกาศระงับมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน ตลาดพันธบัตรค่อนข้างผันผวนหนักหลังนักลงทุนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางความกังวลเรื่องผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งสูงถึง 4.5% ระหว่างสัปดาห์ก่อนลดลงเล็กน้อย ตลาดหุ้นในฝั่ง EM ปรับตัวลดลงนำโดยจีนที่ยังมีความกังวลถึงการเติบโตเศรษฐกิจที่อาจโตต่ำกว่าเป้าหมาย หลังสงครามการค้ากับสหรัฐยังไม่คลี่คลาย นอกจากนั้นธนาคารกลางจีน (PBOC) สั่งให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคำสั่งซื้อดอลลาร์จากลูกค้า เพื่อสกัดเก็งกำไรและความผันผวนของค่าเงินหยวน หลังเงินหยวนอ่อนค่าลงจากกังวลสงครามการค้า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยรัฐบาลไทยเตรียมคณะเจรจา เน้นใช้ความสัมพันธ์อันดีทางการทูต แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ราคาน้ำมันอ่อนตัวแรงสะท้อนความกังวลด้านอุปสงค์ที่อาจลดลง ตามการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และการเดินหน้าเพิ่มการผลิตน้ำมันเร็วกว่าแผนของกลุ่ม OPEC+ ในเดือน พ.ค.
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวดีขึ้นหลังจากทรัมป์พักการขึ้นภาษีสินค้าบางส่วนเป็นเวลา 90 วันทำให้ยุโรประงับมาตรการตอบโต้เป็นระยะเวลาเท่ากัน แม้ว่าภาษีพื้นฐาน 10% กับหลายประเทศและภาษีเฉพาะอุตสาหกรรมอื่นๆ จะยังคงมีผลบังคับใช้ แต่ความตึงเครียดกับจีนกลับทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ จาก 34% เป็น 84% ส่งผลให้สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 125%
ตลาดหุ้นไทย
หุ้นไทยลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ต่อเนื่องมาในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ก่อนจะฟื้นตัวได้ในช่วงปลายสัปดาห์ตามตลาดภูมิภาค หลังคลายกังวลเรื่องสงครามการค้าหลังสหรัฐฯชะลอขึ้นภาษีตอบโต้ 90 วันเพื่อเจรจา และรมว.คลัง เตรียมแผนสำรองเพิ่มเพดานหนี้รับมือวิกฤติศก.โลก หากข้อตกลงภาษีทรัมป์ไม่สำเร็จ
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นแรงที่ 4.44% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 3.82% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 63 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 1.97% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 1.57% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 4, 066 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 9.7%WoW สู่ US$63.33/bbl เนื่องจากกังวลสงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐกับจีน ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3,216 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 100.0 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 143.1 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.13 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 33.69 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงที่ระดับ 7.31 หยวน
