โอกาสการลงทุน ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และอิหร่าน
By INVX Investment Strategy
15 มิ.ย. 68
สรุปสาระสำคัญ
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงตึงเครียด หลังการโจมตีเมื่อ 13 มิ.ย. 2025 ที่มีเป้าหมายเป็นโรงงานนิวเคลียร์สำคัญและสิ่งปลูกสร้างทางการทหาร และเริ่มขยายการโจมตีไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของอิหร่านในระยะต่อมา ส่งผลให้แหล่งก๊าซ South Pars ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกต้องหยุดผลิตบางส่วน ขณะที่อิหร่านพิจารณาปิดช่องแคบฮอร์มุซ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจาก UN สหรัฐฯ และจีนให้ทั้งสองฝ่ายยุติความรุนแรง
ในแง่การลงทุน เรามองสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์เป็น 3 กลุ่มได้แก่ 1. ทองคำยังคงได้ประโยชน์จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ขัดแย้งที่อาจยกระดับขึ้น นักลงทุนสามารถลงทุนผ่าน SPDR Gold Trust (GLD) 2.หุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับประโยชน์จากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นโดย ลงทุนผ่าน Energy Select Sector SPDR Fund (XLE) และ 3.หุ้นกลุ่มพลังงานนิวเคลียร์ ที่ได้รับประโยชน์จากความไม่แน่นอนด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น จะอาจกระตุ้นให้ประเทศและบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น นักลงทุนสามารถลงทุนผ่าน Global X Uranium ETF (URA)
สถานการณ์ความขัดแย้งของอิสราเอลและอิหร่าน
อิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. 2025 ผ่านมา หลังจากอิหร่านถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์และคณะกรรมการ IAEA ลงมติว่าอิหร่านละเมิดพันธกรณีตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ โดยการโจมตีเน้นเป้าหมายไปที่โรงงานนิวเคลียร์สำคัญและสิ่งปลูกสร้างทางการทหาร เช่น โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมฟอร์โดว์ ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างสำคัญด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อิสราเอลได้ขยายเป้าหมายการโจมตีจากโครงการนิวเคลียร์และเป้าหมายทางทหาร ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการโจมตีแหล่งก๊าซ South Pars ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้การผลิตก๊าซบางส่วนต้องหยุดชะงักชั่วคราว การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานนี้ถือเป็นการยกระดับความขัดแย้ง เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้หลักของอิหร่านและซัพพลายพลังงานของโลก
ในขณะเดียวกัน อิหร่านได้ประกาศว่ากำลังพิจารณาปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดของโลก โดยมีการขนส่งน้ำมันคิดเป็นประมาณ 21% ของปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกต่อวัน หากช่องแคบนี้ถูกปิด จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อซัพพลายพลังงานโลก
บรรดาประเทศต่างๆ นำโดย จีน สหรัฐฯ รวมถึง UN ได้ออกมาเรียกร้องให้ อิหร่านและอิสราเอลลดระดับความตึงเครียดลงและกลับสู่โต๊ะเจรจา
มุมมองการลงทุนและสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์
เรามองว่า สถานการณ์ความขัดแย้งของอิหร่านและอิสราเอลมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น หลังการโจมตีเริ่มลุกลามไปยังโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับพลังงาน ในขณะที่ความพยามยามของประเทศต่างๆที่ต้องการให้ อิหร่านและอิสราเอลกลับสู่โต๊ะเจรจา ยังไม่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เราประเมินว่าสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์หลัก ได้แก่
1.ทองคำ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจยกระดับ นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านกองทุน SPDR Gold Trust (GLD)
2.หุ้นกลุ่มพลังงาน ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของอิหร่านโดยอิสราเอล และการที่อิหร่านกำลังพิจารณาปิดช่องแคบฮอร์มุซ โดยสามารถลงทุนผ่านกองทุน Energy Select Sector SPDR Fund (XLE) ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มพลังงาน
3.หุ้นกลุ่มพลังงานนิวเคลียร์ ได้รับแรงหนุนจากการที่หลายประเทศและบริษัทขนาดใหญ่เริ่มประกาศลงทุนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน นักลงทุนสามารถลงทุนผ่าน Global X Uranium ETF (URA) ที่ลงทุนใน เหมืองยูเรเนียม และบริษัทผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์