[เคาะซื้อฉบับพิเศษ] เวียดนามมีโอกาสปรับเข้าสู่ Emerging Market มากกว่าที่เคย หนุนเงินทุนต่างชาติเข้าลงทุนตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่ม (10 มิ.ย. 68)

อัปเกรดแล้วได้อะไร ?
 
การอัปเกรดสู่ตลาดหุ้นเวียดนามสู่ Secondary Emerging Status ของ FTSE จะช่วยหนุนให้เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันต่างชาติทั้ง Active และ Passive เข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามมากขึ้น คาดว่าการอัปเกรดนี้จะส่งผลให้ FTSE Emerging market จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเวียดนามราว 0.3%-0.5% โดยกลุ่ม Passive Fund ที่มีความจำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้นตามดัชนีชี้วัดราว 500 – 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ FTSE Emerging market เพิ่มน้ำหนักหุ้นเวียดนามซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค. 2026 หากผ่านเกณฑ์ในการประเมินเดือน ก.ย. 2025 ในขณะที่กลุ่ม Active มีแนวโน้มจะเริ่มต้นเข้าซื้อก่อน Passive Fund ด้วยปริมาณเงินสูงกว่ามีนัยสำคัญราว 2.5-7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับประโยชน์จากกระแสเงินทุนของ Passive Fund ที่จะเข้ามาในอนาคต ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าปัจจัยนี้จะช่วยหนุนให้กระแสเงินทุนเข้าตลาดเวียดนามสามารถเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นเวียดนามหลังอัปเกรดแล้ว มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
 
กรณีศึกษาของตลาดหุ้นคูเวตที่ถูกอัปเกรดสู่ Emerging market
 
หากลองพิจารณาตลาดหุ้นที่เคยปรับเข้าสู่ Emerging market เช่น ตลาดหุ้นคูเวตในช่วง ก.ย. 2018 ซึ่งใช้เทียบกับตลาดเวียดนามได้ในแง่ของขนาดของตลาดที่ใกล้เคียงกัน พบว่า หลังจากที่ FTSE ประกาศการอัปเกรด กระแสเงินทุนจากต่างชาติได้ไหลเข้าตลาดหุ้นของคูเวตทันทีในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 ราว 700 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มขึ้นอีก 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน 5 เดือนแรกของปี 2019 โดยปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ (และไม่ใช่นักลงทุนในกลุ่ม GCC หรือ กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 21.49% ในปี 2019 เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับ 9.17% ณ ปี 2017
 
หลังจากการอัปเกรดของ FTSE เพียงไม่นาน MSCI ก็ได้อัปเกรดตลาดคูเวตสู่ Emerging market ในช่วงกลางปี 2019 ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติเข้าสู่ตลาดหุ้นคูเวตเพิ่มเติมในปี 2019 และส่งผลให้ตลาดหุ้นคูเวตปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 13% ช่วง 1 ปี (ก.ย. 2018 – ก.ย. 2019) หลังจากที่ FTSE อัปเกรดสู่ Emerging market โดยอ้างอิงจาก Boursa Kuwait All share index
 
Timeline การอัปเกรดสู่ Emerging market และมีการอัปเกรดของ MSCI เป็นหมุดหมายถัดไป
 
FTSE จะมีการประกาศผลการอัปเกรดในช่วงเดือน ก.ย. 2025 หากตลาดหุ้นเวียดนามสามารถผ่านการประเมินได้ มีโอกาสที่กลุ่ม Active จะเริ่มขยับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามก่อนการเพิ่มน้ำหนักเข้าสู่ FTSE Emerging markets index ในเดือน มี.ค. 2026 ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่ม Passive fund เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามตามน้ำหนักของดัชนี
 
หมุดหมายสำคัญต่อไปคือ MSCI ที่มีโอกาสพิจารณา อัปเกรดตลาดหุ้นเวียดนามสู่ Emerging market เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ FTSE มีการอัปเกรดแล้ว โดย MSCI จะมีการพิจารณาในเดือน มิ.ย. ของทุกปี ทั้งนี้รอบพิจารณาที่เร็วที่สุดที่ MSCI ที่จะสามารถอัปเกรดเวียดนามได้คือ เดือน มิ.ย. 2026 เป็นต้นไป โดยเรายังคงแนะนำติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเกณฑ์การพิจารณาของ MSCI มีความเข้มงวดกว่า FTSE ซึ่งหากเวียดนามสามารถผ่านการอัปเกรดของ MSCI ได้อีก จะมีแนวโน้มให้นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามมากขึ้น
 
โอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
 
เรามองว่า หาก FTSE มีการอัปเกรดตลาดหุ้นเวียดนามสู่ Emerging market ได้ตามที่กล่าวไว้ จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเวียดนาม โดยเฉพาะในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า จะมีเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาสู่ตลาดเวียดนามอย่างมีนัยสำคัญ โดยเราแนะนำทยอยซื้อสะสมกองทุน Principal VNEQ-A สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเปิดรับโอกาสการอัปเกรดของ FTSE ตามที่ได้กล่าวมา
 
* Secondary Emerging ตามคำนิยามของ FTSE หมายถึง ตลาดเกิดใหม่ระดับรอง พัฒนากว่าตลาด Frontier