[Update] สหรัฐฯ-จีน บรรลุข้อตกลงขั้นแรก ลดภาษีนำเข้า 90 วัน ก่อนเจรจาเพิ่มเติม
By INVX Investment Strategy
13 May 2025
ความตึงเครียดในการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ลดลงเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก โดยสหรัฐฯ ลดภาษีจีนจาก 145% เหลือ 30% ขณะที่จีนลดภาษีสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% (ตัวเลขจริงคือ 128% เหลือ 13%) โดยมีผลในช่วง 90 วันจากนี้ ก่อนเจรจาเพิ่มเติม
แท้จริงแล้วการประกาศดังกล่าวเป็นการลดภาษีเหลือ 10% ทั้งสองฝ่าย ถือว่าเท่าเทียมกันในการเจรจารอบนี้ เนื่องจากสหรัฐฯ เก็บภาษีจีนอยู่แล้วที่ 20% ขณะที่จีนเก็บอยู่ที่ 3% ก่อนหน้านี้
จึงทำให้ตัวเลขภาษีที่ 34% ที่ปธน.ทรัมป์ถือบอร์ดประกาศจะเก็บกับจีนในวันปลดปล่อยเมื่อ 2/4/68 ถูกยืดไปอีก 90 วัน นับจากวันที่ 12/5/68 โดยที่ รมว.คลังสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าอัตราสูงสุดที่สหรัฐฯ จะเก็บจีนน่าจะอยู่ที่ 34% ขณะที่ 10% เป็นตัวเลขขั้นต่ำที่ตกลงกันเบื้องต้นในวันที่ 12/5/68 (ยังไม่รวมตัวเลข 20% ที่เก็บอยู่ก่อนแล้ว) ทำให้รวมแล้ว ภาษีที่สหรัฐฯ จะเก็บจีนมีเพดานสูงสุดที่ 54% และต่ำสุดที่ 30% หากไม่มีการโต้แย้งหรือปธน.ทรัมป์มีการเปลี่ยนใจเพิ่มเติม
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราประเมินว่าฉากทัศน์ที่เกิดขึ้นทำให้หุ้นโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง นักเศรษฐศาสตร์น่าจะมีการทยอยปรับประมาณการเศรษฐกิจขึ้นได้ โดยหลังจากนี้ต้องรอการประกาศดีลเพิ่มเติมกับประเทศอื่นๆ แต่ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่สหรัฐฯ โดยเฉพาะปธน.ทรัมป์ที่ดูอ่อนท่าทีลงอย่างชัดเจนจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีโอกาสที่การเจรจาการค้ากับประเทศอื่นๆ จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้อีกก็เป็นได้ โดยเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนจากวันนี้ตามกรอบเวลา 90 วันเดิมที่ขยายออกไปสำหรับประเทศอื่นนอกเหนือจากจีนในการเร่งเจรจากับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี เราประเมินว่าแม้ตลาดได้กลับมาเป็น risk on จากข่าวความคืบหน้าในการเจรจาการค้าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หุ้นสหรัฐฯ ได้สะท้อนข่าวดีนี้ล่วงหน้าไปมากและปรับตัวขึ้นมาพอสมควร โดยเราประเมินดัชนี S&P500 ที่ระดับแถว 5,877-6,028 จุด ซึ่งเป็นระดับ FWD PE ที่ 22 เท่า และ FWD EPS ที่ 267-274 เป็นระดับที่เหมาะสม และอาจเผชิญแรงขายทำกำไรได้เนื่องจากเชื่อว่าจากนี้ไปนักลงทุนจำเป็นต้อง factor in ความเสี่ยงเรื่อง Policy risk สำหรับการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ให้มากขึ้น เพราะไม่แน่ใจว่าปธน.ทรัมป์จะปรับเปลี่ยนท่าทีอีกหรือไม่
อีกทั้ง จากข้อมูลปัจจุบันพบว่า market cap ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 67% ของหุ้นโลก ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 56% และขนาดเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนเพียง 27% ของโลก เราจึงแนะนำให้ใช้จังหวะที่หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นแรงในการปรับพอร์ตเพื่อกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นอื่นที่มีความน่าสนใจเช่นกันในขณะที่ valuation ยังถูกกว่า ให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราได้แนะนำทยอยลงทุนในหุ้นจีน A-Shares หุ้นจีนเทคโนโลยี หุ้นอินเดีย หุ้นไทย และหุ้นเวียดนาม เพื่อให้พอร์ตการลงทุนสร้างผลตอบแทนได้ดีและยั่งยืนในช่วงภาวะที่ตลาดหุ้นโลกมีความผันผวนสูงเช่นนี้