สวัสดีตอนเช้า - รอความชัดเจนการเมืองพรุ่งนี้

ประกาศหยุดยิงหนุนรีบาวด์

 

ประเด็นสำคัญ

• ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุม 1 ก.ค. 2568 เพื่อพิจารณากรณีคลิปเสียงว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ หากรับอาจมีคำสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ก็ได้ระหว่างรอคำวินิจฉัย ส่วนผลตอบแทน SET Index ในอดีตยุคพล.อ. ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เป็นลบนัก SET -0.12% ในวันที่มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่กรณีเลวร้ายการชุมนุมยืดเยื้อจนเกิดการการยุบสภาก่อน ผ่านร่างพรบ. งบประมาณปี 69 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ GDP ที่ 0.3%-0.5%
• กสทช. เผยการประมูลคลื่นความถี่เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. AIS คว้า 1 คลื่น (2100MHz) และทรูคว้า 2 คลื่น (2300 และ 1500MHz) มูลค่ารวม 41,274 ลบ. ส่วนคลื่น 850MHz ไม่มีผู้ร่วมประมูล ขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอบอร์ด กสทช. ให้ลงมติในวันที่ 2 ก.ค. นี้
• รมว. คลังส่งสัญญาณพร้อมเจรจาการค้าและภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ หลังเผยมีกำหนดการเดินทางในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่สามารถเผยในรายละเอียดได้ ส่วนการเดินทางจะไม่กระทบต่อการแต่งตั้งผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพิจารณา 
• ททท. ประเมินโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” วงเงิน 1,760 ลบ. จำนวน 5 แสนสิทธิ์และมีผู้ประกอบการลงทะเบียนแล้ว 34,005 ราย จะช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวช่วงวันที่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค. 2568 ได้ราว 35,033 ลบ.
• ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ โดย ม. มิชิแกน ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนสู่ 60.7 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ มองว่าได้แรงหนุนจากความคลายกังวลต่อสงครามการค้าหลัง ปธน. ได้ผ่อนผันออกไป 90 วัน ส่วนดัชนี Core PCE สหรัฐฯ พ.ค. ขยายตัว 2.7%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดและสูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ +2.6%YoY

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์และผันผวนต่อ หลังยังรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค. ขณะที่ปัจจัยภายในติดตามเสถียรภาพทางการเมือง (การปรับ ครม., ศาลรัฐธรรมนูญจะรับพิจารณารับคำร้องคดีคลิปเสียงนายกฯ หรือไม่ในวันที่ 1 กค. และพรรคฝ่ายค้านอาจยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 3 ก.ค.), และปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์และยังผันผวนต่อ เนื่องจากยังรอความชัดเจนทั้งปัจจัยภายนอก (ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐหลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.) และภายในประเทศ (เสถียรภาพทางการเมือง และปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา) กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG
4. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR และ 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐอย่างกลุ่มปูนซีเมนต์และท่องเที่ยว แนะนำ SCC SCCC ERW CENTEL AAV

Daily top picks

ADVANC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจาก ADVANC ได้คลื่น 2100MHz ในราคา 5 พันล้านบาท สูงกว่าราคาตั้งต้นที่ 4.5 พันล้านบาท เราประเมินว่าจะได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนที่มีนัยสำคัญ โดยประเมินว่า ADVANC จะลดต้นทุนได้ราว 2.3 พันล้านบาทต่อปี เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ ADVANC ปี 2025 ขึ้นอีก 2.4% เป็น 40.7 พันล้านบาท (+16.9%YoY) วันนี้แนะนำซื้อที่ราคาไม่เกิน 276 บาท

 

ERW: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากโครงการเที่ยวคนละครึ่งที่จะมีการลงทะเบียนวันพรุ่งนี้ คาดว่าผู้ประกอบการที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยจะได้อานิสงส์มากที่สุด โดย ERW มีสัดส่วนรายได้ 28% ของรายได้โรงแรมมาจากนักท่องเที่ยวไทยและ 10% จากจีน คาดว่าครึ่งปีหลังการดำเนินงานจะฟื้น บริษัทยังคงเป้าการเติบโตสูงของกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN ไว้ที่ 23% จากการขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง

 

Watch for political clarification tomorrow

The SET is expected to move sideways with resistances at 1086/1090; if the index weakens, it may rebound at supports of 1075/1068. Follow the domestic issue of whether the Constitutional Court will accept the petition regarding the PM’s audio clip on Jul 1, which could require her to suspend her duties.

 

Today’s highlights

• The Constitutional Court scheduled a meeting for Jul 1 to consider the audio clip case and whether to accept the petition for consideration. If accepted, there may or may not be an order for the PM to temporarily suspend her duties while awaiting the verdict. Looking at the past, when Gen. Prayuth was suspended duties, the SET did not react particularly badly, slipping only 0.12%DoD. However, in the worst-case scenario of prolonged protests leading to parliament dissolution before passage of the FY2026 budget bill, GDP growth could be sliced by 0.3%-0.5%.
• NBTC reported the frequency spectrum auction results on June 29: ADVANC won 1 spectrum (2100MHz) and TRUE won 2 spectrums (2300 and 1500MHz) with a total value of Bt41bn. The 850MHz spectrum had no bidders. The next step is to send this to the NBTC board for approval on July 2.
• The Minister of Finance signaled readiness to negotiate trade and import tariffs with the US, saying they are scheduled travel this week but were unable to disclose details. The travel will not affect the appointment of the new BoT governor as this is still under consideration.
• TAT estimates the tourism stimulus, budgeted at Bt1.76bn for 500,000 rights, with 34,005 operators already registered, will generate tourism revenue of ~Bt35bn from July 4–Oct 31.
• US Consumer Confidence by the University of Michigan improved from the previous month to 60.7, higher than market expectations, likely on lower trade war concerns after Trump’s 90-day postponement. US Core PCE index for May expanded 2.7% YoY, higher than market expectations, and up from the previous month of 2.6% YoY.

 

Strategy today

In the short term the SET is expected to move sideways and fluctuate as it waits for some resolution of external and domestic issues. External issues include the situation in the Middle East and progress on trade negotiations with US as the July deadline approaches; domestic factors include political stability (a cabinet reshuffle, whether or not the Constitutional Court accepts the petition regarding the PM’s audio clip on July 1 with a possible filing of a no-confidence motion on the PM as soon as the parliament session opens on July 3) and the conflict between Thai and Cambodia. However, a SET level of below 1100, which has 2025F PER of below 12x, is still suitable for mid-to-long-term investors to accumulate. Our investment strategy remains "Selective Buy".

 

Trading today

The SET is expected to move sideways and fluctuate as the market watches for clarification of external factors (trade negotiations with the US as the July 9 deadline approaches) and domestic factors (political stability and the Thai-Cambodia conflict). Our investment strategy is for "selective buy" in three main themes and two trading themes with specific positives:
1. Defensive stocks that fluctuate little and whose profit is expected to be able to withstand external pressure (limited impact from external and domestic issues), while being consistent dividend payers – ADVANC, BCH and DIF.
2. High-quality dividend stocks (SET50 with SETESG Rating A or higher) to generate portfolio cash flow in the short term, expected to pay an interim dividend off 1H25 profit with yield higher than 2% - ADVANC, BBL and PTT.
3. Earnings plays whose profit is growing, with 2Q25 core profit expected to grow YoY and QoQ – ADVANC, CPALL and BTG.
4. Trading idea: For high-risk-takers who want to speculate: 1) undervalued stocks (PER and PBV < -1SD) on which we recommend Outperform, with expected dividend yield of at least 3% - BBL, BDMS, CPALL, DIF, PTT, SIRI and TIDLOR; and 2) companies expected to benefit from economic stimulus programs, such as cement and tourism stocks – SCC, SCCC, ERW, CENTEL and AAV.

 

Daily top picks

ADVANC: Price has a catalyst from the win of 2100MHz for Bt5bn, higher than the minimum of Bt4.5bn. We expect ADVANC to benefit from significant cost savings of Bt2.3bn per year and raise out 2025 profit forecast 2.4% to Bt40.7bn (+16.9%). We recommend to buy for trading at not higher than Bt276.

 

ERW: Price has a catalyst from the tourism stimulus package that opens for registration tomorrow (July 1). ERW, with the highest proportion of domestic clients, is expected to benefit the most. A large 28% of revenue is from domestic tourists and 10% from Chinese. Profit is expected to recover in 2H25. It continues to target high growth for its budget hotel, HOP INN, at 23%, backed by rapid expansion.

 

Download EN version click > Daily250630_E.pdf