สวัสดีตอนเช้า - 6 พ.ค. 2568

ชะลอตัว รอดูปัจจัยใหม่

 

ประเด็นสำคัญ

• OPEC+ เร่งการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบใน มิ.ย. เป็น +411kBD ต่อเนื่องจาก พ.ค. และตั้งเป้าเพิ่มการผลิตกลับจากการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจที่ 2.2MBD ภายใน ต.ค. นี้ จากเดิมที่ ก.ย. 69 
• วันนี้ติดตาม ครม. พิจารณาเงินดิจิทัลเฟส 3 และ กพช. ที่มีนายกฯ เป็นประธานจะพิจารณากำหนดค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 68 และพิจารณารับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนเพิ่มกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม 
• พาณิชย์เผยดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เม.ย. 68 สูงขึ้น 0.8%YoY จากความต้องการใช้ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและความต้องการใช้ซ่อมแซมอาคารและที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ขณะที่การชะลอตัวของ
ภาคอสังหาฯ และหนี้ครัวเรือนทรงตัวสูงยังกดดัน
• รมว. เกษตร เผย กยท. ขอความร่วมมือเลื่อนเปิดฤดูกาลกรีดยางออกไป 1 เดือน เป็น มิ.ย. 68 เพื่อลดผลผลิตยางในตลาดโลกราว 3 แสนตัน เพื่อประคองราคายางให้ไม่ต่ำกว่า 70 บาท/กก. สู้ภาษีทรัมป์
• จำนวน นทท. ต่างชาติ เม.ย. ลดลง 7.6%MoM กดดันจาก นทท. จีนที่ลดลงและได้หล่นสู่อันดับสองรองจากมาเลเซีย ขณะที่จำนวน นทท. สะสมช่วง 4M68 ที่ 12,096,120 คน ลดลง 0.26%YoY
• รมว. ท่องเที่ยวฯ เผยกำลังเตรียมโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ให้รัดกุม เตรียมเสนอที่ประชุม ครม. ในกลาง พ.ค. นี้ คาดจะเปิดลงทะเบียนใน มิ.ย. และสามารถใช้สิทธิ์ได้ช่วง ก.ค. - ต.ค. 2568 เพื่อกระตุ้นโลว์ซีซัน
• รมว.คลังสหรัฐฯ ประเมินนโยบายภาษีศุลกากร, การลดภาษี และการผ่อนคลายระเบียบของปธน.ทรัมป์จะดำเนินการไปพร้อมๆ กันเพื่อผลักดันการลงทุนเข้าสู่สหรัฐ

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways หลังตลาดอยู่ระหว่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ และติดตามการประกาศผลประกอบการ 1Q68 ของหุ้น Real Sector ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ FOMC คาดไม่มีผลต่อบรรยากาศลงทุนมากนัก หลังตลาดคาดจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ดีมองความไม่ชัดเจนของนโยบายภาษีของสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจโลกจะยังเป็นปัจจัยบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อการเติบโตของผลประกอบการ 2Q68 ทำให้บรรยากาศลงทุนยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและทำให้ SET ปรับขึ้นได้จำกัด โดยมีแนวต้าน 1215-1235 จุด  ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”   

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET จะแกว่งตัว Sideways รอความชัดเจนมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐ และการทยอยประกาศผลประกอบการ 1Q68 ของ บจ. Real Sector ไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก และ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 1Q68-2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เลือก ADVANC TRUE BTG CPF CPALL OR
2. หุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง  แนะนำ  GULF MTC CBG SPRC GPSC
3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY  2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50 : ADVANC BDMS CPALL PTT และ SET100 : BCH BTG AP
4. Trading Idea :  นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบมาตรการภาษีสหรัฐซึ่งคาดราคาหุ้นจะฟื้นตัวเร็ว (High Beta) หากสงครามการค้ามีสัญญาณคลี่คลาย แนะนำ KTB BBL BCP PTT SCCC FTREIT AMATA

Daily top picks

OR : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันปรับลง แรงกดดันค่าการตลาดลดลง ผลประกอบการคาดว่าจะแข็งแกร่ง +38%QoQ ส่วนปี 2568 คาดกำไรปกติโตเด่น +57%YoY จากขาดทุนสต๊อกที่ลดลงในกลุ่มธุรกิจ Mobility และการฟื้นตัวของมาร์จิ้นใน
กลุ่มธุรกิจ Lifestyle และคาดเป็นเป้าหมายกองทุน ThaiESGX มี SETESG Rating “AAA”

 

BDMS : มองเป็นหุ้นปลอดภัยภายใต้ตลาดที่ผันผวนสูง คาดกำไรปกติ 1Q68 ที่ 4.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 6% YoY และทรงตัว QoQ รายได้เพิ่มขึ้นได้แรงหนุนจากผู้ป่วยชาวต่างชาติ และราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากเป็นเป้าหมายกองทุน ThaiESGX ด้าน Valuation ไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 22.1 เท่า ต่ำกว่า -2SD ของ PER เฉลี่ย 10 ปี

 

 

Slowing, wait for new catalyst

 

The SET’s rise is expected to slow after large selling at 1215, triggering a slowdown. The market is gradually factoring in positives, including the MPC’s cut in interest rate and relief of concerns about trade negotiations to some extent. Support is at 1190-1185.

 

Today’s highlights

• OPEC+ accelerated its crude oil production increase in June to +411kBD, continuing from May, and aims to restore production from voluntary cuts of 2.2MBD by October 2025, up from the previous target of September 2026.
• Today the Cabinet will consider Phase 3 of the digital wallet as well as the first EPPO meeting in 2025, chaired by the Prime Minister, which will determine electricity rates for Sep-Dec 2025 and consider purchasing additional renewable energy from zero-fuel-cost sources and industrial waste.
• The Ministry of Commerce reports an increase in the Construction Materials Price Index for April of 0.8%YoY due to increased demand for government infrastructure projects and higher demand for building repairs, while the slowdown in the real estate sector and persistently high household debt continue to pressure.
• The Minister of Agriculture says the Rubber Authority of Thailand has requested postponing the rubber tapping season by one month to June, aiming to reduce global rubber supply by ~300,000 tons to maintain prices above Bt70/kg to counter Trump's tariffs.
• Foreign tourist arrivals in April fell 7.6%MoM, pressured by declining Chinese tourists who have fallen to second place behind Malaysia. In 4M25, Thailand welcomed 12.10mn visitors, a 0.26%YoY decrease.
• The Minister of Tourism and Sport says preparations for tourism stimulus are being finalized for Cabinet proposal in mid-May. Registration is expected to open in June with eligibility for use during July-October 2025 to stimulate the low season
• The US Treasury Secretary expects Trump's tariffs, tax cuts, and regulatory easing will be implemented simultaneously to drive investment into the United States.

 

Strategy today

In the short term the SET is expected to move sideways as the market is waiting for clarification of US tariffs and the release of 1Q25 earnings. The FOMC meets this week and this is expected to have limited impact as the market expects interest rate to be unchanged. However, the uncertainty of US tariffs and the large effect they will have on the global economy remains an overhang as it will likely eat into 2Q25 earnings growth and sour the investment climate. The SET is expected to have limited upside with resistance between 1215-1235. Our investment strategy remains "Selective Buy".

 

Trading today

The SET is expected to move sideways as it continues to wait for clarification of US tariffs and 1Q25 earnings announcements. Our investment strategy is for "selective buy" in two main themes and one trading theme with specific positive factors:

1. Earnings plays with profit expected to grow strongly, and core profit growth both YoY and QoQ in first and second quarters – ADVANC, TRUE, BTG, CPF, CPALL and OR.
2. Undervalued stocks with 2025F PER and PBV below -1SD, profit growth expected in 2025 and solid financially – GULF, MTC, CBG, SPRC and GPSC.
3. Stocks expected to be targets of ThaiESGX: 1) 2025 profit expected to grow, 2) strong financial position and 3) steady dividends with yield of at least 3% - on SET50 are ADVANC, BDMS, CPALL and PTT and on SET100 are BCH, BTG and AP.
4. Trading idea: For high-risk-takers, we recommend speculating on stocks exposed to US tariffs but who are expect to recover quickly (high beta) if there are signs of relief in the trade war– KTB, BBL, BCP, PTT, SCCC, FTREIT and AMATA.

 

Daily top picks

OR: Price has a short-term catalyst from declining oil price, lowering pressure on marketing margin. 1Q25 earnings are expected to be strong, growing 38%QoQ, with 57% growth in core profit in 2025 on lower stock loss in the mobility business and margin recovery in the lifestyle business. It is expected to be a target of ThaiESGX fund with SETESG rating of AAA.

 

BDMS: A defensive stock in a volatile market. 1Q25 core profit is expected to be Bt4.3bn, growing 6% and stable QoQ. Higher revenue is supported by overseas patients. The stock is expected to be a target of ThaiESGX. Valuation is attractive with 2025F PER of 22.1x, lower than -2SD of 10-year historical PER.

 

Download EN version click >>  Daily250506_E.pdf