สวัสดีตอนเช้า - 18 เม.ย. 2568

แกว่งในกรอบ รอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ

 

ประเด็นสำคัญ

• นายกรัฐมนตรีเผย รมว.คลัง นำทีมไทยเจรจารัฐมนตรีสหรัฐ 23 เม.ย. มั่นใจผลเจรจาเป็นประโยชน์ 2 ประเทศ ไทยยื่น 5 ข้อเสนอ ลดดุลการค้าสหรัฐ 50% ใน 5 ปี พร้อมหนุนอาเซียนผนึกกำลังเจรจาภาษีสหรัฐ
• ธปท. เผยส่ง 3 รายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกได้รับไลเซนส์ Virtual Bank ให้กระทรวงการคลังแล้ว คาดคลังมีเวลาพิจารณา 3 เดือน ก่อนประกาศชื่ออย่างเป็นทางการภายใน 19 มิ.ย.นี้ พร้อมชี้ทั้ง 3 รายเหมาะสม ในการกำกับดูแล-ดูแลความเสี่ยง ก่อนพิจารณาใหม่ในเฟสถัดไป
• ธปท. ระบุว่านโยบายการค้าของสหรัฐส่งผลให้ระยะสั้นตลาดการเงินผันผวนมากขึ้น พร้อมคาดกดดันให้ GDP ไทยปีนี้หลุดเป้า 2.5% โดยจะส่งผลต่อการส่งออกมากขึ้นใน 2H68 รวมทั้งจะเริ่มเห็นการผลิตการค้า และการลงทุนบางส่วนชะลอเพื่อรอความชัดเจน 
• ECB มีมติปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 1 ปีอีก 0.25% สู่ระดับ 2.25% เพื่อลดความกังวลและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีทางการค้าของสหรัฐ
• ปธน. ทรัมป์ เรียกร้องอีกครั้งหนึ่งให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมขู่ว่าจะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่งหากไม่สนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว
• สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่การส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งการคว่ำบาตรครั้งนี้รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กในจีนด้วย ขณะที่โอเปกมีแผนจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติม เพื่อชดเชยการผลิตเกินโควตาตามที่ได้ตกลงกันไว้

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนและบรรยากาศการซื้อขายจะยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าสหรัฐ รวมทั้งยังต้องติดตามการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งอาจฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันยังต้องจับตาการเจรจาทางการค้าของไทยกับสหรัฐ หลังรัฐบาลไทยเตรียมบินเจรจากับสหรัฐในวันที่ 19-25 เม.ย.นี้ ซึ่งคาดข้อสรุปอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ (17 เม.ย.) มองท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินของ ECB จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดได้ในระดับนึง โดยหากมีการผ่อนคลายทางการเงินน่าจะช่วยพยุงตลาดได้ในระยะสั้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

‎Weekly Portfolio: มอง SET ยังผันผวนและบรรยากาศการซื้อขายยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐ และยังต้องติดตามการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งอาจฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลัก และ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY  2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50 : ADVANC BBL BDMS CPALL PTT และ SET100 : BCH BTG
2. หุ้น Undervalued คัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) มีความสามารถจ่ายดอกเบี้ยสูง 3) ซื้อขายที่ PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 2% และ 5) มี SET ESG Rating ระดับ A-AAA แนะนำ MTC MINT BJC CPF
3. Trading Idea :  นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้สงครามการค้าที่มีท่าทีรุนแรงขึ้น แนะนำ หุ้นที่มีรายได้ภายในประเทศเป็นหลักซึ่งจะต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่า โดยเฉพาะหากสามารถกำหนดราคาและส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันและดอกเบี้ย ได้แก่ BCH CPALL CPAXT GULF MTC OR และ TRUE ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางตรงจากส่งออกไปสหรัฐ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ยาง สินค้าเกษตร เครื่องประดับ และกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ นิคม ท่องเที่ยว ธนาคาร

 

Daily top picks

‎PTT : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SETESG Rating “AAA” อีกทั้งปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตเด่น 44%YoY และมีฐานะการเงินแกร่ง สามารถจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 68 สูงราว 6.7% ทั้งนี้แนะนำราคาซื้อเก็งกำไรวันนี้ไม่เกินหุ้นละ 31.25 บาท

 

KTB: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากงบ 1Q68 กลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SETESG Rating “AAA” ขณะที่ปี 2568 แม้คาดกำไรจะหดตัว 3%YoY แต่ยังมีศักยภาพจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอในอัตราสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 68 สูงราว 7%

 

Range-bound, awaiting
new spurs to trading

The SET is expected to be range- bound as it waits for new factors, especially progress in tariff negotiations with the US scheduled for April 23. The Energy sector should get support from rising oil prices, but trading value today is expected to remain light as many overseas markets are closed for Good Friday. Support is at 1130-1125, resistance at 1148-1155.

 

Today’s highlights

• The Prime Minister says the finance minister will lead the Thai negotiation team to meet US ministers on April 23. She is confident the negotiations will benefit both countries. Thailand submitted five proposals to reduce the US trade deficit by 50% within five years and supports ASEAN in joining forces to negotiate US tariffs.
• The BoT has sent three shortlisted candidates for virtual bank licenses to the Ministry of Finance, where consideration is expected to take three months before an official announcement on June 19. All three candidates are suitable in terms of supervision and risk management before consideration for the next phase.
• The BoT said US trade policies will cause more financial market volatility in the short term and likely pressure Thai GDP growth to miss this year’s 2.5% target, with greater impact on exports in 2H25, and some production, trade and investment will slow while awaiting clarity.
• The ECB voted to cut interest rates for the seventh time in the past twelve months, stepping down another 0.25% to 2.25% to reduce concerns and restore confidence in the fragile economy, affected by US trade tariffs.
• Trump again called for Jerome Powell, the Fed Chairman, to reduce interest rates, threatening to remove Powell from his position if he does not respond to Trump’s demands.
• The US issued new sanctions targeting Iranian oil exports, including small refineries in China, while OPEC plans to further reduce oil production capacity to compensate for production exceeding the agreed quota.

 

Strategy today

In the short term, the SET will remain volatile and investors will be cautious due to the uncertainty about US trade policy. We will monitor the tariff retaliations between the US and China, which is likely to derail global economic growth. We are also watching Thailand-US trade negotiations as the Thai government prepares for talks with the US on April 19-25, with any conclusions expected to take 2-3 months. However, this week (April 17), the ECB’s monetary policy stance could influence market direction to some extent. If monetary easing occurs, it would support the market in the short term. Therefore, investment strategy remains "Selective Buy".

 

Trading today

The SET remains volatile with a cautious trading atmosphere due to uncertainty in US trade policy. We will monitor tariff actions between the US and China which may derail global economic expansion. Our investment strategy recommends "selective buy" in two main themes and one trading theme with specific positive factors:

1. Stocks expected to be targets of ThaiESGX: 1) 2025 profit expected to grow, 2) strong financial position and 3) steady dividends with yield of at least 3% - on SET50 are ADVANC, BBL, BDMS, CPALL and PTT and on SET100 are BCH and BTG.
2. Undervalued stocks in SET100 that are expected to be targets of mutual funds with: 1) 2025 profit expected to grow, 2) ability to service debt, 3) low valuation with PER and PBV 2025F below -1SD, 4) dividend yield of at least 2% and 5) SETESG Ratings of A-AAA – MTC, MINT, BJC and CPF.
3. Trading idea: For high risk-takers who want to speculate during the escalation of the trade war, we suggest stocks whose revenue is predominantly domestic, are able to set prices and pass on costs, and benefit from lower oil price and interest rate – BCH, CPALL, CPAXT, GULF, MTC, OR and TRUE. We recommend avoid sectors that are directly affected via exports to the US: electronic components, automotive, rubber, agricultural products and jewelry, and those who are indirectly affected through a troubled trade climate: industrial estates, tourism and banks.

Daily top picks

PTT: Short-term support from rising oil prices and ThaiESGX inclusion (SETESG “AAA”). Profit in 2025 is expected to grow 44%, supported by strong financials and steady dividends with 2025 yield estimated at 6.7%. We recommend speculative buy at up to Bt31.25.

 

KTB: We view the stock as having short-term stimulus from 1Q25 bank results that have been announced with good performance. It is also a ThaiESGX fund target with "AAA" SETESG Rating. 2025 profit is expected to contract by 3% but it is expected to continue to pay a consistent high dividend with expected dividend yield of ~7%.

 

Download PDF Click > Daily250418_E.pdf