PDF Available  
Global Morning Routine

Global Morning Routine - 23 พ.ค. 2568

By สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา|23 May 25 11:01 AM
สรุปสาระสำคัญ

ตลาดสหรัฐฯ วานนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นและยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น

 

บทสรุป

 

กระแสเงินในวันที่ 21 พ.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) กลุ่ม Small cap มีเงินไหลเข้าหลังมีการปรับตัวขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม Big Cap ในช่วงที่ผ่านมาและสะท้อนความ risk-on ของนักลงทุนที่ยังคงมีอยู่ เช่นเดียวกับโลหะมีค่า 3) กระแสเงินไหลออกจากจีนแต่เทรนด์ไม่ชัดเจนหลังตลาดขายทำกำไรจากผลประกอบการที่ดี 4) มีแรงขายในกลุ่ม Healthcare จากความเสี่ยงนโยบายลดราคายาและตัดตัวกลาง 5) มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานหลังราคาพลังงานลดลงอย่างต่อเนื่อง 6) มีแรงขายในกลุ่มสาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์


กลุ่มหุ้นพลังงานแสงอาทิตย์เผชิญ ความไม่แน่นอนสูง หลังพรรครีพับลิกันเสนอเร่งยุติมาตรการจูงใจทางภาษี กระทบยอดขายและกำไรของบริษัทอย่าง First Solar และ Vestas อย่างรุนแรง แม้กฎหมายยังไม่แน่นอน แต่ ความเสี่ยงด้านนโยบาย ทำให้เราแนะนำ หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มนี้ไปก่อน


Ross Stores, EasyJet และ Nike ล้วนส่งสัญญาณ กำลังซื้อผู้บริโภคที่เปราะบาง ผ่านผลประกอบการและการปรับกลยุทธ์ ด้วยความไม่แน่นอนนี้ แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและท่องเที่ยวในยุโรป-สหรัฐฯ ไปก่อน


กลุ่มซอฟต์แวร์รายงานงบแข็งแกร่งเกินคาดและปรับเพิ่มคาดการณ์ปี 2025 จากแรงหนุนการพัฒนา AI โดย Intuit, Autodesk และ Workday ต่างมียอดรายได้และ Billings เติบโต โดยเฉพาะ INTU และ ADSK ที่กำไรและแนวโน้มสดใสกว่า Workday ซึ่งยังไม่เห็นผลเชิงบวกจาก AI ชัดเจน ภาพรวมสะท้อนว่า AI ช่วยหนุนการใช้จ่ายแม้เศรษฐกิจชะลอ และเรายังชอบ MSFT ที่สุดในกลุ่มนี้


Apple วางแผนเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะปลายปี 2026 พร้อมพัฒนาชิปเฉพาะและเริ่มผลิตต้นแบบใน FY25 แต่ยังเผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งที่พัฒนา AI เร็วกว่าหรือมีนวัตกรรมใหม่มากกว่า เช่น Meta และ OpenAI โดยตลาดแว่นตาอัจฉริยะยังไม่แน่นอนในระยะยาว เรามองว่า META น่าสนใจกว่าในเชิงเก็งกำไรจากความได้เปรียบด้านเวลาและเทคโนโลยี


Lenovo รายงานกำไร FY4Q25 ลดลง 64% ต่ำกว่าคาด แม้รายได้รวมโต 23% แต่ต้นทุนสูงและภาษีนำเข้าสหรัฐกระทบกำไร ขณะที่งาน Computex 2025 สะท้อนว่า AI สำหรับองค์กรยังเป็นโฟกัสหลัก และแม้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง แต่การสร้างรายได้จาก AI ยังยาก โดย Tencent ยังเด่นสุดในฝั่งจีน และแนะมองกลุ่มต้นน้ำอย่าง TSMC, ASML ที่ประเมินการเติบโต AI ได้ชัดเจนกว่า

 

BYD มียอดขายรถ EV ในยุโรปแซง Tesla ครั้งแรกในเดือนเม.ย. เติบโต 169% YoY ขณะที่ Tesla ลดลง 49% ด้าน XPeng งบ 1Q25 แข็งแกร่ง แต่ยังเป็นรอง BYD และ Xiaomi ในเชิงพื้นฐาน Xiaomi รุกเทคโนโลยีขั้นสูงทั้ง EV, ชิป 3nm และ AI พร้อมแผนลงทุนใหญ่ มอง BYD และ Xiaomi เด่นในระยะยาวในด้านปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แนะรอเข้าซื้อช่วงราคาย่อตัว


ในช่วงนี้สหรัฐฯ อยู่ในระหว่างการเจรจางบประมาณ ทำให้ในระยะสั้นเราอาจจะเห็นความผันผวนของตลาดได้  ขณะที่ความเสี่ยง Geopolitical Risk ยังคงดำเนินอยู่เช่นกัน ซึ่งในระยะกลาง-ยาวยังแนะระมัดระวัง ด้วยภาพนี้ทำให้เราเน้นหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตได้โดยแนะ 1) SNOW ที่เรามองว่างบสะท้อนความทนทานต่อ Economic Slowdown ประกอบกับมีปรับเพิ่มคาดการณ์ทำให้เชื่อว่ายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้  (*TP: 208 USD)  2) Tencent (*TP:633.4 HKD) ที่เราเชื่อว่ามีตำแหน่งธุรกิจที่ดีที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ AI ในจีน

Author
Slide4
สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา

นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5