PDF Available  
Global Morning Routine

Global Morning Routine - 22 พ.ค. 2568

By สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา|22 May 25 10:35 AM
สรุปสาระสำคัญ

ตลาดสหรัฐฯ วานนี้ปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อภาวการณ์ขาดดุลของประเทศที่มีอยู่แล้ว

 

บทสรุป

 

กระแสเงินในวันที่ 20 พ.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) กลุ่ม Small cap มีเงินไหลเข้าปริมาณมากหลังมีการปรับตัวขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม Big Cap ในช่วงที่ผ่านมาและสะท้อนความ risk-on ของนักลงทุนที่ยังคงมีอยู่ 3) กระแสเงินไหลออกจากจีนแต่เทรนด์ไม่ชัดเจนหลังตลาดขายทำกำไร 4) มีแรงขายในหลายกลุ่มทั้ง Financial Technology 5) เริ่มเห็นแรงซื้อกลับในกลุ่ม Healthcare แต่ปริมาณเงินไม่สูง 6) กระแสเงินไหลออกจากตลาดญี่ปุ่นซึ่งเราประเมินว่าเป็นผลจากค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น, GDP 1Q25 หดตัวต่ำกว่าคาด รวมถึงการเจรจากับสหรัฐฯที่ยังดำเนินอยู่

 

Lowe’s รายงาน รายได้และกำไรลดลง จากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในช่วงต้นไตรมาส บริษัทคงการประมานการเติบโตในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพของ Lowe’s และ Home Depot ยังดูขรุขระในระยะข้างหน้าจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว ดอกเบี้ยมีความผันผวน และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ดังนั้น เรายังคงแนะนำให้หลีกเลี่ยงกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์

 

ผลประกอบการ TJX ไตรมาสแรก EBT และ อัตรากำไรขั้นต้น ปรับตัวลดลง บริษัทประเมินกำไรในไตรมาสหน้าและทั้งปีต่ำกว่าที่ตลาดคาด โดยบริษัทมองว่าไตรมาสหน้าจะได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้ามากที่สุด ซึ่งบริษัทเน้นความยืดหยุ่นทางสินค้า ในขณะที่ Walmart ปรับลดจำนวนพนักงานเพื่อลดต้นทุนและรับมือกับความผันผวน เรามองว่าในระยะข้างหน้าเน้น Defensive อย่าง PM และ KO เหมาะสมมากกว่า

 

กลุ่ม Healthcare ค่อนข้าง Underperform ตลาดหลังมีแรงกดดันจากกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น โดย 1) ผู้ผลิตยามีแรงกดดันจากปัจจยเฉพาะตัว เช่น Moderna รวมถึงแผนการปรับลดราคายาของทรัมป์กดดันด้วย 2) กลุ่ม Medicare Advantage มีเตรียมถูกตรวจสอบมากขึ้นจากกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ (CMS) ด้วยภาพนี้ทำให้เราแนะหลีกเลี่ยงกลุ่มเหล่านี้และแนะมองโรงพยาบาลอย่าง  HCA THC EHC

 

SNOW งบดีกว่าคาดและเติบโต โดย RPO +34%YoY นอกจากนี้มีการปรับเพิ่มคาดการณ์ขึ้นทั้งปี FY25 ขึ้น โดยเราประเมินว่างบมีแรงหนุนจาก AI adoption และภาพงบสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการดำเนินงานที่ทนทาน economic slowdown ได้ ด้วยภาพนี้ทำให้เราเชื่อว่าในระยะสั้น ราคาหุ้นยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากภาพงบและคาดการณ์ที่ออกมาดี โดยมองหากเกิน $200 อาจจะแบ่งขาย take profit ได้

 

Baidu รายงานกำไร 1Q25 ดีกว่าคาด หนุนโดย AI Cloud โตแรง +42% แม้รายได้โฆษณาและ iQiyi ยังอ่อนตัว ส่วน Robotaxi เติบโตดีแต่ยังขาดทุน ด้าน Gross Margin ลดจากต้นทุน AI Cloud ที่เพิ่มขึ้น ระยะสั้นยังเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันในตลาด AI และรายได้โฆษณาที่เปลี่ยนผ่าน ขณะที่ Tencent ดูน่าสนใจกว่า จากความสามารถทำกำไรที่มั่นคงในทุกกลุ่ม

 

ยอดขาย Duty Free ที่ไห่หนาน เม.ย. 2025 ยังไม่ฟื้นตัว โดยยอดใช้จ่ายลดลง -6.8% และจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงแรง -23% สะท้อนกำลังซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีนยังอ่อนแอ สอดคล้องกับแผน L’Oréal ที่เตรียมลดพนักงานแผนก Duty Free ในจีน มองว่ากลุ่มสินค้าไม่จำเป็นและแบรนด์หรู เช่น CTG Duty Free, L’Oréal, Estée Lauder และ LVMH อาจยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง.

 

ในช่วงนี้สหรัฐฯอยู่ในระหว่างการเจรจางบประมาณ ทำให้ในระยะสั้นเราอาจจะเห็นความผันผวนของตลาดได้  ขณะที่ความเสี่ยง Geopolitical Risk ยังคงดำเนินอยู่เช่นกัน ซึ่งในระยะกลาง-ยาวยังแนะระมัดระวัง ด้วยภาพนี้ทำให้เราเน้นหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตได้โดยแนะ 1) SNOW ที่เรามองว่างบสะท้อนความทนทานต่อ Economic Slowdown ประกอบกับมีปรับเพิ่มคาดการณ์ทำให้เชื่อว่ายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้  (*TP: 208 USD)  2) Tencent (*TP:633.4 HKD) ที่เราเชื่อว่ามีตำแหน่งธุรกิจที่ดีที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ AI ในจีน

Author
Slide4
สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา

นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5