ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อยวานนี้ หลังจากการซื้อขายที่ผันผวน โดยนักลงทุนยังคงระมัดระวังและรอสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจและทิศทางนโยบายการเงินของเฟด อย่างไรก็ตาม เฟดมีมติคงเบี้ยนโยบาย สวนทางกับจีนมีมติลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ธนาคารกลางทั้งสองประเทศมีกังวลต่อเศรษฐกิจจากปัญหาสงครามทางการค้าหากยืดเยื้อ เราแนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่ม cyclical เน้นตั้งรับต่อในระยะกลางถึงยาว
กระแสเงินในวันที่ 6 พ.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) กระแสเงินในจีนผันผวน มีแรงขายจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด 3) มีแรงซื้อในตลาดยุโรปจากมาตรการภาครัฐ เช่นเดียวกับตลาดเอเชีย 4) มีแรงขายในโลหะมีค่าหลังภาพการเจรจาภาษีคืบหน้าทำให้ตลาดคลายความกังวล 5) มีแรงขายในกลุ่ม Healthcare โดยเฉพาะในกลุ่ม Biotech และ Pharma จะนโยบายภาษีของสหรัฐและท่าทีของ FDA ที่อาจจะเข้มงวดต่อวัคซีนมากขึ้น 6) เห็นแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Semiconductor หลังท่าทีของผู้ประกอบการ Cloud ยังไม่ปรับลด Capex
ภาพรวมสถานการณ์ความตึงเครียดของโลกดูผ่อนคลายในระยะสั้นมากขึ้น 1.) สหรัฐฯ หยุดโจมตีทางอากาศฮูติ ส่งผลให้การเดินเรือสะดวกมากขึ้น 2.) เรามองว่าสถานการณ์ความรุนแรงใน ปากีสถาน-อินเดีย น่าจะจบลงด้วยการหยุดยิงในท้ายที่สุด 3.) สหรัฐฯ และจีนเตรียมเจรจาสุดสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ความเป็นไปได้ที่การเจรจาจะยืดเยื้อยังคงมีอยู่ และหากเจรจาสำเร็จเรามองว่า ภาษีจะถูกปรับใช้อยู่ดีแม้ว่าอัตราภาษีจะต่ำลง
เรามองว่า NVDA ได้แรงหนุนเชิงบวกระยะสั้นจากข่าวทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกชิป AI ของไบเดน และ CAPEX เทคฯ ยังสูง หนุนดีมานด์ต่อเนื่อง แม้ระยะกลาง-ยาวยังเผชิญความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและภาษี ส่วน ARM แม้งบ 1Q25 เป็นไปตามคาด แต่แนวโน้มอ่อนแอจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น และลูกค้าหลักชะลอ ทำให้เรายังไม่แนะนำลงทุนใน ARM ตอนนี้
ผลประกอบการ 1Q25 ของ Fortinet ออกมาผสม รายได้รวมและ EPS ดีกว่าคาด แต่แนวโน้ม 2Q25 อ่อนแอจากข้อจำกัดด้านบริการและการเข้าถึง AI ที่ยังต่ำ ขณะที่ CRWD ปรับโครงสร้างลดต้นทุนเพื่อรักษาเป้าหมายรายได้ ท่ามกลางแรงกดดันจากการแข่งขันและต้นทุนที่สูงขึ้น แม้ระยะสั้นกลุ่ม Cybersecurity อาจไม่โดดเด่น แต่ระยะกลาง-ยาวยังมีแนวโน้มเติบโตดี โดยเราชอบ PANW มากที่สุดในกลุ่ม
Apple เตรียมเพิ่มเครื่องมือค้นหา AI ลงใน Safari หลังพบพฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไป ส่งผลให้ธุรกิจ Search Engine ของ Google เผชิญแรงกดดันเพิ่มจากการแข่งขัน AI และคดีผูกขาด ขณะที่รายได้บริการของ Apple อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงพาร์ทเนอร์ชิป ทั้งนี้ เราไม่ชอบ GOOGL ระยะกลาง-ยาวจากหลายปัจจัยลบ แต่กลุ่มเทคฯ อย่าง MSFT, NVDA, META ยังเก็งกำไรตาม Sentiment ได้ในระยะสั้น
หุ้น Alibaba ถูกกดดันจากข่าวสหรัฐเสนอเพิกถอนบริษัทจีนบางแห่งรวมถึง JD และ Baidu แต่ยังมีปัจจัยบวกจากความร่วมมือกับ RedNote ที่หนุนกลยุทธ์ Instant Retail และพัฒนาการด้าน AI ที่มีศักยภาพของ Alibaba แม้การแข่งขันอีคอมเมิร์ซยังรุนแรง เรามองว่า Alibaba ยังลงทุนได้ แต่ในกลุ่มนี้ยังชอบ Tencent มากกว่า จากความสามารถในการ Monetize AI ได้จริง.
ยอดขาย Tesla เดือนเมษายนยังอ่อนแอแต่เริ่มเห็นสัญญาณผ่านจุดต่ำสุด ขณะที่ BYD ยังคงโดดเด่นจากยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง BMW งบดีแต่ถูกกดดันจากภาษีนำเข้า ส่วน Geely และ XPeng มีพัฒนาการเชิงกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เรามองว่า BYD ยังน่าลงทุนมากที่สุดในกลุ่ม และแนะเก็งกำไร Tesla เป็นรอบๆ รวมถึงพิจารณา Geely แทน BYD สำหรับผู้ที่กังวลด้านมูลค่า.
ระยะสั้น ตลาดยังคงมีความผันผวนจากประเด็น Tariff ที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้เรายังแนะระมัดระวังภาพการลงทุน ที่ถึงแม้ระยะสั้นตลาดจะ Risk on ขึ้นหลังหลายประเทศมีการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่ในระยะกลาง-ยาว ยังคงมีความเสี่ยงจากท่าทีทรัมป์ที่ไม่แน่นอน ด้วยภาพนี้ในช่วงนี้ 1) ตลาดสหรัฐฯ เราแนะเก็งกำไรสั้นๆบนหุ้นที่มีผลกระทบจาก Tariff ที่น้อยและเผยงบออกมาดี อย่าง MSFT (TP: 507.5 USD) 2) ตลาดจีนมองได้ประโยชน์จากการสนับสนุนของทางการจีนในภาพรวมและเลือก XIAOMI(TP:63.75 HKD) ที่มีการเติบโตของยอดขาย Smartphone แข็งแกร่งกว่าคู่แข่ง