PDF Available  
Global Morning Routine

Global Morning Routine - 6 พ.ค. 2568

By สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา|6 May 25 11:33 AM
สรุปสาระสำคัญ

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 9 วัน โดยนักลงทุนกังวลต่อภาษีภาพยนตร์ที่ ปธน. ทรัมป์ เล็งปรับใช้ และนักลงทุนยังจับตาแถลงการณ์ FOMC ทั้งนี้ ผลประกอบการในหลายภาคส่วนมีความกังวลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ระมัดระวังมากขึ้น นอกจากนี้ดัชนี price-paid ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี จากแรงกดดันทางภาษี และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อ

บทสรุป

 

กระแสเงินในวันที่ 2 พ.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) กระแสเงินในจีนผันผวน มีแรงซื้อในตลาดหุ้นจีนแต่ปริมาณไม่สูงมากนักจากแนวโน้มที่สหรัฐและจีนจะเจรจาการค้ามากขึ้น 3) มีแรงซื้อในตลาดยุโรปจากมาตรการภาครัฐและธนาคารกลางสนับสนุน 4) มีแรงขายในโลหะมีค่าหลังภาพการเจรจาภาษีคืบหน้าทำให้ตลาดคลายความกังวล 5) มีแรงซื้อในกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็ก และมีแรงขายในกลุ่ม Healthcare และสาธารณูปโภคบ่งชี้ว่าตลาดมีความ Risk-on มากขึ้นหลังสหรัฐผ่อนคลายบนประเด็นภาษี 6) มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Cloud และ Cybersecurity มากขึ้นแต่มีแรงขายใน Semiconductor

 

งบกลุ่มเทคฯ ดีกว่าคาดหนุนจากอุปสงค์ AI ที่โตเป็นหลักทั้ง ON และ PLTR อย่างไรก็ดีตลาดยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้ม โดย 1) ON มาร์จิ้นและการฟื้นตัวของธุรกิจ EV มีแรงกดดัน 2) PLTR ตอบสนองเชิงลบต่อความคาดหวังที่สูง แม้จะปรับเพิ่มคาดการณ์ FY25 แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสูงสุดในตลาด ระยะสั้นเราแนะเลี่ยงกลุ่มเซมิฯจากการฟื้นตัวที่ไม่แน่นอน ส่วนกลุ่มซอฟต์แวร์ AI แนะเก็งกำไรสั้นๆ หลังยังมี Systematic Risk

 

ปธน. ทรัมป์ เผยแผนการเก็บภาษี 100% สำหรับภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศ หลังมีความต้องการให้ภาพยนตร์กลับมามีฐานในอเมริกาอีกครั้ง  เรายังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่แท้จริงได้หลังมาตรการ Tariff ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนซึ่งยังคงแนะติดตามท่าที แต่เชื่อว่ากลุ่มบริษัทยังสามารถ Manage ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ได้หลัง 1) งบผลิตหนังมีการ Allocated ที่น้อยลง 2) มีแหล่งรายได้อื่นนอกจากผลิตคอนเทนต์ เช่น Subscription

 

Tesla เผชิญยอดส่งมอบรถจากจีนลดลง 30% YoY แม้มีการปรับราคาหลายรุ่น ขณะที่ VW มีกำไรไตรมาสแรกลดลง 98% จากความล่าช้าในการเปิดตัว EV และต้นทุนพัฒนาเทคโนโลยีสูง ส่วน Ford ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต้องถอนเป้าหมายผลประกอบการ เราประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเผชิญแรงกดดันหลายด้านแนะหลีกเลี่ยงกลุ่มนี้ โดยยังคงแนะนำเพียง BYD ที่โดดเด่นด้านยอดขายและพื้นฐานแข็งแกร่ง

 

ยอดขาย Hon Hai เดือนเม.ย. โต 26% แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนแรกของปี จากคำสั่งซื้อเร่งด่วนในกลุ่มสินค้า AI ที่เร่งส่งออกก่อนภาษีนำเข้าสหรัฐฯ มีผล แม้กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์เผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านภาษีและข้อจำกัดการส่งออกชิป แต่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังมีแนวโน้มดี หากสัญญานการค้าเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น แนะ TSMC, Hon Hai, SK Hynix, และ SMIC หากราคาย่อตัวลง.

 

ระยะสั้น ตลาดยังคงมีความผันผวนจากประเด็น Tariff ที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้เรายังแนะระมัดระวังภาพการลงทุน ที่ถึงแม้ระยะสั้นตลาดจะ Risk on ขึ้นหลังหลายประเทศมีการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่ในระยะกลาง-ยาว ยังคงมีความเสี่ยงจากท่าทีทรัมป์ที่ไม่แน่นอน ด้วยภาพนี้ในช่วงนี้เราแนะเก็งกำไรสั้นๆบนหุ้นที่มีผลกระทบจาก Tariff ที่น้อยและเผยงบออกมาดี อย่าง 1) MSFT (TP: 507.5 USD) 2) TENCENT (TP:626.53 HKD) ที่ได้ประโยชน์จากการนำ AI มาปรับใช้ใน platform และผลกระทบ Tariff จำกัด

Author
Slide4
สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา

นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5