INVESTMENT THESIS:
- กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ในจีนเผยงบดีกว่าคาดและมีการเติบโต อย่าง JD, Tencent และ NetEase
- ตัวเลขเศรษฐกิจจีน เม.ย. ดีกว่าคาด ลดแรงกดดันในการออกมาตรการกระตุ้น
- ข้อตกลงพักการเก็บภาษีตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน ทำให้ Sentiment การลงทุนดีขึ้น
- แนะหุ้นจีนที่มีรายได้ภายในประเทศสูงและมีการเติบโตที่ชัดเจน
ภาพรวมตลาดหุ้นจีนในสัปดาห์นี้
- กลุ่มหุ้นจีนขนาดใหญ่เผยผลประกอบการส่วนใหญ่ดีกว่าคาดและเติบโตใน 1Q25 นำโดย 1) JD.com มีกำไรสุทธิ +53.5% ด้านรายได้รวม +15.8% หนุนจาก JD Retail +16.3%, JD Logistics +11.6% และ New Business +18.4% อย่างไรก็ดี ต้นทุนรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการแข่งขันในธุรกิจจัดส่งอาหาร 2) Tencent รายได้รวมเติบโต 13% หนุนจาก เกมในจีน +24%, เกมต่างประเทศ +23%, Marketing services +20%, Social Network รายได้ +7% และ FinTech +5% ด้านกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14% แต่ต่ำกว่าที่คาด จากการเพิ่มงบลงทุนใน AI 3) NetEase เผยกำไรต่อ ADS 17.51 หยวน สูงกว่าที่คาด ด้านรายได้รวม +7.4% หนุนจากธุรกิจเกม +12% ในขณะที่ธุรกิจอื่นๆมีรายได้ลดลง
- ในทางตรงกันข้าม Alibaba รายงานรายได้ +7% ต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ และโลจิสติกส์ มีรายได้ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งสะท้อนภาวะซบเซาของผู้บริโภคจีน รวมถึงผลตอบแทนจากธุรกิจ AI และ Cloud ยังไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ด้านกำไรสุทธิ +22% สูงกว่าที่คาด
- ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีน การส่งออกดีกว่าคาดมากในเดือนเมษายนจากการเร่งส่งออกก่อนมาตรการภาษีใหม่ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ออกมาตรงตามที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ที่สามารถบรรลุข้อตกลงลดภาษีเป็นเวลา 90 วัน อาจส่งผลให้ลดแรงกดดันของจีนในการออกมาตรการกระตุ้นลดลง หลังจากมีมาตรการผ่อนคลายบางส่วนจาก PBOC แล้ว เช่น การลด RRR และดอกเบี้ยนโยบาย
มุมมองของ InnovestX
1.เราประเมินว่าตลาดหุ้นจีนเริ่มมีปัจจัยบวกมากขึ้น จาก 1) ข้อตกลงพักการเก็บภาษีตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่งผลให้มีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจจีน และปรับคาดการณ์ EPS ของบริษัทจดทะเบียนในปี 2025 ขึ้น 2) ตลาดหุ้นจีนเริ่มฟื้นตัวเกินจุดสูงสุดก่อนเดือนเมษายน (Liberation Day) ซึ่งเราประเมินว่ายังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปตามผลประกอบการ 3) ยังคงมีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น ลดอัตราดอกเบี้ย อัดฉีดสภาพคล่อง และออกพันธบัตรเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน 4) งบหุ้นจีนมีแนวโน้มโตดีกว่าคาดหลังมีการพัฒนา AI เข้ากับสินค้าและบริการ ทำให้ Ecosystem ครบวงจร ซึ่งภาพรวมนี้มีส่วนสนับสนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้
2.ความคลี่คลายด้านภาษีอาจลดแรงกดดันการออกมาตรการกระตุ้น: แม้จะมีการคลี่คลายภาษีระหว่างสหรัฐฯ-จีน แต่อัตราภาษียังอยู่ในระดับสูงกว่าสมัย Trump 1.0 ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนในเดือนเมษายนที่ดีกว่าคาด อาจส่งผลให้ลดแรงกดดันกับทางการจีนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ลดลงในระยะถัดไป
3.ในระยะสั้น เราจึงแนะหุ้นจีนที่มีรายได้ภายในประเทศสูงและมีการเติบโตที่ชัดเจน โดยเราชอบ
1)Tencent งบ 1Q25 โดยรวมดีกว่าที่คาด ด้าน WeChat Ecosystem และ ธุรกิจเกม มีช่องทางการสร้างรายได้หลากหลายรวมถึงโอกาสจาก AI ในเชิงการใช้งาน จะเป็นตัวช่วยหนุนการเติบโต ด้าน PE อยู่ที่ 17.4x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 20.7x และ Bloomberg ให้ค่าเฉลี่ยราคาเป้าหมายที่ 630.71 HKD ซึ่งมี Upside 21.3% จากราคาปัจจุบัน
2)HKEX จากปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการเตรียมเข้าจดทะเบียน IPO ในปีนี้ที่สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาจะช่วยหนุนการเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียม ด้าน PE อยู่ที่ 31.8x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี 32.7x เล็กน้อย และ Bloomberg ให้ค่าเฉลี่ยราคาเป้าหมายที่ 403.35 HKD ซึ่งมี Upside 6.9% จากราคาปัจจุบีน
3)Trip.com การใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของจีนยังอยู่ในแนวโน้มฟื้นตัว รวมถึงทางการจีนมีความพยายามในการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ด้าน PE อยู่ที่ 17.7x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี 25.6x และ Bloomberg ให้ค่าเฉลี่ยราคาเป้าหมายที่ 579.19 HKD ซึ่งมี Upside 12.4% จากราคาปัจจุบีน
