Investment Thesis
BYD ลดราคารถยนต์
รัฐบาลจีนเตือน BYD และคู่แข่งให้ควบคุมตนเองหลังสงครามราคาที่รุนแรงขึ้น
มุมมอง InnovestX
1)ผลกระทบของการลดราคาอาจไม่รุนแรงอย่างที่ตลาดกังวล เนื่องจากส่วนลดที่ประกาศรวมอยู่ในเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและโปรแกรมเทิร์นรถของผู้ผลิตที่มีอยู่แล้ว ราคาที่ลดจริงจาก BYD (ไม่รวมเงินอุดหนุน) เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 หยวนต่อคัน หรือประมาณ 9% ของราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่ 114,000 หยวน รวมไปถึงรุ่นของรถยนต์ที่ลดราคามองเป็นการ Inventory Clearance รุ่นเก่าเนื่องจากเป็นรุ่นที่ไม่มีระบบช่วยเหลือขับขี่อัตโนมัติ (God’s Eyes)
2)การควบคุณการลดราคาของรัฐบาลจีน เราประเมินว่าสงครามราคาอาจไม่ได้ทำให้กำไรของอุตสาหกรรมแย่ลง อย่างใน 1Q25 ของ BYD ยังเห็นการขยายตัวของ Operating margin เพิ่มขึ้น 0.1 ppt YoY แม้จะมีการลดราคา นอกจากนี้ยังมองเป็นมุมมองบวกต่อ ผู้ผลิตขนาดใหญ่ในกลุ่ม Automotive ของจีน เช่น BYD และ Geely ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งการแข่งขันด้านราคาที่ลดลงจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้
เราประเมิน BYD มีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของยอดขายในต่างประเทศ
ใน 1Q25 ตลาดต่างประเทศขายได้ 206,000 คัน (+110% YoY) คิดเป็น 26% ของเป้าหมาย 800,000 คันในปีนี้ นอกจากนี้มีการเปิดตัวรถใหม่ 8 รุ่นที่งาน Shanghai Auto Show 2025 ที่ผ่านมา เช่น Sea Lion 06 (SUV), Seal 06 (Sedan), Denza-Z และ Yangwang U8L ซึ่งเราคาดว่าเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ที่สำคัญในปี 2025
ในขณะที่ผลกระทบจาก Tariff จำกัด
เนื่องจาก BYD ยังไม่มีการจำหน่ายรถยนต์นั่งเป็นทางการอเมริกาเหนือ
มุมมองการลงทุน
เราประเมินว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมาราว 15% ได้รับรู้ประเด็นการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากลดราคาไปแล้ว ในขณะที่ยังมีปัจจัยบวกในระยะถัดไปจากการเติบโตของยอดขายในต่างประเทศและผลกระทบจาก Tariff จำกัด จึงมองว่าราคาปัจจุบันเป็นจังหวะในการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร โดยเรามองในระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบ 150HKD และ 0.63 บาท สำหรับ BYDCOM80