เราให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ฐาน PER ที่ 4 เท่าซึ่งเท่ากับ PE เฉลี่ยในรอบ 5 ปีของ AMATA ได้ราคาเป้าหมาย 34.10 บาทต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 32.30 บาทต่อหุ้นคงคำแนะนำ ซื้อ
บทสรุป
ปัจจัยกระตุ้น
ปัจจัยกระตุ้น #1 : คาด AMATA จะมียอดขายที่ดิน New High ในปี 2567 ใน 9M67 AMATA มียอดขายที่ดิน 2,009 ไร่ (93% เป็นยอดจากประเทศไทยและ 7% เป็นยอดจากประเทศเวียดนาม) เติบโต 67% YoY และคิดเป็น 80% ของเป้าการขายที่ดินในปีนีที่ 2,500 ไร่ (+35%) และเป็นระดับ New High ของบริษัท ฐานลูกค้าหลักในประเทศไทยยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีนและไต้หวัน ในกลุ่ม Electronic และเพิ่มเติมด้วย new economy คือกลุ่ม Data Center สำหรับ AMATA ในประเทศเวียดนาม ฐานลูกค้าหลักคือ จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ในกลุ่ม Electronic และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆที่ใช้แรงงานน้อย เราคาดว่าด้วยการย้ายฐานการผลิตที่ยังคงส่งผลบวกต่อภูมิภาคจะหนุนทำให้ AMATA สามารถมียอดขายที่ดินถึงเป้าที่วางไว้ได้ สำหรับเป้าการขายที่ดินในปี 2568 เบื้องต้น AMATA คาดว่าอุปสงค์ในอุตสาหกรรมหลักจะยังคงเติบโตต่อเนื่องและ AMATA มีที่ดินในมือที่รอพัฒนาเพียงพอโดยเป็นที่ดินที่พร้อมขาย 2,258 ไร่และที่ดินที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 13,752 ไร่
ปัจจัยกระตุ้น #2 Backlog New High หนุนผลประกอบการช่วง 6-8 ไตรมาสข้างหน้า AMATA มี Backlog ณ สิ้น 3Q67 ที่ 19,269 ล้านบาทสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์บริษัท โดยเป็นยอดจากประเทศไทย 90% และเวียดนาม 10% ซึ่งยอด Backlog จากประเทศไทยจะบันทึกรายได้ตั้งแต่ 4Q67 ไปถึงปี 2568 ขณะที่ยอด Backlog จากประเทศเวียดนามคาดบันทึกได้ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 แลเรามองบวกต่อยอดขายที่ดินที่ยังเติบโตเด่นใน 4Q67 ซึ่งจะต่อยอด Backlog ในอนาคต
ปัจจัยกระตุ้นที่ #3 ทิศทางผลประกอบการ 4Q67 และปี 2567 เติบโตเด่น หลังจากที่ AMATA รายงานกำไรสุทธิของ 3Q67 ที่ 765 ล้านบาทเติบโตโดดเด่น 93.2% YoY และ 231% QoQ หนุนด้วยยอดการโอนที่ดินรวมกว่า 450 ไร่รวมไปถึงส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 403 ล้านบาท (+25.1% YoY และ +56% QoQ) จากกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติที่ดีขึ้น ดังนั้น 9M67 มีกำไรสุทธิที่ 1,460 ล้านบาท (+21.5%) ด้วย Backlog ที่แข็งแกร่งและรอบันทึกรายได้ใน 4Q67 เราคาดว่า AMATA จะสามารถโอนที่ดินได้ประมาณ 330-400 ไร่ คงประมาณการรายได้ปี 2567 ที่ 13,079 ล้านบาท (+37%) และกำไรสุทธิ 2,399 ล้านบาท (+27.3% YoY) สำหรับปี 2568 คาดรายได้ที่ 15,538 ล้านบาท (+19% YoY) มีแรงหนุนจาก Backlog ประมาณ +/-7,000 ล้านบาทและคาดว่าส่วนของธุรกิจพลังงานจะทำได้ดีกว่าที่คาดเดิมเนื่องจากฐานลูกค้าใหม่ที่เข้ามามีการใช้พลังงานสูงขึ้น จึงปรับประมาณเพิ่มขึ้น 5% เป็นกำไรสุทธิที่ 2,949 ล้านบาท (+22.9% YoY)
ความเสี่ยง : ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีประเด็นกดดัน ต้นทุนพลังงานที่ผันผวน และติดตามโอกาสและความเสี่ยงของการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำและราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงด้าน ESG : AMATA ได้จัดอยู่ในระดับ AAA ของ SET ESG Ratings ในปี 2566 โดย AMATA เน้นด้านสิ่งแวดล้อมและการลดคาร์บอน รวมถึงการ re-use พลังงานในพื้นที่ทุกนิคมของ AMATA ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือ การบริหารจัดการพลังงานทั้งในพื้นที่นิคมฯ และส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภค