สรุปสาระสำคัญ
ก่อนไปคิดอะไร
เรามีความกังวลว่าสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้จะส่งผลกระทบต่อยอดขายของ HTC ในช่วง 4Q67 ซึ่งโดยปกติเป็นไตรมาสที่ยอดขายจะไม่โดดเด่นเท่ากับ 1Q และ 2Q ขณะที่ในปีนี้ช่วง 3Q67 HTC มีผลประกอบการที่ถูกกดดันจากกอุทกภัยและตามฤดูกาล ส่งผลให้มีกำไรสุทธิที่ 129 ล้านบาท (-3.7% YoY และ -18.8% QoQ)
หลังไปได้อะไร
HTC ประเมินว่าอุทกภัยในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อยอดขายโดยรวมของทางจังหวัดในฝั่งอ่าวไทย อย่างรก็ตามพื้นที่รอบโรงงานการผลิตใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ได้รับผลกระทบและยังคงสามารถส่งและกระจายสินค้าได้ตามปกติ นอกจากนี้ยอดขายจากจังหวัดในพื้นที่ท่องเทียวคือส่วนของฝั่งอันดามัน เติบโตมากกว่าที่คาดไว้ ดังนั้นเบื้องต้นบริษัทมองว่ายอดขายรวมของปีนี้จะสามารถเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คือเติบโต 6-8% เน้นสินค้ากลุ่มไม่มีน้ำตาล กระจายไปใน HoReCa และตั้งเป้าสัดส่วนการตลาดในภาคใต้ของปีนี้ที่ 80% นอกจากนี้ HTC เริ่มเปิดสายการผลิตขวดแก้วไลน์ใหม่ที่โรงงานพุนพิน ซึ่งเป็นไปตามแผนและจะสามารถ full operation ได้ในช่วง 1Q67 ซึ่ง HTC ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้ขวดแก้วเพื่อช่วยลดต้นทุน ลดขยะและสนับสนุนสิ่งแวดล้อม
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
- คาดกำไรสุทธิของ 4Q67 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ เราคงประมาณการปี 2567 ที่รายได้ 8,168 ล้านบาท เติบโต 5% โดยเป็นระดับที่อนุรักษ์นิยมมากกว่าที่บริษัทตั้งไว้และได้สะท้อนความเสี่ยงของยอดขายที่อาจถูกกดดันจากอุทกภัยไปแล้วบางส่วน โดยเราคงประมาณการกำไรสุทธิของปี 2567 ที่ 614 ล้านบาทเติบโต 5% YoY ด้วยระดับ Gross Margin เฉลี่ยที่ 41% ลดลงจากปี 2568 ที่ 42.5% จากศักยภาพการขึ้นราคาที่ทำได้น้อยลงและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นในปีนี้ เช่น น้ำตาลและอลูมิเนียม สำหรับ 4Q67 คาดรายได้ที่ 1,946 ล้านบาท เติบโต 3.4% YoY และ 3.9% QoQ และกำไรสุทธิที่ 142 ล้านบาทเติบโตทั้ง YoY และ QoQ
- กลยุทธ์เติบโตต่อเนื่องในปี 2568 HTC ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2568 ที่รายได้รวม 5-7% โดยมีเป้ายอดขายเติบโต 2-4% และมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 40% แม้ต้นทุนวัตถุดิบหลักมีความผันผวนแต่คาดว่าแนวโน้มการบริหารจัดการต้นทุนในปี 2568 จะทำได้ดีขึ้น เข่น จากราคาน้ำตาลที่มีแนวโน้มอ่อนตัวเล็กน้อยแม้ในช่วง 2Q68 จะเริ่มมีการใช้ภาษีน้ำตาลเฟส 4 แต่ HTC มีการปรับกลยุทธ์ เช่น ออกสินค้าในกลุ่ม Zero Sugar ต่อเนื่อง รวมไปถึงการเปิดสายการผลิตขวดแก้วใหม่ที่คาดว่าจะหนุนให้ต้นทุนในระยะยาวลดลง
- ความเสี่ยงสำคัญ คือ ภาษีน้ำตาลเฟส 4 ที่จะเริ่มใช้ใน 2Q68 การควบคุมต้นทุนทั้งวัตดุดิบและการขนส่ง สภาพภูมิอากาศที่อาจจะผลต่ออุปสงค์ สภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และสภาวะการแข่งขัน
- ประเด็น ESG : HTC อยู่ใน SET ESG Ratings ของปี 2567 ที่ระดับ AA โดยบริษัทให้ความสำคัญสิ่งแวดล้อมโดยเริ่มใช้ขวด PET แบบ 100% recycle ใน Coca Cola ขวด 1 ลิตรและขึ้นโรงแก้วใหม่เพื่อปรับเพิ่มการใช้ชวดแก้วของบริษัทที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 3% ไปสู่ 10% ในปี 2572 เพื่อขยะ ประเด็นสังคม มีแนวทางปฏิบัติด้านมนุษยชน และธรรมาภิบาล มี CG Rating ที่ 5 ดาวและต่อต้านการคอร์รัปชัน
- เราให้คำแนะนำ ซื้อ จากเดิมที่ ซื้อเมื่ออ่อนตัว คาดยอดขาย 1H68 จะเติบโตดี และมีปันผล ตามปัจจัยด้านฤดูกาล เราให้ราคาเป้าหมายของปี 2568 ที่ 20.00 บาทต่อหุ้น อิงจากระดับ PER เฉลี่ยที่ 12.5 เท่า