เราคาดว่า LHHOTEL จะรายงานกำไรปกติทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสใน 4Q67 ที่ 467 ลบ. เพิ่มขึ้น 46.1% YoY และ 0.3% QoQ โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้จากทรัพย์สินใหม่ที่เข้าลงทุนเพิ่มใน 4Q66 และปัจจัยฤดูกาล ดังนั้นเราจึงคาดว่าเงินปันผลงวด 4Q67 จะอยู่ที่ 0.34 บาท/หน่วย สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 0.30 บาท/หน่วย กำไร 1Q68 น่าจะเติบโต YoY ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเราคาดว่าผลกระทบจากนักท่องเที่ยวชาวจีนจะมีจำกัด เราคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ LHHOTEL โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DDM ที่ 16.5 บาท (WACC 6.5% และไม่มี terminal value) LHHOTEL เป็น top pick ของเราในกลุ่ม REITs & IFFs
ปัจจัยกระตุ้น #1: คาดกำไร 4Q67 ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาส เราคาดว่า LHHOTEL จะรายงานกำไรปกติทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสใน 4Q67 ที่ 467 ลบ. เพิ่มขึ้น 46.1% YoY และ 0.3% QoQ การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY สะท้อนถึงรายได้จากทรัพย์สินใหม่ 2 โครงการ (โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา) ที่กองทรัสต์ได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมใน 4Q66 ในขณะที่การเติบโต QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ และโรงแรม 3 ใน 5 แห่งภายใต้ LHHOTEL ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ (~50% ของรายได้ค่าเช่า) รายได้ค่าเช่าน่าจะอยู่ที่ 612 ลบ. เพิ่มขึ้น 39% YoY และ 2% QoQ ทั้งนี้เมื่ออิงกำไรปกติ 4Q67 ที่เราประเมินได้ กำไรปกติปี 2567 จะอยู่ที่ 1.8 พันลบ. (+88.8% YoY) สูงกว่าที่ประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 1.7 พันลบ. LHHOTEL จะประกาศผลประกอบการในวันที่ 27 ก.พ. นอกจากนี้เรายังคาดว่า LHHOTEL จะประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 4Q67 ที่ 0.34 บาท/หน่วย (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.6%) สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 0.30 บาท/หน่วย
ปัจจัยกระตุ้น #2: คาดกำไร 1Q68 แข็งแกร่งต่อเนื่อง นักลงทุนอาจกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ปรับตัวลดลงต่อกำไร 1Q68 ของ LHHOTEL เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วน 18% ของรายได้ ทั้งนี้จากการพูดคุยกับผู้จัดการกองทรัสต์ พบว่านับถึงปัจจุบันกองทรัสต์ยังไม่เห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโรงแรมที่อยู่ภายใต้กองทรัสต์มุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวรายบุคคลเป็นหลัก นอกจากนี้การเปิด โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ พัทยา หลังจากปรับปรุงเสร็จสิ้นในเดือนธ.ค. 2567 ยังอาจทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ด้วย นับถึงปัจจุบัน กองทรัสต์ยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก แต่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดังนั้นเราจึงคาดว่ากำไร 1Q68 น่าจะยังเติบโต YoY อย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยกระตุ้น #3: INVX คาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าตลาดคาด ตลาดคาดว่า ธปท.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม หรือปรับลดลง 25 bps ในปี 2568 ซึ่งหมายความว่าตลาดมีความคาดหวังต่ำต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่ INVX คาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 50 bps ในปีนี้ โดยการปรับลดครั้งแรกจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนส.ค. ซึ่งจะสร้างเซอร์ไพร้ส์เชิงบวกต่อ LHHOTEL เนื่องจาก LHHOTEL จัดเป็นหุ้นปันผล
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ เราเชื่อว่าราคาหน่วยลงทุน LHHOTEL จะปรับตัว outperform SET ในระยะ 3 เดือนข้างหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีที่ 2.6% สำหรับระยะเวลาการถือครอง 2 เดือน นอกจากนี้เรายังเชื่อว่าความเสี่ยง downside ต่อราคาหน่วยลงทุนมีจำกัด เนื่องจากตลาดมีความคาดหวังต่ำต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่แล้ว อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2568 ก็น่าสนใจที่ 9.7%
ความเสี่ยงและความกังวล 1) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น 2) เหตุการณ์พิเศษ เช่น สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และ 3) กองทรัสต์อาจจะไม่สามารถรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเหมือนปี 2567 เอาไว้ได้ในปี 2568 ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในด้านก๊าซเรือนกระจก พลังงาน น้ำเสีย และของเสีย อย่างมีประสิทธิภาพ (E)
Expect 4Q24 to hit quarterly record high
We expect LHHOTEL to post quarterly record high core earnings in 4Q24F of Bt467mn, growing 46.1% YoY and 0.3% QoQ, supported by contribution of new assets injected in 4Q23 and seasonality. Based on this, we expect a 4Q24 DPU of Bt0.34, exceeding our previous expectation of Bt0.30. Earnings are expected to continue to grow in 1Q25 YoY as we expect limited impact from Chinese tourists. We maintain OUTPERFORM with a DDM-based TP of Bt16.5 (6.5% WACC and no terminal value). LHHOTEL is our top pick in the REITs & IFFs sector.
Catalyst #1: Expect 4Q24F core profit to be quarterly high. We expect LHHOTEL to report 4Q24F core profit of Bt467mn, growing 46.1% YoY and 0.3% QoQ. The strong YoY growth reflects revenue from two new assets (Grande Centre Point Pattaya and Grande Centre Point Space Pattaya) acquired in 4Q23. The QoQ growth is due to seasonality, as Bangkok is one of the top countdown destinations and three of LHHOTEL’s five hotels are in Bangkok (~50% of rental income). Rental income is estimated at Bt612mn, increasing 39% YoY and 2% QoQ. Based on our 4Q24F preview, 2024F core profit will come to Bt1.8bn (+88.8% YoY), higher than our forecast of Bt1.7bn. Results will be released on Feb 27. We also expect the trust to announce a 4Q24F DPU of Bt0.34 (2.6% yield). This exceeds our previous expectation of Bt0.30.
Catalyst#2: Strong earnings to continue in 1Q25F. Investors may be worried over the potential negative impact from fewer Chinese tourists in 1Q25F as this customer group accounted for 18% of revenue. Based on our discussion with the REIT manager, any impact has been negligible thus far as the trust’s hotels focus on business and individual travelers. An added worry may be the effect of the opening of Centara Grand Mirage Pattaya after renovations in Dec 2024 on Grande Centre Point Pattaya and Grande Centre Point Space Pattaya. So far, the trust sees little effect, but is monitoring the situation. We therefore expect earnings to continue growing YoY in 1Q25F.
Catalyst#3: INVX expects more rate cuts than the market. The market expects the BoT to maintain policy rate as is or take a 25bps cut in 2025. This implies that the market has low expectations for a policy rate cut, while INVX expects a 50bps cut this year, with the first possibly at the Aug meeting. This could provide a positive surprise to LHHOTEL as it is considered as a dividend stock.
Action & recommendation. We believe share price could outperform the SET in the next three months supported by decent dividend yield of 2.6% for a two-month holding period. We also believe downside to share price is limited as the market already has low expectations for a policy rate cut. Its dividend yield in 2025F is also attractive at 9.7%.
Risks and concerns. 1) Rising bond yield, 2) extraordinary events such as COVID-19, 3) strong 2024F performance may not be repeated in 2025. Key ESG risks are effective environmental management of greenhouse gases, energy, wastewater, and waste (E).
Download EN version click >> LHHOTEL_HighConviction250206_E.pdf