PDF Available  
Company Earnings

MINT – 1Q68: รายงานกำไรปกติได้เล็กน้อยในโลว์ซีซั่น ดีกว่าตลาดคาด แต่เป็นไปตาม INVX คาด

By ระวีนุช ปิยะเกรียงไกร|20 May 25 8:32 AM
สรุปสาระสำคัญ

เมื่อหักรายการพิเศษออก MINT รายงานกำไรปกติได้เล็กน้อยใน 1Q68 ที่ 50 ลบ. ซึ่งเรามองว่าเป็นประเด็นบวก เนื่องจากโดยปกติแล้ว MINT จะมีขาดทุนปกติใน 1Q ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของยุโรป ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ การดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมในยุโรปและประเทศไทย และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง เราคาดว่ากำไรปกติ 2Q68 ของ MINT จะปรับตัวดีขึ้น YoY (จากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง) และ QoQ (เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวในยุโรป) ทั้งนี้เรามองว่าโมเมนตัมผลประกอบการใน 2Q68 ของ MINT จะดีกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว MINT เป็นหุ้นเด่นของเรา โดยที่เราให้คำแนะนำ NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 31 บาท

1Q68: รายงานกำไรปกติเล็กน้อย ดีกว่าตลาดคาด แต่เป็นไปตาม INVX คาด MINTรายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 417 ลบ. ลดลง 64% YoY และ 89% QoQ หลักๆ เกิดจากรายการพิเศษ เมื่อหักรายการพิเศษออก MINT รายงานกำไรปกติได้เล็กน้อยใน 1Q68 ที่ 50 ลบ. ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 352 ลบ. ใน 1Q67 แต่ลดลง 98% YoY จากปัจจัยฤดูกาล ซึ่งเรามองว่าเป็นประเด็นบวก เนื่องจากโดยปกติแล้ว MINT จะมีขาดทุนปกติใน 1Q ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของยุโรป ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ ธุรกิจโรงแรมในยุโรปและประเทศไทย และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง รายละเอียดเกี่ยวกับผลประกอบการ 1Q68 อยู่ในหน้า 5

 

MINT คงเป้าหมายระยะ 3 ปีไว้เช่นเดิม MINT ยังคงติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากการจองโรงแรมล่วงหน้า MINT เชื่อว่าเป้าหมายที่วางไว้ยังสามารถทำได้ โดย MINT ยังคงเป้าหมายเชิงกลยุทธ์สำหรับปี 2568-2570 ไว้เช่นเดิม โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับสูงต่อปี และตั้งเป้ากำไรเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี ซึ่งสะท้อนถึงการมุ่งเน้นเพิ่มอัตราการทำกำไร การดำเนินงานในเดือนเม.ย. สำหรับทำเลที่ตั้งหลักๆ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น โรงแรมในยุโรป (การดำเนินหลักของ MINT) เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นใน 2Q68 RevPar ในเดือนเม.ย. เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ YoY เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลอีสเตอร์ และ MINT คาดว่าการเติบโตจะสูงขึ้นในเดือนพ.ค.-มิ.ย. เมื่อพิจารณาการจองโรงแรมล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้ RevPar เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง YoY ใน 2Q68 RevPar ของโรงแรมในประเทศไทยเติบโต ~8% YoY ในเดือนเม.ย. เนื่องจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรมในต่างจังหวัดสามารถชดเชยการดำเนินงานที่อ่อนแอของโรงแรมในกรุงเทพฯ จากผลกระทบแผ่นดินไหวได้

 

ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างกับงบดุลให้แข็งแกร่ง MINT ใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการลงทุน และปรับลดงบลงทุนลงจาก 1.1 หมื่นลบ. มาอยู่ที่ 7 พันลบ. ในปี 2568 การบริหารจัดการกระแสเงินสดจะมุ่งเน้นการเสริมสร้างกับงบดุลให้แข็งแกร่ง โดย MINT วางแผนที่จะลดหนี้ในการดำเนินงานฝั่งยุโรปลงอีก 200 ล้านยูโรใน 2Q-3Q68 MINT ตั้งเป้าลดอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนลงมาอยู่ที่ 0.75 เท่าในปี 2568 (จาก 0.8 เท่าในปี 2567) MINT ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้ง REIT (ข้อมูลที่เคยให้ไว้ก่อนหน้าคือมูลค่า ~US$1.5 พันล้าน และ MINT คาดว่าจะได้เงิน ~US$700 ล้าน) อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจนเนื่องจากสภาวะตลาดไม่มีความแน่นอน

 

คงประมาณการ เราคาดว่ากำไรปกติ 2Q68 ของ MINT จะปรับตัวดีขึ้น YoY (จากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง) และ QoQ (เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวในยุโรป) ซึ่งบ่งชี้ว่า MINT จะมีผลประกอบการ 2Q68 ที่ดีกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยวที่คาดว่าผลประกอบการจะลดลง/ทรงตัว YoY (จากผลกระทบแผ่นดินไหว) และ QoQ (เป็นเป็นโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวในประเทศไทย) เราคงประมาณการของเราไว้ว่ากำไรปกติปี 2568 ของ MINT จะเติบโต 3% มาอยู่ที่ 8.7 พันลบ. โดยอิงกับรายได้ที่เติบโต 4% ซึ่งยึดหลักความระมัดระวังมากกว่าเป้าของ MINT ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF อยู่ที่ 31 บาท/หุ้น (WACC ที่ 7.2%, การเติบโตระยะยาวที่ 1.5%)

 

MINT เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มท่องเที่ยว เรามีมุมมองระมัดระวังเกี่ยวกับความต้องการเดินทางใน 2H68-ปี 2569 ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก โดยจะต้องติดตามดูผลกระทบของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอน  MINT เป็นหุ้นที่เราชอบที่สุดในกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากมีจุดแข็งด้านปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่: 1) ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันผลกระทบจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และ 2) สัดส่วนรายได้ที่อิงกับอุปสงค์ในประเทศ (ทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร) ของ MINT นั้นสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เราทำการวิเคราะห์ ซึ่งน่าจะทำให้รับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้ดีว่าการอิงอุปสงค์ต่างประเทศ

 

ปัจจัยเสี่ยง 1) ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง และ 2) ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือ การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พลังงาน น้ำเสีย และขยะ ที่มีประสิทธิภาพ (E)

 

 

1Q25: Beat market but in line with INVX with small core profit in low season

 

Excluding extra items, MINT reported a core profit of Bt50mn, a positive since 1Q – Europe’s lowest season - usually brings a core loss. Behind the profit are better hotel operations in Europe and Thailand and lower interest expense. We expect 2Q25 core earnings to improve YoY (from stronger hotel operations and lower interest expense) and QoQ (higher tourism season in Europe). We view, in 2Q25, MINT will outperform sector peers. MINT is our top pick. Neutral with end-2025 TP of Bt31.

 

1Q25: Small core profit. Beat the market but in line with INVX. MINT reported a 1Q25 net profit of Bt417mn, down 64% YoY and 89% QoQ, reflecting lower extra items.  Excluding extra gains, MINT reported a small core profit of Bt50mn, turning from a core loss of Bt352mn in 1Q24 but down 98% YoY on seasonality. We view this as a positive since MINT usually has a core loss in 1Q, as it is Europe’s lowest season. Key drivers are hotel operations in Europe and Thailand and lower interest expense. Details of the 1Q25 earnings are on page 5.

 

MINT maintains its 3-year target. MINT continues to monitor the potential impact from economic uncertainty. However, based on hotel forward bookings, it believes targets remain achievable. It reaffirmed its 2025-27 strategic targets, including high single-digit revenue growth per year and an average profit growth of 15-20% per year, reflecting its focus on margin expansion. Operations in April for key locations suggests an uptrend. Hotels in Europe (its major operations) are entering high season in 2Q25. RevPar in April grew in the low single digits YoY due to Easter and MINT is expecting higher growth in May-June based on forward bookings, that will bring RevPar to mid-single digit YoY growth in 2Q25. RevPar for hotels in Thailand grew ~8% YoY in April as strong hotel operations upcountry were able to offset the weakness in Bangkok due to the earthquake impact.

 

Focus on strengthening the balance sheet. MINT is becoming more cautious about investments and has reduced 2025 capex to Bt7bn from Bt11bn. Management of cash flow will focus on strengthening the balance sheet, with plans to further reduce debt at European operations by €200mn in 2Q-3Q25. MINT targets reducing net IBD to equity to 0.75x in 2025 from 0.8x in 2024. It is working on setting up an REIT valued at ~US$1.5bn which would give it proceeds of ~US$700mn. However, there is no specific timeline yet given the uncertainty of the market environment. 

 

Forecast maintained. We expect MINT’s core earnings to improve YoY in 2Q25 from stronger hotel operations and lower interest expense and QoQ on a higher tourism season in Europe. This suggests MINT will outperform tourism peers, whose earnings are expected to drop or be flat YoY (from the earthquake impact) and QoQ (on a lower tourism season in Thailand). We maintain our 2025 forecast of 3% growth in core profit to Bt8.7bn based on a 4% revenue growth, more conservative than MINT’s target. End-2025 DCF TP is Bt31 (WACC at 7.2%, LT growth at 1.5%).

 

MINT is our top tourism pick. We have a cautious view on travel demand in 2H25-2026, determined in large part by the global economic outlook, which in turn is heavily dependent on US tariffs, which remain uncertain. MINT is our preferred stock, backed by fundamental strengths including: 1) strong financial health that provides a cushion against potential slowdowns and 2) a relatively higher proportion of revenue from domestic demand (both hotel and food businesses), which should be more resilient to economic uncertainty than overseas demand.

 

Risks. 1) Economic slowdown derailing travel demand and 2) cost inflation damaging profitability of its hotel and food businesses. We see ESG risk as effective environmental management of greenhouse gases, energy, wastewater, and waste (E).

 

Download EN version click >> MINT250520_E.pdf

Stocks Mentioned
MINT.BK
Author
Slide5
ระวีนุช ปิยะเกรียงไกร

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มยานยนต์ การแพทย์ ท่องเที่ยว

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5