เราได้ไปเยี่ยมชมโรงพยาบาลของ BDMS ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกลุ่มบริษัทมีฐานที่มั่นคงด้วยส่วนแบ่งตลาด 30% และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แม้ว่าจะมีโรงพยาบาลเปิดใหม่ในปี 2569-2570 แต่เราไม่คิดว่าการแข่งขันในจังหวัดภูเก็ตจะรุนแรงเมื่อพิจารณาจากข้อมูลด้านอุปทาน ฐานผู้ป่วยที่กระจายตัวและบริการทางการแพทย์ที่ครบวงจรของ BDMS เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญ เรายังคงชอบ BDMS เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องผ่าน Center of Excellence และมีแนวโน้มกำไรที่ดี BDMS เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มการแพทย์ เราแนะนำ OUTPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 32 บาท
BDMS มีฐานที่มั่นคงในจังหวัดภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตมีเตียงโรงพยาบาลให้บริการรวมทั้งหมด 1,374 เตียง โดยส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งคิดเป็น 66% ของจำนวนเตียงทั้งหมด ขณะที่อีก 34% เป็นเตียงของโรงพยาบาลเอกชน BDMS เป็นเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต โดยประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ และ โรงพยาบาลดีบุก โดยครองส่วนแบ่งตลาด 30% โรงพยาบาลเครือข่ายในจังหวัดภูเก็ตให้บริการครอบคลุมกลุ่มผู้ป่วยในวงกว้างและให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรผ่านการดูแลและรักษาผู้ป่วยแบบบูรณาการ
การดำเนินงานเติบโตมากขึ้น เมื่อรวมโรงพยาบาลทั้งหมด 3 แห่งในจังหวัดภูเก็ต ผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็นสัดส่วนรายได้สูงที่สุดที่ 50% ตามด้วยผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ (fly-in) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้าที่ 28% และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในภูเก็ตที่ 22% ตลาดต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ รัสเซีย อังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมัน และฝรั่งเศส ในปี 2568 ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จาก 3 โรงพยาบาลนี้ที่ 12% YoY ซึ่งสูงกว่าเป้าการเติบโตของรายได้รวมของ BDMS ที่ 4-6% YoY ปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ ได้แก่ การเพิ่มบริการทางการแพทย์เฉพาะทางของศูนย์รักษาโรคหลักๆ ที่ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ความต้องการใช้บริการเพิ่มมากขึ้นที่ศูนย์มะเร็งภูเก็ตที่ โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ และการเข้าถึงตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เช่น ผู้ป่วยจากอินโดนีเซีย และภูมิภาคตะวันออกกลาง
การแข่งขัน แม้ว่าโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ภูเก็ต (WPH) ใน 4Q69 และ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลภูเก็ต (BH) ใน 1Q70 จะทำให้จำนวนเตียงโรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก 412 เตียง แต่เราไม่คิดว่าการแข่งขันในจังหวัดภูเก็ตจะรุนแรงเมื่อพิจารณาจากข้อมูลด้านอุปทาน ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีเตียงโรงพยาบาล 3.2 เตียงต่อประชากรที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน 1,000 คน แต่จะลดลงมาอยู่ที่ 2.3 เตียงเมื่อรวมผู้พักอาศัยทั้งหมด (ประชากรแฝง) เข้ามา เมื่อรวมจำนวนเตียงจากโรงพยาบาลใหม่เข้ามา อัตราส่วนเตียงต่อประชากร 1,000 คนจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.9 เตียง ซึ่งยังเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของประเทศไทยที่ 2.7 เตียง แต่ยังต่ำกว่ากรุงเทพฯ ที่ 6.1 เตียง ทำให้เราไม่กังวลมากว่าจะมีจำนวนเตียงโรงพยาบาลมากเกินกว่าความต้องการในจังหวัดภูเก็ต
เรามองเห็นความท้าทายสองประการสำหรับ BDMS: 1.) การดึงดูดกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีความภักดีต่อแบรนด์น้อยกว่าและคำนึงถึงความสะดวกมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ แม้ว่าผู้ป่วยที่เป็นนักท่องเที่ยวอาจไหลไปใช้บริการโรงพยาบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามา แต่การให้บริการที่ครบวงจรของ BDMS ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ระดับปฐมภูมิจนถึงระดับตติยภูมิทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขัน และ 2)การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในโรงพยาบาล ผู้บริหารเชื่อว่ากลยุทธ์การให้ค่าตอบแทนที่แข่งขันได้และการสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรจะช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนบุคลากร และทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีบุคลากรเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตในอนาคต
We visited BDMS’s hospitals in Phuket, where the group holds a strong presence with a 30% market share and promising growth prospects. While new supply is coming in 2026-27, we do not expect competition to be intense in Phuket given the supply side data. BDMS’s broad patient base and comprehensive medical services remain strong competitive advantages. We continue to favor BDMS for its sound fundamentals, ongoing service development through its Centers of Excellence, and healthy earnings trajectory. BDMS is on our top pick list. Outperform with an end-2025 DCF TP of Bt32.
BDMS has a strong presence in Phuket. Phuket has 1,374 hospital beds available, chiefly in public hospitals at 66% of total beds, with 34% in private hospitals. BDMS is the largest private hospital network in Phuket, with three hospitals -Bangkok Hospital Phuket, Bangkok Hospital Siriroj, and Dibuk Hospital - taking 30% of the market. The Phuket network serves a broad client base and offers comprehensive medical services via an integrated model.
Growing operations. Across all three BDMS hospitals in Phuket, Thai patients account for the largest share of revenue at 50%, followed by fly-in international patients — primarily tourists without advance appointments — at 28%, and expatriates at 22%. Key international markets include Russia, the UK, Australia, Germany and France. In 2025, management targets 12% revenue growth in Phuket, greater than its overall target of 4-6% YoY. This will be underwritten by expanding specialized services at Bangkok Hospital Phuket, growing demand at Phuket Cancer Center at Bangkok Hospital Siriroj and entering new markets such as Indonesia and the Middle East.
Competition. Two new hospitals — Wattanapat Hospital Phuket (WPH) in 4Q26 and Bumrungrad International Hospital Phuket (BH) in 1Q27 — will add 412 beds in Phuket. However, we do not expect this to intensify competition in Phuket in view of the supply side data. Phuket currently has 3.2 beds per 1,000 registered residents, dropping to 2.3 when including all residents. The new supply raises the ratio to 2.9, aligning with Thailand’s average of 2.7 but still below Bangkok’s 6.1, easing concern about oversupply in Phuket.
We see two challenges for BDMS. The first is attracting international tourist patients, who are less brand-sensitive and more influenced by convenience, and second, addressing hospital staff shortages. While patients who are tourists may be drawn to the new entrants, BDMS’s comprehensive service offerings across primary and tertiary care provide a competitive edge. On staffing, management believes its strategy of competitive compensation and employee engagement will mitigate risks, ensuring sufficient workforce to support future growth.
Download PDF Click > BDMS250616_E.pdf