Atlassian (TEAM): หุ้นเทคโนโลยีออสเตรเลีย ผู้เขียนอนาคตโลกการทำงานด้วย AI และ Open System

จากนักศึกษาสองคนสู่ผู้เปลี่ยนโลก

 

Atlassian เริ่มต้นจากความฝันของนักศึกษามหาวิทยาลัยสองคน Mike Cannon-Brookes และ Scott Farquharm ที่ก่อตั้งบริษัทในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ด้วยบัตรเครดิตและความตั้งใจจะสร้างสิ่งที่พวกเขาอยากใช้เอง โดยมีแนวคิดชัดเจนว่าจะไม่สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้ใครต้อง “แสดงเป็นคนอื่น” กว่า 20 ปีต่อมา Atlassian เติบโตเป็นบริษัทระดับโลก มีพนักงานกว่า 12,000 คนใน 13 ประเทศ แต่ยังคงยึดมั่นในหลักการเดิม จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 2000 ถึงต้นทศวรรษ 2010 เมื่อบริษัทมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักอย่าง Jira (สำหรับ Project Management) และ Confluence (สำหรับ Collaboration) พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาด NASDAQ ซึ่งช่วยเปิดทางสู่การขยายตัวอย่างก้าวกระโดด

 

Atlassian เชื่อว่าปัญหาการทำงานส่วนใหญ่เกิดจาก “ระบบงานแบบปิด” ที่ข้อมูลกระจัดกระจาย ทีมไม่สื่อสารกัน และมุมมองต่าง ๆ ไม่ถูกแบ่งปัน จึงผลักดันแนวคิด “การทำงานแบบเปิด” ให้เป็นหัวใจของทุกผลิตภัณฑ์และการดำเนินงาน การเข้าซื้อกิจการสำคัญ เช่น Trello ที่โดดเด่นในฐานะเครื่องมือจัดการโปรเจกต์ ช่วงกลางทศวรรษ 2010 และ Loom แพลตฟอร์มบันทึกหน้าจอที่เปลี่ยนวิธีการสื่อสารภายในทีมให้คล่องตัวยิ่งขึ้น ในต้นทศวรรษ 2020 ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งของ Atlassian ในฐานะแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันระดับโลก

 

 

โครงสร้างรายได้และธุรกิจหลัก

 

Atlassian มีโครงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งและหลากหลาย โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

 

1.Cloud Subscriptions - 65% ของรายได้รวม

เป็นธุรกิจหลักที่เติบโตแข็งแกร่งผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ Jira, Confluence, Jira Service Management, Trello, Bitbucket และ Loom พร้อมด้วย Rovo AI ที่ถูกผสานเข้ามาเป็นหัวใจของระบบ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่คลาวด์และการยอมรับเทคโนโลยี AI ในการทำงาน

 

2.Data Center Subscriptions - 29% ของรายได้รวม

เป็นโซลูชันสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการควบคุมข้อมูลและการปรับแต่งระบบเอง กลุ่มธุรกิจนี้ยังคงเติบโตแม้จะค่อย ๆ ลดสัดส่วนลงเมื่อเทียบกับคลาวด์ เนื่องจากความต้องการด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กรขนาดใหญ่

 

3.Marketplace and Other Revenue - 6% ของรายได้รวม

รวมถึงรายได้จาก Atlassian Marketplace ที่มีแอปพลิเคชันกว่า 5,700 แอป จากนักพัฒนาบุคคลที่สาม Premier Support และบริการอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจนี้สร้างความหลากหลายให้กับระบบนิเวศและเพิ่มมูลค่าให้กับแพลตฟอร์มหลัก

 

 

กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งของ Atlassian

 

Atlassian วางกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจนผ่านการสร้าง "Atlassian System of Work" ที่เชื่อมโยงทุกผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกันเป็นระบบนิเวศเดียว ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด การเปิดตัว Collections ต่าง ๆ เช่น Teamwork Collection (Jira, Confluence, Loom) และ Strategy Collection (Focus, Talent, Jira Align) แสดงให้เห็นถึงการมุ่งเน้นการสร้างโซลูชันแบบครบวงจร

 

จุดแข็งหลักของ Atlassian คือการมี "Open Company, No Bulls***" เป็นหนึ่งในค่านิยมหลัก ที่สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและซื่อสัตย์ บริษัทยังมุ่งเน้นการ "Don't F*** the Customer" ที่ทำให้พวกเขาตั้งราคาผลิตภัณฑ์ให้ทุกบริษัทสามารถเข้าถึงได้ การลงทุนใน AI ผ่าน Rovo ที่นำเสนอ Enterprise Search, Chat และ Agents ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่จะช่วยให้ Atlassian แตกต่างจากคู่แข่งในอนาคต นอกจากนี้ การมีชุมชนนักพัฒนาที่แข็งแกร่งกว่า 4.6 ล้านคน และ Marketplace ที่มีแอปพลิเคชันมากมาย ยังเป็นจุดแข็งที่สำคัญในการสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุม

 

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก

 

เทียบกับ Microsoft (MSFT) ในสหรัฐอเมริกา: Microsoft เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีแบบครบวงจร ทั้งระบบปฏิบัติการคลาวด์ และซอฟต์แวร์เพิ่มผลิตภาพ เช่น Microsoft 365, Teams และ Azure โดยมุ่งสร้าง ecosystem ที่เชื่อมโยงการทำงาน การสื่อสาร และข้อมูลในทุกระดับขององค์กร ขณะที่ Atlassian เป็นผู้พัฒนาและให้บริการซอฟต์แวร์แบบ SaaS (Software as a Service) โดยเน้นผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่น Jira, Confluence และ Trello ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการบริหารงานและการทำงานร่วมกันภายในทีม พร้อมความสามารถในการปรับแต่งผ่าน Marketplace เพื่อเพิ่มผลิตภาพในองค์กรอย่างตรงจุด

 

 

เมื่อเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

 

เทียบกับ Internet Thailand Public Company Limited (INET): ในตลาดไทย INET เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและ Cloud Solutions สำหรับองค์กรและภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการพัฒนา Data Center, Cloud Platform, และบริการ Managed Services รวมถึงระบบ G-Cloud ที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล INET ทำหน้าที่คล้ายผู้วางระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศ โดยเน้นความปลอดภัย ความเสถียร และการดูแลระบบแบบครบวงจร ขณะที่ Atlassian เป็นผู้พัฒนาและให้บริการซอฟต์แวร์ในรูปแบบ SaaS จากประเทศออสเตรเลีย โดยเน้นผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่น Jira, Confluence และ Trello ซึ่งใช้งานได้ทันทีและปรับแต่งผ่าน Marketplace Atlassian โฟกัสเฉพาะด้านการบริหารงานและการทำงานร่วมกันภายในทีมผ่านแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มผลิตภาพองค์กร โดยไม่จำเป็นต้องมีการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานเอง

 

 

ความท้าทายและการแข่งขันในตลาด

 

แม้ว่า Atlassian จะมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Tech Giants อย่าง Microsoft, Google และ Amazon ที่มีทรัพยากรมหาศาลและสามารถบูรณาการผลิตภัณฑ์เข้ากับระบบนิเวศที่ใหญ่กว่า นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านจาก Server สู่ Cloud อาจสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าบางกลุ่มที่ต้องการควบคุมระบบเอง ความท้าทายด้าน AI Competition ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เนื่องจากคู่แข่งรายใหญ่ต่างมีการลงทุนใน AI อย่างหนัก การรักษา talent และการแข่งขันเพื่อหา AI Engineers และ Data Scientists ที่มีคุณภาพก็เป็นความท้าทายในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การเติบโตของ  Low-code/No-code platforms (สร้างแอปพลิเคชันหรือระบบซอฟต์แวร์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด) อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการเครื่องมือพัฒนาแบบดั้งเดิม บางประเภทของ Atlassian

 

 

อนาคตและโอกาสของ Atlassian

 

อนาคตของ Atlassian มีความสดใสด้วยการลงทุนหนักใน AI และการสร้าง System of Work ที่สมบูรณ์แบบ การเปิดตัว Rovo ใน premium และ Enterprise Editions สำหรับทุกผลิตภัณฑ์หลัก จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและความแตกต่างจากคู่แข่ง การพัฒนา Government Cloud และ Isolated Cloud สำหรับ Enterprise Customers (ลูกค้าประเภทองค์กรขนาดใหญ่) ที่มีความต้องการด้านความปลอดภัยสูง จะเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพมหาศาล

 

การร่วมมือกับ Williams Racing ในฐานะ Official Technology Partner แสดงให้เห็นถึงการมุ่งเน้นการสร้าง Brand Awareness ในระดับโลก ขณะเดียวกันการมีลูกค้าที่มี Cloud ARR (Cloud Annual Recurring Revenue) มากกว่า $10,000 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงการขยายตัวในกลุ่ม Enterprise Market ที่มี Lifetime Value สูง การพัฒนา Customer Service Management app และ Strategy Collection ยังเป็นการขยายตลาดไปยังหน่วยงานหลักภายในองค์กรใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ด้วยเทรนด์ Digital Transformation และ Remote Work ที่ยังคงเติบโต Atlassian มีโอกาสที่จะเป็นผู้นำในการกำหนดอนาคตของการทำงานทีมระดับโลก

 

สนใจลงทุนในหุ้น Atlassian (Ticker: TEAM) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน