Meituan (3690.HK) บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการค้าปลีกดิจิทัล ด้วยแนวคิด "Retail + Technology" ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นในทุกมิติ ผ่านระบบนิเวศแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทุกความต้องการในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การสั่งอาหารส่งถึงบ้าน การจองโรงแรม ไปจนถึงการซื้อของใช้ต่างๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI โดรน และรถส่งสินค้าไร้คนขับ ทำให้บริษัทแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง
จากธุรกิจเรียบง่ายสู่ยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยี
Meituan ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ด้วยเป้าหมายการยกระดับดิจิทัลของการค้าปลีกและบริการทั้งฝั่งผู้บริโภคและผู้ให้บริการ จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงในปี 2018 พร้อมกับการพัฒนากลยุทธ์ "Retail + Technology" ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจ
การดำเนินงานของ Meituan ตั้งอยู่บนหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การใส่ใจลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพ และการมุ่งมั่นสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม
วิสัยทัศน์ของ Meituan ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเป็นแพลตฟอร์มส่งอาหารหรือบริการท่องเที่ยว แต่กำลังพัฒนาตัวเองเป็น Tech-driven Retail Giant ที่ผสานระหว่าง AI ระบบอัตโนมัติ และโซลูชันดิจิทัลเพื่อเปลี่ยนโฉมการค้าปลีกในจีน ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ยั่งยืน
โครงสร้างรายได้ที่สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ
โครงสร้างรายได้ที่สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ Meituan ดำเนินธุรกิจผ่าน 9 ธุรกิจหลัก โดยมีรายได้มาจาก:
ธุรกิจหลัก (Core Business)
- บริการส่งอาหาร (Delivery Services) – 30% ของรายได้รวม
ธุรกิจหลักที่ครอบคลุมการส่งอาหารจากร้านอาหารถึงลูกค้า กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ที่มีความต้องการใช้บริการ delivery สูงขึ้น - ค่าคอมมิชชั่นจากร้านค้า (Commission) – 28% ของรายได้รวม
รายได้จากการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากร้านอาหาร โรงแรม และธุรกิจบริการต่างๆ ที่ใช้แพลตฟอร์ม Meituan กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งตามปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของร้านค้าใน ecosystem ของ Meituan โดยเฉพาะในเมืองรอง (เมืองที่ไม่ใช่เมืองหลักหรือเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม) - บริการการตลาดออนไลน์ (Online Marketing Services) – 14% ของรายได้รวม
รายได้จากการขายโฆษณาและบริการการตลาดดิจิทัลให้กับร้านค้าและผู้ประกอบการ
กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากเทรนด์ digitalization ของ SME และความต้องการเพิ่ม visibility บนแพลตฟอร์ม Meituan - บริการอื่นๆ (Other Services) – 2% ของรายได้รวม
รวมถึงการจองที่พัก ท่องเที่ยว บริการทางการแพทย์ และการชำระเงิน กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากการขยายบริการครบวงจรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่ม middle-class ที่ขยายตัวในเมืองระดับรอง
ธุรกิจใหม่ (New Business)
- ธุรกิจค้าปลีกของสด (Grocery Retail) – 12% ของรายได้รวม
รวมถึง Xiaoxiang Supermarket (ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นในประเทศจีน) และ Meituan Select (บริการช้อปปิ้งแบบรวมกลุ่ม (Community Group Buying) ภายใต้บริษัท Meituan) ที่มุ่งสนับสนุนผู้ส่งออกในการจำหน่ายสินค้าคุณภาพในตลาดภายในประเทศ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากพฤติกรรมการซื้อของสดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น และความต้องการของผู้บริโภคในเมืองรองที่ต้องการสินค้าเข้าถึงง่ายในราคาประหยัด - การจัดจำหน่ายอาหารแบบ B2B (B2B Food Distribution) – 6% ของรายได้รวม
บริการจัดจำหน่ายอาหารและวัตถุดิบให้กับร้านอาหารและธุรกิจขนาดใหญ่ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งตามการฟื้นตัวของภาคบริการอาหาร และความต้องการระบบจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพในเมืองที่พัฒนาเร็ว - บริการจักรยานและจักรยานยนต์แชร์ (Bike & e-moped sharing) – 3% ของรายได้รวม
บริการเช่าจักรยานและจักรยานยนต์ไฟฟ้าในเมืองต่างๆ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากการสนับสนุนของรัฐด้าน Green Mobility และพฤติกรรมเดินทางระยะสั้นของประชาชนในเมืองใหญ่ - ระบบ SaaS (Software as a Service) และ Power bank (Restaurant SaaS, Power bank) – 3% ของรายได้รวม
ระบบจัดการร้านอาหารและบริการเช่าแบตเตอรี่สำรอง กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากการใช้เทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการของร้านค้า SME และความต้องการบริการ on-the-go ที่สะดวกสบาย - ธุรกิจต่างประเทศ (Overseas Business) – 2% ของรายได้รวม
การขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศผ่านแบรนด์ Keeta ในซาอุดิอาระเบียและตะวันออกกลาง กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากการเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ที่ยังไม่มีผู้เล่นรายใหญ่ครองตลาด และความต้องการบริการ on-demand ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โครงสร้างรายได้ที่หลากหลายนี้ช่วยให้ Meituan มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวเมื่อเผชิญกับความผันผวนในแต่ละตลาด และเป็นการกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งของ Meituan
Meituan วางกลยุทธ์การเติบโตผ่านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเน้นการพัฒนา AI โดรน และรถส่งสินค้าไร้คนขับเป็นหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและลดต้นทุนการดำเนินงาน บริษัทมุ่งเน้นการสนับสนุน เจ้าของกิจการ ทั่วประเทศให้เติบโตไปพร้อมกับ ecosystem ของ Meituan ผ่านการให้สิทธิประโยชน์แก่คนส่งของ เช่น การประกันอุบัติเหตุและโครงการบำนาญ
จุดแข็งสำคัญของ Meituan คือการมีระบบนิเวศแบบครบวงจรที่เชื่อมโยงทุกบริการเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การสั่งอาหาร การซื้อของใช้ การจองที่พัก ไปจนถึงบริการทางการแพทย์ ผ่านแพลตฟอร์มเดียว นอกจากนี้ การเปิดตัวโปรแกรมสมาชิก "Meituan Membership" ที่ครอบคลุมทุกหมวดธุรกิจ ช่วยเพิ่มความถี่ในการใช้บริการและสร้างความผูกพันกับลูกค้าระยะยาว
เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก
เทียบกับ Grab Holdings Limited (GRAB) ในประเทศสิงคโปร์: Grab Holdings Ltd และ Meituan ต่างเป็น Super App ชั้นนำของเอเชียที่รวมบริการในชีวิตประจำวัน เช่น food delivery, digital payments และจองโรงแรม โดยมีเป้าหมายในการสร้าง ecosystem ดิจิทัลที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมลงทุนในเทคโนโลยีและโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Meituan โดดเด่นด้วยการควบคุม value chain เองทั้งหมด ตั้งแต่แพลตฟอร์มถึงโลจิสติกส์ ทำให้ขยายบริการได้ลึกและรวดเร็ว ครอบคลุมผู้ใช้กว่า 3,000 เมืองในจีน พร้อมสร้างกำไรจากธุรกิจหลักอย่าง food delivery และ local services ขณะที่ Grab เน้นขยายผ่านพันธมิตรระดับโลก เช่น Agoda และ Mastercard เพื่อเร่งการเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยยังอยู่ในช่วงสร้างความยั่งยืนทางกำไร
เมื่อเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย
เทียบกับ 7-11 ในเครือ CP ALL Public Company Limited (CPALL): ในตลาดไทย แม้ว่า CPALL ซึ่งเป็นเจ้าของ 7-Eleven กว่า 14,000 สาขาทั่วประเทศจะมีการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ผ่าน All Online แต่ก็ยังไม่ใช่แพลตฟอร์มดิจิทัลเต็มรูปแบบเหมือน Meituan แต่ทั้งสองต่างมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ “การบริโภคประจำวัน” และมีช่องทางออนไลน์ของตนเอง เช่น All Online App, ALL Member และ TrueMoney Wallet โดยเฉพาะบริการ 7DELIVERY และ All Online ส่งด่วน ที่จัดส่งสินค้าจากร้าน 7-Eleven ถึงหน้าบ้านภายในไม่กี่นาที คล้ายกับ Meituan ที่ให้บริการส่งอาหารและของใช้แบบ last-mile delivery ทั้งสองใช้เทคโนโลยีและระบบสมาชิกเพื่อเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ อย่างไรก็ตาม โมเดลธุรกิจแตกต่างกันอย่างชัดเจน CPALL เป็นผู้ให้บริการค้าปลีกโดยตรง (asset-heavy) รายได้พึ่งพายอดขายหน้าร้านและการบริหารสาขา ขณะที่ Meituan เป็นแพลตฟอร์มตัวกลาง ที่สร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่นและบริการดิจิทัล โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของร้านค้าหรือระบบโลจิสติกส์เอง
ความท้าทายและการแข่งขันในตลาด
แม้ว่า Meituan จะมีฐานะแข็งแกร่งในตลาดจีน แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Alibaba ที่มี Ele.me และ JD.com ที่มี Dada-JD Daojia ทำให้ต้องลงทุนในการแข่งขันด้านราคาและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านวัฒนธรรม กฎระเบียบ และการแข่งขันกับผู้เล่นท้องถิ่นที่มีความเข้าใจตลาดมากกว่า การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และระบบอัตโนมัติต่างๆ ยังต้องใช้เงินลงทุนสูงและอาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจน
อนาคตและโอกาสของ Meituan
Meituan มีโอกาสการเติบโตที่น่าสนใจในหลายมิติ การขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศผ่านแบรนด์ Keeta ในตะวันออกกลางแสดงให้เห็นศักยภาพในการนำโมเดลธุรกิจไปประยุกต์ใช้ในตลาดใหม่ การพัฒนาเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาว โดยเฉพาะการใช้โดรนและรถส่งสินค้าไร้คนขับที่จะปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาบริการใหม่ๆ ในกลุ่ม New Initiatives ยังเป็นแหล่งการเติบโตที่สำคัญในอนาคต
สนใจลงทุนในหุ้น Meituan (Ticker: 3690.HK, DR: MEITUAN19, MEITUAN80) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
