Keyword
Company History

Mitsubishi UFJ Financial Group (8306.T) จากธนาคารชุมชน สู่ผู้นำการเงินระดับโลก พร้อมกำไร 2 ล้านล้านเยน

2 Jul 25 1:44 PM
Mitsubishi UFJ Financial Group (8306.T) จากธนาคารชุมชน สู่ผู้นำการเงินระดับโลก พร้อมกำไร 2 ล้านล้านเยน
สรุปสาระสำคัญ

Mitsubishi UFJ Financial Group (8306.T) กลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว กำลังกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่น่าจับตาในเวทีการเงินระดับโลก ด้วยศักยภาพในการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและแม่นยำ MUFG แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับโครงสร้างพอร์ตการลงทุนให้สอดรับกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างเป็นระบบ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับรายได้และลดการพึ่งพาตลาดภายในประเทศ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ MUFG สร้างความตื่นตัวในตลาดไม่น้อย เมื่อบริษัทตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิ ประมาณ 460,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตทั้งในเชิงรายได้และการควบคุมต้นทุน ขณะเดียวกันยังประกาศแผนซื้อหุ้นคืนมูลค่า 250 พันล้านเยนในช่วงครึ่งปีแรก เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพขององค์กรที่ไม่ได้เป็นเพียงธนาคารในประเทศเท่านั้น แต่คือผู้นำทางการเงินที่มีวิสัยทัศน์ระดับโลก พร้อมเดินเกมเชิงรุกในยุคที่ภูมิทัศน์การเงินเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จากธนาคารชุมชนสู่กลุ่มการเงินระดับโลก

 

Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) เริ่มต้นจากการควบรวมกิจการครั้งสำคัญในปี 2005 ระหว่าง Bank of Tokyo-Mitsubishi และ UFJ Holdings ซึ่งต่างมีรากฐานมั่นคงในระบบการเงินญี่ปุ่น โดย Bank of Tokyo มีบทบาทในการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลก ขณะที่ UFJ เกิดจากการรวมตัวของ Sanwa Bank, Tokai Bank และ Toyo Trust & Banking ซึ่งล้วนเป็นสถาบันการเงินเก่าแก่ การควบรวมครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างขนาดสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่ยังผสานจุดแข็งด้านเทคโนโลยี เครือข่ายสาขา และการบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

การขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศถือเป็นจุดเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ MUFG ได้เข้าซื้อกิจการ Bank Danamon ในอินโดนีเซียในปี 2009 ตามด้วย Bank of Ayudhya (กรุงศรี) ในประเทศไทยในปี 2013 ซึ่งทำให้กลุ่มสามารถวางรากฐานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบัน MUFG ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 40 ล้านรายทั่วโลก และมีสินทรัพย์รวมมากกว่า 413 ล้านล้านเยน ตอกย้ำสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมการเงินระดับโลก

 

 

โครงสร้างรายได้ที่หลากหลายและมีเสถียรภาพ

 

MUFG มีโครงสร้างรายได้ที่กระจายความเสี่ยงได้ดีผ่าน 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

 

1.Retail & Digital Business (R&D) - 16% ของรายได้รวม

ธุรกิจการเงินรายย่อยและดิจิทัลที่เน้นบริการลูกค้าบุคคลในประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมบัญชีเงินฝาก สินเชื่อบ้าน และบัตรเครดิต กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจาก Digital Transformation และการใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า แม้จะเผชิญกับการหดตัวของประชากรญี่ปุ่น แต่การเปลี่ยนไปใช้บริการธนาคารดิจิทัลและ Fintech ทำให้ต้นทุนการให้บริการลดลงและเพิ่มประสิทธิภาพ

 

 

2.Commercial Banking & Wealth Management (CWM) – 18% ของรายได้รวม

ธุรกิจการเงินธุรกิจและการจัดการความมั่งคั่ง เฉพาะสำหรับลูกค้า SME และลูกค้าผู้มีฐานะในประเทศญี่ปุ่น มีแนวโน้มเติบโตจากการขยายบริการด้านการลงทุนและการวางแผนทางการเงิน โดยได้รับประโยชน์จากสังคมสูงวัยที่มีความต้องการจัดการเงินออมและสืบทอดทรัพย์สิน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนมหาเศรษฐีในญี่ปุ่น

 

 

3.Japanese Corporate & Investment Banking (JCIB) - 22% ของรายได้รวม

ธุรกิจให้บริการแก่บริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น รวมถึงการจัดหาเงินทุนและบริการธนาคารการลงทุน กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น การขยายธุรกิจระหว่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่น และการลงทุนในโครงการ Green Energy เพื่อตอบสนองเป้าหมาย Carbon Neutral ของญี่ปุ่นในปี 2050

 

 

4.Global Commercial Banking (GCB) - 22% ของรายได้รวม

ธุรกิจการเงินพาณิชย์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะผ่าน Krungsri และ Bank Danamon มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในไทยและอินโดนีเซีย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่เร่งขึ้นหลังโควิด-19

 

 

5.Asset Management & Investor Services (AM/IS) - 8% ของรายได้รวม

ธุรกิจการจัดการสินทรัพย์และบริการสำหรับนักลงทุนสถาบัน (Institutional Investor) กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการบริการจัดการเงินออมสำหรับสังคมสูงวัยในญี่ปุ่น การเพิ่มขึ้นของการลงทุนใน ESG (Environmental, Social, Governance) และการขยายตัวของตลาดทุนในเอเชีย ที่ต้องการบริการจัดการสินทรัพย์ระดับสถาบัน

 

 

6.Global Corporate & Investment Banking (GCIB) - 14% ของรายได้รวม

ธุรกิจธนาคารการลงทุนระดับโลก ให้บริการแก่บริษัทข้ามชาติ มีแนวโน้มเติบโตจากการขยายการค้าระหว่างประเทศ ความต้องการบริการทางการเงินที่ซับซ้อน การเพิ่มขึ้นของ M&A ข้ามชาติ และแนวโน้ม Deglobalization ที่ทำให้บริษัทต้องการบริการธนาคารที่มีเครือข่ายในหลายภูมิภาคเพื่อบริหารความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ธุรกิจธนาคารการลงทุนระดับโลก ให้บริการแก่บริษัทข้ามชาติ มีแนวโน้มเติบโตจากการขยายการค้าระหว่างประเทศและความต้องการบริการทางการเงินที่ซับซ้อน

 

Picture7ๆqq.png

 

กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งของ MUFG

 

MUFG วางกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวผ่าน 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ การขยายและปรับปรุงกลยุทธ์การเติบโต  การสร้างความก้าวหน้าทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และ การขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง จุดแข็งที่โดดเด่นของ MUFG คือการมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายย่อย รายกลาง และองค์กรขนาดใหญ่ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถกระจายความเสี่ยงและตอบสนองความต้องการที่แตกต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ MUFG ยังเป็นผู้นำด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการเงิน โดยเฉพาะการบูรณาการเทคโนโลยี AI การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และระบบ Automation เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ ในด้านความยั่งยืน MUFG มีบทบาทนำในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพอร์ตการลงทุนให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 พร้อมทั้งสนับสนุนเงินทุนแก่โครงการที่ส่งเสริม ESG รวมถึงพันธกิจในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ยั่งยืน

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก

 

เทียบกับ Sumitomo Mitsui Financial Group (8316.T) ในญี่ปุ่น :

Sumitomo Mitsui Financial Group (SMFG) ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 จากการควบรวมกิจการของกลุ่ม Sumitomo Bank และ Sakura Bank ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยดำเนินธุรกิจครอบคลุมธนาคารพาณิชย์ บริการสินเชื่อ การเงินเพื่อองค์กร และวาณิชธนกิจในระดับโลก

 

SMFG และ MUFG เป็นสองสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่แข่งขันกันโดยตรงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ลูกค้ารายย่อย SME จนถึงองค์กรระดับโลก โดยต่างมุ่งพัฒนาบริการดิจิทัลและขยายฐานลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการลงทุนในธนาคารท้องถิ่น เช่น SMFG ในอินโดนีเซีย และ MUFG ในไทย อย่างไรก็ตาม MUFG มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และบริการมากกว่า โดยเน้นการเติบโตระยะยาวผ่านเครือข่ายธนาคารและธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั่วโลก ขณะที่ SMFG มุ่งเพิ่มผลตอบแทนระยะสั้นและแข็งแกร่งในด้านวาณิชธนกิจและตลาดทุนในภูมิภาค

 

เมื่อเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

 

เทียบกับ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) : Kasikornbank (KBANK) ก่อตั้งขึ้นในปี 2488 โดยเริ่มจากการเป็นธนาคารพาณิชย์ในประเทศ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นธนาคารชั้นนำของไทยที่มีจุดแข็งด้านสินเชื่อ SME, บริการดิจิทัล และการให้บริการลูกค้ารายย่อย ปัจจุบัน KBANK ขยายบริการสู่กลุ่ม CLMV และมีความโดดเด่นด้านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น K PLUS ที่มีฐานผู้ใช้งานมากที่สุดในไทย

 

ทั้ง KBANK และ MUFG เป็นธนาคารชั้นนำในประเทศของตน โดยมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคและมุ่งสู่การให้บริการดิจิทัล รองรับลูกค้า SME และองค์กรที่ต้องการโซลูชันการเงินครบวงจร แม้ KBANK จะมีขนาดเล็กกว่า MUFG อย่างชัดเจน แต่เน้นขยายธุรกิจในอาเซียน ขณะที่ MUFG ใช้กลยุทธ์ระดับโลกผ่านการลงทุนในธนาคารท้องถิ่น เช่น กรุงศรีในไทย และสถาบันการเงินในเวียดนามและอินโดนีเซีย พร้อมด้วยธุรกิจวาณิชธนกิจระดับนานาชาติที่แข็งแกร่ง โดย KBANK ยังพึ่งพารายได้ในประเทศเป็นหลัก ส่วน MUFG มีความหลากหลายทั้งด้านภูมิศาสตร์และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

 

 

ความท้าทายและการแข่งขันในตลาด

 

แม้ MUFG จะมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แต่ก็เผชิญกับความท้าทายจากหลากหลายปัจจัย ทั้งการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจาก Fintech และธนาคารดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศซึ่งอาจกระทบต่อธุรกิจข้ามชาติ รวมถึงความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยที่อาจส่งผลต่อรายได้จากการปล่อยสินเชื่อ ขณะเดียวกัน ปัญหาโครงสร้างประชากรสูงวัยในญี่ปุ่นยังเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตภายในประเทศ ทำให้ MUFG ต้องเร่งขยายธุรกิจในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสใหม่ในระยะยาว

 

 

อนาคตและโอกาสของ MUFG

 

MUFG มีโอกาสการเติบโตที่น่าสนใจจากหลายปัจจัย การขยายตัวในภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะผ่านการลงทุนใน Krungsri และ Bank Danamon ที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตของชนชั้นกลางในภูมิภาค การพัฒนาเทคโนโลยี AI และดิจิทัลแบงกิ้งที่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการเป็นผู้นำด้านการเงินยั่งยืนที่จะเปิดโอกาสทางธุรกิจ

 

สนใจลงทุนในหุ้น Mitsubishi UFJ Financial Group (Ticker: 8306.T หรือ DR: MUFG19) และหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน

คลิกเลย! 👉https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

Stocks Mentioned
8306.T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5