Keyword
Company History

Amazon.com (AMZN) ผู้บุกเบิก Cloud Service สร้างโอกาสให้ผู้ขาย บริการรวดเร็ว สินค้าครบจบในที่เดียว

2 Jul 25 2:10 PM
Amazon.com (AMZN) ผู้บุกเบิก Cloud Service สร้างโอกาสให้ผู้ขาย บริการรวดเร็ว สินค้าครบจบในที่เดียว
สรุปสาระสำคัญ

Amazon.com Inc. (AMZN) บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกจากสหรัฐอเมริกาที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในยุค AI ด้วยการเปิดตัว Alexa+ ที่ฉลาดกว่าเดิมหลายเท่าตัว การพัฒนาชิป Trainium2 สำหรับ AI และการขยายบริการ Amazon Nova อย่างรวดเร็ว บริษัทนี้ไม่เพียงแค่ครองตลาด E-commerce และคลาวด์เท่านั้น แต่กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำด้าน AI ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรม ด้วยลูกค้ากว่า 200 ล้านคนทั่วโลกและการเติบโตของ AWS ที่ไม่มีใครเทียบ Amazon กำลังสร้างอนาคตที่ AI และมนุษย์อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

จากร้านหนังสือออนไลน์สู่จักรวาลเทคโนโลยีโลก

 

Amazon ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 โดย Jeff Bezos ด้วยการเริ่มต้นเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์จากโรงรถในบ้านเล็ก ๆ ในเมือง Bellevue รัฐวอชิงตัน ความฝันของ Bezos คือการสร้าง "ร้านค้าแห่งทุกสิ่ง" ที่ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ผ่านอินเทอร์เน็ต

 

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2005 เมื่อ Amazon เปิดตัวบริการ Amazon Prime ที่มอบการจัดส่งฟรีภายใน 2 วัน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรมการค้าปลีก ต่อมาในปี 2006 Amazon Web Services (AWS) เปิดตัว โดยเริ่มจากบริการจัดเก็บข้อมูลและคอมพิวเตอร์คลาวด์อย่างง่าย แต่กลายเป็นธุรกิจคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

ปี 2014 เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญเมื่อ Amazon เปิดตัว Alexa และ Echo ทำให้บริษัทก้าวเข้าสู่ยุคของ Voice AI และ Smart Home อย่างเต็มตัว การลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยี AI, Machine Learning และ Quantum Computing ทำให้ Amazon กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีของโลก ขณะเดียวกันการขยายธุรกิจไปสู่ด้านความบันเทิงผ่าน Prime Video, Amazon Studios และการซื้อ Whole Foods ในปี 2017 ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งของ ecosystem ที่ครอบคลุมทุกมิติของชีวิต

 

 

โครงสร้างรายได้

 

Amazon มีโครงสร้างรายได้ที่กระจายความเสี่ยงได้ดี แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

 

1.ร้านค้าออนไลน์ (Online Stores) – 36.88% ของรายได้รวม
ธุรกิจขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ Amazon โดยตรง ซึ่งถือเป็นช่องทางสร้างรายได้หลักของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซโลก และพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

2.บริการผู้ขายบุคคลที่สาม (Third-party Seller Services) – 23.46% ของรายได้รวม
บริการสนับสนุนผู้ขายอิสระ เช่น ค่าธรรมเนียมขายสินค้า การจัดเก็บ และโลจิสติกส์ (Fulfillment by Amazon) ที่ช่วยให้แบรนด์รายย่อยเข้าถึงผู้บริโภค กลุ่มธุรกิจนี้เติบโตจากจำนวนผู้ขายที่เพิ่มขึ้น ความต้องการใช้บริการแบบครบวงจร และความสามารถในการเข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของ Amazon

 

3.AWS (Amazon Web Services) – 18.80% ของรายได้รวม
ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผล และโครงสร้างพื้นฐานไอที ซึ่งเป็นแหล่งกำไรหลักของบริษัท มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทั่วโลก ความต้องการระบบคลาวด์ที่ยืดหยุ่น และการขยายตัวของเทคโนโลยี AI และ Big Data

 

4.บริการโฆษณา (Advertising Services) – 8.94% ของรายได้รวม
บริการโฆษณาแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้บนแพลตฟอร์ม Amazon เช่น Sponsored Products และ Amazon DSP ธุรกิจนี้เติบโตเร็วจากงบโฆษณาดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น ความสามารถในการใช้ข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก และความแม่นยำของระบบแนะนำสินค้า

 

5.บริการสมัครสมาชิก (Subscription Services) – 7.53% ของรายได้รวม
รายได้จากค่าสมาชิก Amazon Prime ที่ให้สิทธิพิเศษในการจัดส่ง ความบันเทิง และส่วนลดต่าง ๆ
มีแนวโน้มเติบโตจากความนิยมในการสมัครใช้บริการแบบคุ้มค่า และการลงทุนในเนื้อหาวิดีโอ เพลง และสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับสมาชิก

 

6.ร้านค้าจริง (Physical Stores) – 3.55% ของรายได้รวม
ธุรกิจค้าปลีกออฟไลน์ เช่น Whole Foods Market, Amazon Go และ Amazon Fresh เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ Omnichannel แนวโน้มเติบโตสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการการช้อปปิ้งแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ

 

7.อื่น ๆ (Others) – 0.84% ของรายได้รวม
รวมรายได้จากธุรกิจขนาดเล็กและการลงทุนในนวัตกรรม เช่น อุปกรณ์ Alexa, บริการด้านสุขภาพ และโปรเจกต์ทดลอง กลุ่มนี้อาจมีสัดส่วนน้อย แต่เป็นแหล่งเพาะโอกาสใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างธุรกิจแห่งอนาคตของ Amazon

 

Picture2qq.png

 

โครงสร้างรายได้แบบ Diversified นี้ช่วยให้ Amazon สามารถรับมือกับความผันผวนในแต่ละตลาดได้ดี โดย AWS ทำหน้าที่เป็น Growth Engine ที่มีอัตรากำไรสูง ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและ ecosystem ที่ครบครัน

 

กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งของ Amazon

 

Amazon วางกลยุทธ์ "Customer Obsession" เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแทนการแข่งขันกับคู่แข่ง กลยุทธ์นี้ทำให้บริษัทสามารถสร้างความภักดีของลูกค้าและขยายธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

จุดแข็งที่สำคัญคือการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ตั้งแต่ระบบแนะนำสินค้า การจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ ไปจนถึง Alexa และบริการ AI สำหรับองค์กร Amazon ยังมี ecosystem ที่ครบครันตั้งแต่การค้าปลีก คลาวด์ ความบันเทิง ไปจนถึงอุปกรณ์ Smart Home ทำให้สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าและสร้าง Synergy ระหว่างธุรกิจได้เป็นอย่างดี

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการจัดส่งและ Fulfillment Network ที่ใหญ่ที่สุดในโลกช่วยให้ Amazon สามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการใช้เทคโนโลยี Automation และ Robotics ในคลังสินค้าเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำ นอกจากนี้ การมีบริการ Prime ที่มีสมาชิกกว่า 200 ล้านคนทั่วโลกยังเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงและช่วยเพิ่ม Customer Lifetime Value อย่างมีนัยสำคัญ

 

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก

 

เทียบกับ Alibaba group (9988.HK) ในจีน : Alibaba Group ก่อตั้งในปี 1999 โดยแจ็ค หม่า เริ่มจาก B2B ออนไลน์ ปัจจุบันเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซ คลาวด์ และฟินเทคของจีนที่มีอิทธิพลระดับโลก Amazon และ Alibaba ต่างเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่มีแพลตฟอร์มเชื่อมโยงผู้ซื้อ-ผู้ขาย พร้อมขยายธุรกิจสู่คลาวด์ โลจิสติกส์ การชำระเงินดิจิทัล และความบันเทิง โดยมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก จุดต่างคือ Amazon เน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและขายสินค้าเอง (Inventory-based) ควบคู่กับ Marketplace ขณะที่ Alibaba ใช้โมเดลตัวกลาง (Asset-light) ที่ไม่ถือสินค้าเอง ทำให้โครงสร้างต้นทุนและรายได้ต่างกัน อีกทั้ง Amazon แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือและยุโรป ส่วน Alibaba ครองตลาดจีนและเอเชีย

 

 

เปรียบเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

 

เทียบกับ Central Retail Corporation (CRC): Central Retail Corporation (CRC) เป็นผู้นำค้าปลีกในไทย มีสาขากว่า 1,800 แห่งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ครอบคลุมอาหาร แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และสุขภาพ พร้อมระบบ Omnichannel ที่เชื่อมต่อหน้าร้านกับออนไลน์ อีกทั้งยังมีแบรนด์ในเครืออย่าง OfficeMate ซึ่งเป็นค้าปลีกสินค้าออฟฟิศและอุปกรณ์สำนักงานที่เทียบได้กับบทบาทของ Amazon Business ในสหรัฐฯ CRC และ Amazon ต่างเป็นผู้นำค้าปลีกที่พัฒนา Ecosystem ครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดย CRC เด่นด้านเครือข่ายหน้าร้านและความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในภูมิภาค ขณะที่ Amazon แข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ระบบคลาวด์ (AWS) และบริการดิจิทัลครบวงจร เช่น Prime และระบบ Fulfillment อัตโนมัติ

 

 

ความท้าทายและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

 

แม้ Amazon จะเป็นบริษัทใหญ่ แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ การแข่งขันในตลาดคลาวด์จาก Microsoft Azure และ Google Cloud ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเข้ามาของผู้เล่นใหม่ในตลาด AI ที่อาจส่งกระทบต่อความเป็นผู้นำของ AWS ในระยะยาว ด้านการควบคุมของรัฐบาล Amazon ต้องเผชิญกับการตรวจสอบด้าน Antitrust จากหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขยายธุรกิจหรือการเข้าซื้อกิจการในอนาคต การพึ่งพิงแรงงานคนจำนวนมากในศูนย์กระจายสินค้ายังเป็นความเสี่ยงด้านต้นทุนแรงงานและประเด็นสิทธิแรงงาน ที่อาจส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานและชื่อเสียงของบริษัท

 

 

อนาคตและโอกาสของ Amazon

 

Amazon มีโอกาสการเติบโตที่น่าตื่นเต้นในหลายด้าน การพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่าง Alexa+ ที่ฉลาดขึ้นและสามารถทำงานแทนผู้ใช้ได้จริง รวมถึงบริการ Amazon Nova ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จะช่วยสร้างรายได้ใหม่และเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด Project Kuiper สำหรับอินเทอร์เน็ตดาวเทียมจะเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การขยายธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ผ่านเทคโนโลยี Telemedicine และ AI diagnosis มีศักยภาพสูงมาก ขณะที่การพัฒนา Autonomous Vehicle ผ่าน Zoox จะปฏิวัติระบบขนส่งและ Delivery ในอนาคต ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน Quantum Computing และ Semiconductor ผ่านชิป Trainium และ Inferentia Amazon กำลังวางตัวเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีขั้นสูงที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในทศวรรษต่อไป

 

สนใจลงทุนในหุ้น Amazon (Ticker: AMZN หรือ DR: AMZN01, AMZN06, AMZN80) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

Stocks Mentioned
AMZN.NB
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5