จากวันวานสู่วันนี้ของเจ้าพ่อแบตเตอรี่ CATL

เรื่องราวของ CATL เริ่มต้นเมื่อ Zeng Yuqun ผู้ก่อตั้ง มองเห็นโอกาสทองในยุคที่รัฐบาลจีนเริ่มผลักดันนโยบายรถยนต์พลังงานสะอาด เขาและทีมงานตัดสินใจลาออกจาก ATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่มือถือชื่อดัง เพื่อมาสร้างอาณาจักรแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง
วันนี้ CATL ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตแบตเตอรี่ธรรมดา แต่คือผู้กำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง BYD เเบตเตอร์รี่  ไปไกล แบตเตอรี่ของพวกเขาอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าแทบทุกแบรนด์ดังที่วิ่งอยู่บนท้องถนน เช่น Tesla, BMW, Mercedes-Benz ไปจนถึงแบรนด์จีนอย่าง Nio และ Xiaomi

 

 

แหล่งรายได้ที่หลากหลายของ CATL

สิ่งที่น่าสนใจคือ CATL ไม่ได้พึ่งพารายได้จากแหล่งเดียว แต่สร้างความหลากหลายอย่างชาญฉลาด:

1. แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV Batteries) - 68% ขุมทรัพย์หลักที่สร้างรายได้มากที่สุด แม้ว่าสัดส่วนจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน แต่ยังคงเป็นเสาหลักของบริษัท จากการเป็นซัพพลายเออร์ให้กับค่ายรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก
2. ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage Systems) - 17.9% ธุรกิจดาวรุ่งที่เติบโตแบบก้าวกระโดด เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ตอบโจทย์ความต้องการพลังงานสะอาดที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา
3. บริการรีไซเคิลแบตเตอรี่ - 7-8% ธุรกิจที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน โดย CATL รีไซเคิลแบตเตอรี่เก่าเพื่อนำวัตถุดิบมีค่ากลับมาใช้ใหม่ สร้างทั้งรายได้และภาพลักษณ์ที่ดี
4. การขายวัตถุดิบและชิ้นส่วน - 6-7% นอกจากขายแบตเตอรี่สำเร็จรูป CATL ยังขายวัตถุดิบและชิ้นส่วนสำคัญให้กับผู้ผลิตรายอื่น สร้างรายได้เสริมที่มั่นคง
 

 

นวัตกรรมที่เปลี่ยนเกม

สิ่งที่ทำให้ CATL โดดเด่นคือการไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา ขณะที่คู่แข่งยังติดอยู่กับแบตเตอรี่แบบเดิมๆ CATL กลับพลิกโฉมวงการด้วยแบตเตอรี่ LFP (Lithium Iron Phosphate) ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องความปลอดภัยสูง อายุการใช้งานยาว และต้นทุนการผลิตต่ำกว่าชนิด NMC ที่นิยมใช้กันในอดีตที่

ในงาน Auto China 2024 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2024 CATL เปิดตัว Shenxing Plus แบตเตอรี่ที่ชาร์จเร็ว และในวันที่ 24 ตุลาคม 2024 ได้เปิดตัว Freevoy EREV แบตเตอรี่ที่ทำให้รถไฮบริดวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลเป็นประวัติการณ์ จากเดิมที่วิ่งได้แค่ระยะสั้นๆ กลายเป็นวิ่งได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร

 

การเดินหมากครั้งสำคัญ

การเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่เป็นการประกาศศักดาให้โลกรู้ว่า CATL พร้อมก้าวสู่เวทีโลกอย่างเต็มตัว เงินที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปสร้างโรงงานยักษ์ในฮังการี ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตสำคัญสำหรับตลาดยุโรป
นี่คือการเดินหมากที่ชาญฉลาด เพราะขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเริ่มอิ่มตัว ยุโรปกลับเป็นตลาดที่กำลังเติบโตและหิวกระหายเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ดีกว่า

 

กลยุทธ์สร้างรายได้ที่แยบยล

CATL ใช้กลยุทธ์หลายแบบในการสร้างรายได้และรักษาอัตรากำไร:

• การทำสัญญาระยะยาว กับค่ายรถยนต์ใหญ่ๆ รับประกันรายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้
• การขายแบบ FOB (Free on Board) ให้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่งและภาษี ช่วยลดความเสี่ยงของบริษัท
• การร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น เช่น โรงงานในสเปนที่ร่วมทุนกับ Stellantis ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
การกระจายรายได้ทางภูมิศาสตร์

ที่น่าสนใจคือ CATL กำลังลดการพึ่งพาตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง:
• ตลาดในประเทศจีน: 70% (ลดลงจาก 84% ในปี 2021)
• ตลาดต่างประเทศ: 30% (เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2021)

การกระจายรายได้ไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้นช่วยลดความเสี่ยงและเปิดโอกาสการเติบโตใหม่ๆ

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่

- เปรียบเทียบกับ BYD (ผู้เล่นหลักจากจีน) 

BYD เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร (vertically integrated) โดยผลิตทั้งตัวรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เอง โดยแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้น เช่น Blade Battery (LFP) ส่วนใหญ่ใช้ในรถของตนเองเป็นหลัก ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและต้นทุนได้ทั้งกระบวนการ ขณะที่ CATL เลือกยืนในฐานะซัพพลายเออร์แบตเตอรี่อิสระ (pure-play battery supplier) ที่จัดหาแบตเตอรี่ให้กับค่ายรถยนต์หลากหลายแบรนด์ทั่วโลก เช่น Tesla, BMW และ Hyundai โดยมีเทคโนโลยีหลากหลายทั้ง NCM และ LFP รวมถึงนวัตกรรมล่าสุดอย่าง Qilin และ Shenxing ในด้านกลยุทธ์ตลาด BYD โฟกัสที่ตลาดจีนและเริ่มขยายไปยุโรป ขณะที่ CATL มีเครือข่ายลูกค้าทั่วโลกและมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

- เปรียบเทียบกับ Arun Plus

Arun Plus ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ PTT ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ EV Ecosystem ในไทย ผ่านการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ Foxconn ในโครงการ Horizon Plus และการพัฒนาแบตเตอรี่ร่วมกับ GPSC และพันธมิตรต่างประเทศ ขณะที่ CATL เป็นซัพพลายเออร์แบตเตอรี่อิสระระดับโลกที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและเครือข่ายลูกค้ากว้างขวาง Arun Plus ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา ecosystem แต่มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็น “CATL เวอร์ชันไทย” หากสามารถแยกสายธุรกิจแบตเตอรี่ออกมาเป็นซัพพลายเออร์อิสระและขยายตลาดกับ OEM รายใหญ่ได้ในอนาคต

 

ความท้าทายที่กลายเป็นโอกาส

แน่นอนว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ CATL เผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการชะลอตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก การแข่งขันที่ดุเดือด และแม้กระทั่งการถูกใส่ชื่อใน blacklist ของเพนตากอน

แต่ CATL กลับแปลงวิกฤตเป็นโอกาส เมื่อราคาวัตถุดิบลดลง พวกเขาใช้จังหวะนี้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มอัตรากำไร เมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัว พวกเขาหันไปโฟกัสตลาดแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานที่กำลังบูม

 

อนาคตที่น่าจับตามอง

การที่ CATL เลือกระดมทุนในฮ่องกงแทนที่จะไปอเมริกาหรือยุโรป แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตลาดเอเชีย และการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางการเมืองอย่างชาญฉลาด

ด้วยเงินทุนมหาศาลที่จะได้รับ บวกกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และเครือข่ายลูกค้าที่แข็งแกร่ง CATL กำลังวางรากฐานเพื่อครองอำนาจในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นกระแสหลักอย่างแท้จริง

จากบริษัทสตาร์ทอัพในมณฑลฝูเจี้ยน สู่ผู้นำอุตสาหกรรมระดับโลกที่มีแหล่งรายได้หลากหลาย เรื่องราวของ CATL คือตัวอย่างที่ดีของการมองเห็นโอกาส กล้าตัดสินใจ และไม่หยุดพัฒนา ในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วเหมือนวันนี้ ใครที่ปรับตัวได้เร็วที่สุดและสร้างรายได้จากหลายแหล่งคือผู้ชนะ และ CATL กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคือผู้ชนะตัวจริง

 

สนใจลงทุนในหุ้น CATL (Contemporary Amperex Technology Co. Limited) และหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลกได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ที่ให้คุณเข้าถึงการลงทุนระดับโลกแบบไร้ขีดจำกัด สนใจเปิดบัญชีลงทุน คลิก

https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน