ลงทุนก้าวแรก

ดัชนีนิเคอิ 225 คืออะไร เข้าใจโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น

29 Jan 25 2:16 PM
ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น
สรุปสาระสำคัญ

ในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นญี่ปุ่นสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อดัชนีหุ้นนิเคอิ 225 (Nikkei 225) พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี ที่ 40,000 จุด สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังฟื้นตัว หลังจากเผชิญภาวะเงินฝืดมาอย่างยาวนาน สำหรับนักลงทุนไทย การลงทุนในหุ้นนิเคอิ 225 จึงเป็นโอกาสที่น่าจับตามอง เพื่อการกระจายความเสี่ยงและรับผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทชั้นนำญี่ปุ่น ซึ่งมีจุดแข็งทั้งด้านเทคโนโลยี การบริหารจัดการ และวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นคุณภาพ

japan-flag-stock-market-finance-economy.jpg

 

1. ทำความรู้จักดัชนีหุ้นนิเคอิ 225

Nikkei 225 คือ ดัชนีหุ้นที่สำคัญที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี 1950 โดยหนังสือพิมพ์ Nihon Keizai Shimbun หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nikkei
 
ดัชนีหุ้นนิเคอิประกอบด้วยบริษัทชั้นนำ 225 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยการคัดเลือกบริษัทเข้าสู่ดัชนี จะพิจารณาจากสภาพคล่องในการซื้อขาย มูลค่าตลาด และความสำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยมีการทบทวนองค์ประกอบทุกปีในเดือนตุลาคม
 
สัดส่วนของหุ้นนิเคอิ มีทั้งจากกลุ่มเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ (25%) อุตสาหกรรมยานยนต์ (20%) สินค้าอุปโภคบริโภค (15%) และการเงินการธนาคาร (15%) โดยครอบคลุมบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota, Sony, Fast Retailing (UNIQLO) ที่เป็นผู้นำในตลาดโลก
 
การคำนวณดัชนีใช้วิธีถ่วงน้ำหนักด้วยราคา ทำให้หุ้นที่มีราคาสูงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีมากกว่า ทั้งยังเป็นดัชนีที่ครอบคลุมในอุตสาหกรรมสำคัญของโลก
 

2. จุดแข็งของดัชนีนิเคอิ

 

การเป็นตัวแทนบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น

ดัชนีนิเคอิมีจุดแข็งสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก เริ่มจากการเป็นตัวแทนของบริษัทชั้นนำญี่ปุ่นที่มีประวัติการดำเนินงานยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและนวัตกรรม รวมถึงมีวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นคุณภาพเป็นหลัก 
 

ความหลากหลายของอุตสาหกรรม

ความหลากหลายของอุตสาหกรรมในดัชนีช่วยกระจายความเสี่ยงให้แก่นักลงทุน เนื่องจากแต่ละอุตสาหกรรมมีวงจรธุรกิจที่แตกต่างกัน เมื่ออุตสาหกรรมหนึ่งชะลอตัว อีกอุตสาหกรรมอาจกำลังเติบโต
 

สภาพคล่องสูง

หุ้นในดัชนีมีการซื้อขายหมุนเวียนสูงทุกวัน ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ง่ายในราคาที่ยุติธรรม 
 

ประวัติผลตอบแทนในอดีต

ดัชนีหุ้นนิเคอิยังมีประวัติการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว สะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวของบริษัทญี่ปุ่น การปฏิรูปบรรษัทภิบาล และการเน้นสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นมากขึ้น
 

3. โอกาสการลงทุนในปัจจุบัน

 

แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น

เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญหลังจากเผชิญภาวะเงินฝืดมายาวนาน
โดยปัจจุบันเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนผ่านอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มปรับตัวสู่ระดับเป้าหมาย รวมถึงการปรับขึ้นค่าจ้างของบริษัทต่าง ๆ และการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น
 

นโยบายการเงินที่สนับสนุน

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการเติบโต แม้จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นมีต้นทุนทางการเงินต่ำและสามารถลงทุนพัฒนาธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง 
 

โอกาสจากการฟื้นตัวหลังโควิด

การฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด-19 ยังสร้างโอกาสให้หลายธุรกิจ โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สร้างรายได้มหาศาลให้ภาคการท่องเที่ยวและค้าปลีก รวมถึงการปรับกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทต่าง ๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับการผลิตในประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและเทคโนโลยีขั้นสูง
 
financial-advisory-services-asian-advisor-showing.jpg
 

4. เริ่มต้นลงทุนในดัชนีนิเคอิ เลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม

สำหรับนักลงทุนไทย การลงทุนในดัชนีนิเคอิสามารถทำได้สะดวกผ่านกองทุนรวม มีให้เลือกทั้งกองทุนที่ลงทุนโดยตรงในหุ้นรายตัวตามดัชนี และกองทุน ETF ที่ติดตามดัชนีอย่างใกล้ชิด โดยกองทุนเหล่านี้มีทั้งแบบป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด ป้องกันบางส่วน และไม่ป้องกันเลย ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม
 

ข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุน

การลงทุนผ่านกองทุนมีข้อดีหลายประการ นอกจากการได้รับการบริหารจัดการจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนการทำธุรกรรมเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นรายตัว การกระจายความเสี่ยงทำได้ดีกว่า และมีสภาพคล่องที่สูงกว่า โดยเฉพาะกองทุน ETF ที่ซื้อขายได้ตลอดเวลาทำการ
 

คำแนะนำในการเลือกกองทุน

ในการเลือกกองทุน นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยสำคัญในหลาย ๆ ด้าน เริ่มจากนโยบายการลงทุนที่ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุน รวมถึงศึกษาผลการดำเนินงานย้อนหลังเทียบกับดัชนีอ้างอิง ที่สำคัญอย่างลืมพิจารณาค่าธรรมเนียมการจัดการและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และความผันผวนของผลตอบแทนเพื่อประเมินความเสี่ยงร่วมด้วย
 

การจัดพอร์ตให้เหมาะสม

การจัดสรรเงินลงทุนในดัชนีนิเคอิควรพิจารณาร่วมกับสินทรัพย์อื่นในพอร์ต โดยทั่วไปแนะนำให้จัดสรรเป็น 5-15% ของพอร์ตการลงทุน ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และระยะเวลาการลงทุน โดยควรทยอยลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และทบทวนการจัดสรรสินทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ
 
หากคุณพร้อมแล้วที่จะซื้อหุ้นญี่ปุ่นและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในบริษัทชั้นนำอย่าง Sony, Toyota หรือ Fast Retailing ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ UNIQLO เริ่มต้นลงทุนได้ง่าย ๆ กับ InnovestX แพลตฟอร์มการลงทุนที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตลาดหุ้นทั่วโลกถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลก ดาวน์โหลด InnovestX วันนี้ เพื่อเริ่มต้นสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายและเติบโตไปพร้อมกับบริษัทระดับโลก ด้วยประสบการณ์การลงทุนที่ราบรื่น ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายเพียงปลายนิ้ว โอกาสการลงทุนระดับโลกกำลังรอคุณอยู่ !
 
คำเตือน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
 
  ข้อมูลอ้างอิง: 
⦁ Should you invest in Japanese stocks?. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 จาก https://www.thetimes.com/money-mentor/investing/nikkei-225-stock-market
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5