สรุปสาระสำคัญ
ในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นญี่ปุ่นสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อดัชนีหุ้นนิเคอิ 225 (Nikkei 225) พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี ที่ 40,000 จุด สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังฟื้นตัว หลังจากเผชิญภาวะเงินฝืดมาอย่างยาวนาน สำหรับนักลงทุนไทย การลงทุนในหุ้นนิเคอิ 225 จึงเป็นโอกาสที่น่าจับตามอง เพื่อการกระจายความเสี่ยงและรับผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทชั้นนำญี่ปุ่น ซึ่งมีจุดแข็งทั้งด้านเทคโนโลยี การบริหารจัดการ และวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นคุณภาพ
1. ทำความรู้จักดัชนีหุ้นนิเคอิ 225
Nikkei 225 คือ ดัชนีหุ้นที่สำคัญที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี 1950 โดยหนังสือพิมพ์ Nihon Keizai Shimbun หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nikkei
ดัชนีหุ้นนิเคอิประกอบด้วยบริษัทชั้นนำ 225 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยการคัดเลือกบริษัทเข้าสู่ดัชนี จะพิจารณาจากสภาพคล่องในการซื้อขาย มูลค่าตลาด และความสำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยมีการทบทวนองค์ประกอบทุกปีในเดือนตุลาคม
สัดส่วนของหุ้นนิเคอิ มีทั้งจากกลุ่มเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ (25%) อุตสาหกรรมยานยนต์ (20%) สินค้าอุปโภคบริโภค (15%) และการเงินการธนาคาร (15%) โดยครอบคลุมบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota, Sony, Fast Retailing (UNIQLO) ที่เป็นผู้นำในตลาดโลก
การคำนวณดัชนีใช้วิธีถ่วงน้ำหนักด้วยราคา ทำให้หุ้นที่มีราคาสูงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีมากกว่า ทั้งยังเป็นดัชนีที่ครอบคลุมในอุตสาหกรรมสำคัญของโลก
การเป็นตัวแทนบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น
ดัชนีนิเคอิมีจุดแข็งสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก เริ่มจากการเป็นตัวแทนของบริษัทชั้นนำญี่ปุ่นที่มีประวัติการดำเนินงานยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและนวัตกรรม รวมถึงมีวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นคุณภาพเป็นหลัก
ความหลากหลายของอุตสาหกรรม
ความหลากหลายของอุตสาหกรรมในดัชนีช่วยกระจายความเสี่ยงให้แก่นักลงทุน เนื่องจากแต่ละอุตสาหกรรมมีวงจรธุรกิจที่แตกต่างกัน เมื่ออุตสาหกรรมหนึ่งชะลอตัว อีกอุตสาหกรรมอาจกำลังเติบโต
สภาพคล่องสูง
หุ้นในดัชนีมีการซื้อขายหมุนเวียนสูงทุกวัน ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ง่ายในราคาที่ยุติธรรม
ประวัติผลตอบแทนในอดีต
ดัชนีหุ้นนิเคอิยังมีประวัติการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว สะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวของบริษัทญี่ปุ่น การปฏิรูปบรรษัทภิบาล และการเน้นสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นมากขึ้น
3. โอกาสการลงทุนในปัจจุบัน
แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น
เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญหลังจากเผชิญภาวะเงินฝืดมายาวนาน
โดยปัจจุบันเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนผ่านอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มปรับตัวสู่ระดับเป้าหมาย รวมถึงการปรับขึ้นค่าจ้างของบริษัทต่าง ๆ และการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น
นโยบายการเงินที่สนับสนุน
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการเติบโต แม้จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นมีต้นทุนทางการเงินต่ำและสามารถลงทุนพัฒนาธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
โอกาสจากการฟื้นตัวหลังโควิด
การฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด-19 ยังสร้างโอกาสให้หลายธุรกิจ โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สร้างรายได้มหาศาลให้ภาคการท่องเที่ยวและค้าปลีก รวมถึงการปรับกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทต่าง ๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับการผลิตในประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและเทคโนโลยีขั้นสูง
4. เริ่มต้นลงทุนในดัชนีนิเคอิ เลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม
สำหรับนักลงทุนไทย การลงทุนในดัชนีนิเคอิสามารถทำได้สะดวกผ่านกองทุนรวม มีให้เลือกทั้งกองทุนที่ลงทุนโดยตรงในหุ้นรายตัวตามดัชนี และกองทุน ETF ที่ติดตามดัชนีอย่างใกล้ชิด โดยกองทุนเหล่านี้มีทั้งแบบป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด ป้องกันบางส่วน และไม่ป้องกันเลย ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม
ข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุน
การลงทุนผ่านกองทุนมีข้อดีหลายประการ นอกจากการได้รับการบริหารจัดการจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนการทำธุรกรรมเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นรายตัว การกระจายความเสี่ยงทำได้ดีกว่า และมีสภาพคล่องที่สูงกว่า โดยเฉพาะกองทุน ETF ที่ซื้อขายได้ตลอดเวลาทำการ
คำแนะนำในการเลือกกองทุน
ในการเลือกกองทุน นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยสำคัญในหลาย ๆ ด้าน เริ่มจากนโยบายการลงทุนที่ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุน รวมถึงศึกษาผลการดำเนินงานย้อนหลังเทียบกับดัชนีอ้างอิง ที่สำคัญอย่างลืมพิจารณาค่าธรรมเนียมการจัดการและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และความผันผวนของผลตอบแทนเพื่อประเมินความเสี่ยงร่วมด้วย
การจัดพอร์ตให้เหมาะสม
การจัดสรรเงินลงทุนในดัชนีนิเคอิควรพิจารณาร่วมกับสินทรัพย์อื่นในพอร์ต โดยทั่วไปแนะนำให้จัดสรรเป็น 5-15% ของพอร์ตการลงทุน ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และระยะเวลาการลงทุน โดยควรทยอยลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และทบทวนการจัดสรรสินทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ
หากคุณพร้อมแล้วที่จะ
ซื้อหุ้นญี่ปุ่นและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในบริษัทชั้นนำอย่าง Sony, Toyota หรือ Fast Retailing ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ UNIQLO เริ่มต้นลงทุนได้ง่าย ๆ กับ InnovestX แพลตฟอร์มการลงทุนที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตลาดหุ้นทั่วโลกถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลก ดาวน์โหลด InnovestX วันนี้ เพื่อเริ่มต้นสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายและเติบโตไปพร้อมกับบริษัทระดับโลก ด้วยประสบการณ์การลงทุนที่ราบรื่น ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายเพียงปลายนิ้ว โอกาสการลงทุนระดับโลกกำลังรอคุณอยู่ !
คำเตือน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อมูลอ้างอิง: