Tax Fund Insight

กองทุน KUSARMF กองทุนหุ้นใหญ่สหรัฐฯ คุณภาพสูงที่เน้นหลักการ SBA

5 Sep 24 4:13 PM
TAX Funds Insights
Key Summary

INVX มองธีมการลงทุนหุ้นเติบโตคุณภาพดีขนาดใหญ่สหรัฐฯ (U.S. Large Cap Quality Growth) มีความน่าสนใจในระยะยาว เนื่องจากหุ้นเติบโตคุณภาพดีขนาดใหญ่สหรัฐฯ มีกำไรที่เติบโตเฉลี่ยสูงกว่าหุ้นคุณค่าของสหรัฐฯ (U.S. Value) รวมถึงสูงกว่าหุ้นโลก แม้ว่าราคาหุ้นเติบโตคุณภาพดีขนาดใหญ่สหรัฐฯ มักจะถูกซื้อขายในมูลค่าที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับหุ้น Value หรือหุ้นโลกโดยรวม แต่สถิติในอดีตบ่งชี้ว่า หุ้น U.S. Large Cap Quality Growth มีผลตอบแทนหุ้น U.S. Value และหุ้นโลก อย่างมาก ดังนั้น หุ้น U.S. Large Cap Quality Growth จึงมีความน่าสนใจในการลงทุนระยะยาวสำหรับนักลงทุน

 

แนะนำกองทุน INVX Top Pick: KUSARMF ที่กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่เติบโตและมีคุณภาพสูง โดยเป็นบริษัทที่มีความได้เปรียบทางธุรกิจที่ยั่งยืน ประมาณ 30-40 ตัว

Why US Equity

 

            สถิติในอดีตย้อนหลัง 20 ปี บ่งชี้ว่าหุ้นสหรัฐฯ (ดัชนี Russell 1000) มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่โดดเด่นอย่างมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI) และตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (MSCI World) โดยหุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 10.66% (CAGR), ตลาดหุ้นโลกมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 8.84% และตลาดหุ้นพัฒนาแล้วมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 9.16% สาเหตุที่หุ้นสหรัฐฯ ทำผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว เป็นสาเหตุมาจาก 1) โครงสร้างทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตดีและแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่น รวมถึงผลิตภาพ (Productivity) ของสหรัฐฯ ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดนำโดยการผลักดันของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ผ่านการผลักดัน New S-Curve อย่างต่อเนื่อง และ 2) ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ ก็มีความโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ เช่นเดียวกัน ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ ไม่ได้หมายถึงแค่อัตราการเติบโตของกำไรต่อปีที่สูงกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ เพียงเท่านั้น แต่หมายรวมถึงความสามารถในการทำกำไรจากสินค้าที่มี Value added ที่มีมากส่งผลให้ Profit Margin เฉลี่ยโดยรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ สูงกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถซื้อขายกันบน Valuation ที่ P/E Ratio มี Premium สูงกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ

 

            นอกจากนี้ หากเราจำแนกประเภทของหุ้นสหรัฐฯ ผ่านประเภทหุ้นเติบโต (Growth Style) และหุ้นคุณค่า (Value Style) จะพบว่า หุ้นเติบโตสหรัฐฯ สะท้อนผ่านดัชนี Russell 1000 Growth มีผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าดัชนี Russell 1000 อยู่มาก โดยดัชนี Russell 1000 Growth มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 12.56% (CAGR) และโดดเด่นกว่าดัชนี Russell 1000 Value ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 8.45% เนื่องจากหุ้นเติบโตเป็นหุ้นที่มีลักษณะการเติบโตของกำไรในอัตราที่สูงและเติบโตดีต่อเนื่องในระยะยาว ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนของหุ้นเติบโตจึงมีความโดดเด่นกว่าหุ้นคุณค่า

 

            ดังนั้น หุ้นเติบโตคุณภาพดีขนาดใหญ่สหรัฐฯ (U.S. Large Cap Quality Growth) จึงมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากเป็นกลุ่มหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรในระยะยาวและราคาหุ้นมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นตามผลกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

กองทุนแนะนำ INVX Top Pick: KUSARMF

 

สรุปจุดเด่นของกองทุนและกองทุนหลัก Brown Advisory US Sustainable Growth Fund

  1. กองทุนที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่เติบโตและมีคุณภาพสูง หรือบริษัทที่มีรายได้มากกว่า 50% มาจากประเทศสหรัฐฯ และเป็นบริษัทมีความได้เปรียบทางธุรกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Business Advantages หรือ SBA)
  2. บริหารโดย Brown Advisory ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนที่มีการให้บริการทั่วโลก บริหารสินทรัพย์รวมกว่า 1.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีบุคลากรด้านการลงทุนทั้งผู้จัดการกองทุนและทีมงานนักวิเคราะห์จำนวนรวมกว่า 70 ท่าน ซึ่งมีประสบการณ์เฉลี่ยในอุตสาหกรรมกว่า 15 ปี
  3. US Sustainable Growth ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็น Flagship ของทาง Brown Advisory และเป็นกลยุทธ์ที่มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  4. ผู้จัดการกองทุนหลัก 2 ท่าน คือ คุณ Karina Funk, CFA และคุณ David Powell, CFA ที่บริหารพอร์ตการลงทุนนับตั้งแต่มีการจัดตั้งกองทุน
  5. มีการคัดเลือกหุ้นที่มีผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยงตลอดวัฏจักรการลงทุนที่น่าสนใจประมาณ 30-40 ตัว ที่มีความได้เปรียบทางธุรกิจที่ยั่งยืน มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และระดับราคาหุ้นที่เหมาะสม
  6. พอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานระหว่างหุ้นที่มี Attractive Business Economics และ Sound Financials & Management Quality
  7. มี Track Record ตั้งแต่สิ้นปี 2009 ที่สะท้อนว่ากลยุทธ์นี้สามารถสร้างผลการดำเนินงานเฉลี่ยรายปีปฏิทินเหนือดัชนีชี้วัดได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมผู้จัดการกองทุนหลักและสอดคล้องไปกับปรัชญาการลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในระยะยาว
  8. จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาสะท้อนว่ากลยุทธ์ดังกล่าวสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้โดดเด่นในช่วงที่ตลาดอยู่ในช่วง Up Market และ Flat Market
  9. กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก (ณ 31 ส.ค. 2024) ได้แก่ Information Technology 1%, Financials 18.1%, Health Care 12.6%, Consumer Discretionary 10.0% และ Industrials 9.6%
  10. ตัวอย่างหุ้น 5 ตัวแรกที่พอร์ตการลงทุนถืออยู่ (ณ 31 ส.ค. 2024) ได้แก่ NVIDIA บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่พัฒนาและผลิตชิปกราฟิก (GPU), Microsoft บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่พัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบริการคลาวด์, Amazon.com บริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำระดับโลก, Intuit บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการการเงินและภาษี และ ServiceNow บริษัทซอฟต์แวร์ผู้ให้บริหารแพลตฟอร์มคลาวด์

 

กองทุนลดหย่อนภาษี RMF กองทุน KUSARMF เป็นกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก Brown Advisory US Sustainable Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่เติบโตและมีคุณภาพสูง หรือบริษัทที่มีรายได้มากกว่า 50% มาจากประเทศสหรัฐฯ มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และมีความได้เปรียบทางธุรกิจที่ยั่งยืน ประมาณ 30-40 ตัว ซึ่งโดยปกติจะถือหุ้นรายตัวประมาณ 1-5% และสูงสุดไม่เกิน 10% โดยมีดัชนีชี้วัดเป็น Russell 1000® Growth Index (Net)

กองทุนหลักบริหารโดย Brown Advisory ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนที่มีการให้บริการทั่วโลก บริหารสินทรัพย์รวมกว่า 1.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีจำนวนออฟฟิศ 18 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมทั้งในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ซึ่งมีบุคลากรด้านการลงทุนทั้งผู้จัดการกองทุนและทีมงานนักวิเคราะห์จำนวนรวมกว่า 70 ท่าน ซึ่งมีประสบการณ์เฉลี่ยในอุตสาหกรรมกว่า 15 ปี

 

นอกจากนี้ Brown Advisory มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นแบบดั้งเดิม และโซลูชันการลงทุนหุ้นเพื่อความยั่งยืน รวมถึงการลงทุนในตราสารหนี้ ผ่านระบบการวิเคราะห์ที่เน้นความสำคัญด้านปัจจัยพื้นฐาน การลงทุนแบบ Bottom-Up และความมีระเบียบวินัยและกระบวนการที่เหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว

 

กองทุนหลัก US Sustainable Growth ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็น Flagship ของทาง Brown Advisory และเป็นกลยุทธ์ที่มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ทีมผู้บริหารกองทุนประกอบด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 50 ท่าน และผู้จัดการกองทุนหลัก 2 ท่าน คือ คุณ Karina Funk, CFA และคุณ David Powell, CFA ที่บริหารพอร์ตการลงทุนนับตั้งแต่มีการจัดตั้งกองทุน โดยคุณ Karina Funk ยังดำรงตำแหน่งเป็น Chair of Sustainable Investing จึงมีความเชี่ยวชาญในการนำปัจจัยด้าน ESG มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารพอร์ตการลงทุนและคัดเลือกธุรกิจที่เหมาะสม

 

ทีมผู้จัดการกองทุนมีกลยุทธ์ในการคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตโดยคัดเลือกหุ้นที่มีผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยง (Risk-adjusted Return) ตลอดวัฏจักรการลงทุนที่น่าสนใจ ผ่านการลงทุนในลักษณะ Concentrated Portfolio โดยบริษัทที่น่าสนใจจะต้อง

  • มีความได้เปรียบทางธุรกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Business Advantages หรือ SBA) โดยมีแนวคิดที่ว่าการที่ธุรกิจจะเติบโตได้ในระยะยาว จะต้องมีการเติบโตของรายได้ สามารถลดต้นทุนได้ และสามารถเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ได้
  • มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและคงทนตลอดทุกภาวะเศรษฐกิจ
  • มีระดับราคาหุ้นที่เหมาะสม โดยผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่น่าสนใจและได้รับการยืนยันจากโมเดลทางการเงินและการวิเคราะห์ที่รัดกุม

kusa01.jpg

 

กระบวนการลงทุนจะมีการคัดกรองหุ้นจาก Universe ประมาณ 1,500-2,000 ตัว ที่มีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า $2,000 ล้าน มีธุรกิจที่เติบโตสอดคล้องกับกลยุทธ์ของกองทุนตามแนวคิด SBA และต้องเป็นหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด หลังจากนั้นหุ้นที่ผ่านการคัดกรองก็จะถูกนำมาการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทั้งความได้เปรียบของธุรกิจทั้งด้านผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี ความสามารถในการขาย และถูกให้คะแนนโดยนักวิเคราะห์เพื่อให้ได้หุ้นตรงตามคุณลักษณะของพอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานระหว่างหุ้นที่มี Attractive Business Economics และ Sound Financials & Management Quality

kusa02.jpg

 

ด้วยกลยุทธ์การบริหารดังกล่าวที่มี Track Record ตั้งแต่ที่มีการใช้กลยุทธ์นี้เมื่อสิ้นปี 2009 สะท้อนว่ากลยุทธ์นี้สามารถสร้างผลการดำเนินงานเฉลี่ยรายปีปฏิทินเหนือดัชนีชี้วัดได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของทีมผู้จัดการกองทุนหลักในการสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวสอดคล้องไปกับปรัชญาการลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในระยะยาว สะท้อนผ่านผลการดำเนินงานของกลยุทธ์เทียบดัชนีชี้วัด Russell 1000 Growth Index ย้อนหลังไป 1 ถึง 14 ปี เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานในระยะยาวจะพบว่ากลยุทธ์ดังกล่าวมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีชี้วัดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อลงทุนเป็นระยะเวลา 6 ปีขึ้นไป

kusa03.jpg

 

นอกจากนี้หากเจาะลึกเข้าไปดูในแต่ละช่วงเวลาจะพบว่ากลยุทธ์นี้สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้โดดเด่นในช่วงที่ตลาดอยู่ในช่วง Up Market (+2 to +10%) และ Flat Market (-2% to +2%)

kusa04.jpg

 

กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ณ 31 ส.ค. 2024

  • Information Technology 42.1%
  • Financials 18.1%
  • Health Care 12.6%
  • Consumer Discretionary 10.0%
  • Industrials 9.6%

 

ตัวอย่างหุ้น 5 ตัวแรกที่พอร์ตการลงทุนถืออยู่ ณ 31 ส.ค. 2024

  • NVIDIA บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่พัฒนาและผลิตชิปกราฟิก (GPU)
  • Microsoft บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่พัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบริการคลาวด์
  • com บริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำระดับโลก
  • Intuit บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการการเงินและภาษี
  • ServiceNow บริษัทซอฟต์แวร์ผู้ให้บริหารแพลตฟอร์มคลาวด์

 

ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก (ข้อมูล ณ 31 ส.ค. 2024)

  • กองทุนหลักมีผลการดำเนินการย้อนหลัง 1 ปีที่ 24.0% เมื่อเทียบกับดัชนี Russell 1000 Growth ที่ 30.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน
  • กองทุนหลักมีผลการดำเนินการย้อนหลัง 3 ปีเฉลี่ย 4.2% ต่อปี เมื่อเทียบกับดัชนี Russell 1000 Growth เฉลี่ย 8.6% ต่อปี ในช่วงเวลาเดียวกัน
  • กองทุนหลักมีผลการดำเนินการย้อนหลัง 5 ปีเฉลี่ย 16.6% ต่อปี เมื่อเทียบกับดัชนี Russell 1000 Growth เฉลี่ย 18.8% ต่อปี ในช่วงเวลาเดียวกัน

 

คำเตือน: ผลการดำเนินในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนที่ได้รับในอนาคต กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์เอกซ์

Most Viewed Ideas
1/5
Related Ideas
Most Viewed Ideas
1/5