Tax Fund Insight

กองทุน B-INNOTECHRMF กองทุนหุ้น Global Technology สไตล์ Contrarian

2 Sep 24 4:39 PM
Wealth_Idea_Thumbnail-47
Key Summary

INVX มองธีมการลงทุนเทคโนโลยียังน่าสนใจในระยะยาว เนื่องจากเทคโนโลยีคือตัวแปรสำคัญที่จะมาผลักดันผลิตภาพให้เพิ่มสูงขึ้น และยังคงมีบทบาทสำคัญในการปลดล็อคขีดจำกัดทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยอัตรากำไรของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉลี่ยเติบโตได้สูงกว่าหุ้นโลก ขณะที่ราคาหุ้นมักถูกซื้อขายในมูลค่าที่สูงเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น จึงทำให้การให้ผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกหุ้นตลอดจนการประเมินแนวโน้มของอุตสาหกรรมในระยะยาวนั้นเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

 

แนะนำกองทุน INVX Top Pick: B-INNOTECHRMF ที่พอร์ตการลงทุนมีลักษณะการบริหารแบบสไตล์ Contrarian ซึ่งบริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์กว่า 23 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มองหากองทุนหุ้นเทคโนโลยีโลกเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมให้กับพอร์ตการลงทุนในระยะยาวโดยไม่อยากรับความผันผวนที่มากเกินไป

Why Global Technology Equity

การระบาดของ COVID-19 ทำให้สังคมโลกตื่นรู้เรื่องของการปฏิวัติอุตสาหกรรมจาก 3.0 สู่ 4.0 มากยิ่งขึ้น ผ่านการปฏิรูปทางดิจิทัล (Digitalization) สะท้อนผ่านการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานเป็นรูปแบบออนไลน์มากขึ้น จนในปี 2023 สังคมและแวดวงเศรษฐกิจโลกได้ตื่นรู้อีกครั้ง หลังการเปิดตัวของ ChatGPT จากทาง OpenAI ซึ่งช่วยปลดล็อคขีดจำกัดทางเศรษฐกิจในหลายอย่างมากยิ่งขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า

 

นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังระดับรางวัลโนเบล “Robert M. Solow” เคยกล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวว่าเทคโนโลยีคือตัวแปรสำคัญที่จะมาผลักดันผลิตภาพ (Productivity) ให้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก อย่างที่นักลงทุนทุกท่านทราบกันว่าโลกของเรามีอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังแรงงานมีแนวโน้มที่จะขาดแคลน จึงทำให้ “เทคโนโลยีด้าน AI” จะเข้ามามีบทบาทต่อเวทีเศรษฐกิจโลกในช่วงต่อจากนี้

 

และจากการมาถึงของ AI นี้เอง ทำให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง มีความต้องการที่มากขึ้นทั้งด้านต้นน้ำ (ผู้ผลิตและออกแบบ IC) และปลายน้ำ (ผู้สร้าง AI & SaaS) ด้านต้นน้ำโดยเฉพาะชิปและ IC ลูกค้าก็ต้องการอะไรที่เล็กขึ้น เร็วขึ้น ประหยัดไฟมากขึ้น ด้านปลายน้ำก็ต้อง AI ที่ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น เป็นผลให้ความต้องการ GPU และ Data Center มากขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเสมือนเป็นทะเลแห่งโอกาสของการลงทุน

 

ด้านปัจจัยพื้นฐานพบว่าในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา MSCI ACWI มีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยปีละ 3.88% (CAGR) ในขณะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกนั้นเติบโตเฉลี่ยได้ราว 10% (CAGR) ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมักจะมีความผันผวนและปรับตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้บ่อยครั้ง ราคาหุ้นจะถูกซื้อขายในมูลค่า (P/E) ที่สูงกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วไปและทำให้นักลงทุนมักจะพลาดโอกาสในการลงทุนหุ้นกลุ่มดังกล่าวหรือซื้อเมื่อราคามันแพงจนเกินไป ดังนั้นการให้ผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกหุ้นตลอดจนการประเมินแนวโน้มของอุตสาหกรรมในระยะยาวนั้นจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

 

สำหรับกลุ่มกองทุนลดหย่อนภาษี RMF หุ้นเทคโนโลยีโลก ที่ทาง INVX ให้ความสนใจจะเป็นกองทุนรวมที่มี Risk-adjusted Return ที่โดดเด่น หรือมีอัตราส่วน Return/SD ที่โดดเด่น โดยวันนี้เราจะมาแนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี RMF หุ้นเทคโนโลยีโลก B-INNOTECHRMF

 

กองทุนแนะนำ INVX Top Pick: B-INNOTECHRMF

สรุปจุดเด่นของกองทุนและกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund

  1. ผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์กว่า 23 ปี

  2. ทีมนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจำนวน 28 ท่านทั่วโลกที่มีประสบการณ์เฉลี่ยกว่า 11 ปี

  3. พอร์ตการลงทุนที่มีลักษณะแตกต่างจากกองทุนเทคโนโลยีโลกอื่นๆ โดยมีลักษณะเป็น Contrarian Approach ซึ่งไม่เน้นด้านโมเมนตัมของตลาดและให้ความสำคัญกับระดับราคาที่เหมาะสมเป็นหลัก

  4. เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มผู้ชนะในระยะยาว กลุ่มที่สร้างโอกาสในการเติบโตตามวัฏจักร และกลุ่ม Special Situations

  5. โดดเด่นด้านอัตราการขาดทุนสูงสุดที่น้อยกว่ากองทุนเทคโนโลยีโลกอื่นๆ เนื่องจากกองทุนเป็นหนึ่งในกองทุนที่มี Growth tilt น้อยกว่ากลุ่มกองทุนประเภทเดียวกัน

  6. มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในระยะยาว 5 ปี โดยสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 22.2% ใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัดเฉลี่ยต่อปีที่ 22.8% แต่มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า จึงทำให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงของกองทุนโดดเด่นกว่าดัชนีชี้วัด และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 26.5% น้อยกว่าดัชนีชี้วัดที่มีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 34.8%

  7. เมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นโลกในระยะเวลา 5 ปี จะพบว่ากองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 22.2% โดดเด่นเหนือดัชนีหุ้นโลกที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 12.1% และมีผลตอบแทนต่อความเสี่ยงของกองทุนโดดเด่นกว่าดัชนีหุ้นโลก ประกอบกับกองทุนหลักมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 26.5% ใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นโลกที่มีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 25.6%

  8. เหมาะสำหรับผู้ที่มองหากองทุนหุ้นเทคโนโลยีโลกเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมให้กับพอร์ตการลงทุนในระยะยาวโดยไม่อยากรับความผันผวนที่มากเกินไป

  9. มีการกระจายการลงทุนในหุ้นกว่า 50-100 ตัว โดยไม่ลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป

  10. Top 5 Holdings ล่าสุด ได้แก่ Microsoft บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก, TSMC บริษัทผู้ผลิตชิประดับโลก, Apple บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและระบบปฏิบัติการ iOS ที่มีชื่อเสียงระดับโลก, Samsung Electronics ผู้ผลิตชิปประเภทหน่วยความจำชั้นนำระดับโลก, Ericsson ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม

 

กองทุน B-INNOTECHRMF เป็นกองทุนหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่กระจายการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงรวมถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมของเทคโนโลยีราว 50-100 ตัว

 

บริหารโดยผู้จัดการกองทุนคุณ Hyun Ho Sohn ที่มีประสบการณ์กว่า 23 ปี โดยเคยเป็นนักวิเคราะห์กับ Morgan Stanley และ Shinhan Investment Corp ก่อนที่จะเข้ามาเป็นนักวิเคราะห์ร่วมกับทาง Fidelity ในปี 2006 และได้เข้ามาบริหารกองทุน Fidelity Global Technology Fund ตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน

 

คุณ Hyun Ho Sohn โดดเด่นด้านการบริหารกองทุนในแนวทาง Contrarian หรือแนวทางสวนกระแส โดยมองหาบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นและมีศักยภาพในระยะยาว สังเกตได้จากลักษณะของพอร์ตการลงทุนที่จะมีสไตล์เอนเอียงไปทาง Value มากกว่า Growth และ Momentum

b-innotech-stylr.png

Source: Fidelity Funds as of 31 May 2024

 

คุณ Hyun Ho Sohn มีการบริหารกองทุนร่วมกับนักวิเคราะห์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจำนวน 28 ท่าน โดยนักวิเคราะห์ในทีมมีประสบการเฉลี่ยในอุตสาหกรรมกว่า 11 ปี และกระจายอยู่ทั้งในเอเชีย ยุโรป ญี่ปุ่น แคนาดา และสหรัฐฯ

กระบวนการลงทุนในกองทุนของกองทุนหลักจะเน้นไปที่การวิเคราะห์เชิงลึก โดยสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 3 ขั้นตอน

  • Idea Generation: โดยทางทีมจะมีการระดมไอเดียในการลงทุนจากทั้งทีมในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงรวบรวมบทวิเคราะห์จากแหล่งต่างๆ พร้อมทั้งการทำการวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อคัดกรองไอเดียที่น่าสนใจในการลงทุน
  • Research & Analysis: ทีมนักวิเคราะห์จะมีการวิเคราะห์พื้นฐานของหุ้นรายตัวทั้งในด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง อุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาวะการแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงการเข้าเยี่ยมชมกิจการและใช้ปัจจัยด้าน Sentiment Indicators และ Technical Research ประกอบการวิเคราะห์
  • Portfolio Construction & Risk: จะมีการจัดพอร์ตการลงทุน 50-100 ตัว โดยมีการประเมินความเสี่ยงของพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งควบคุมสัดส่วนการลงทุนในระดับรายประเทศ ธีมการลงทุน และสไตล์การลงทุนในหุ้นรายตัว รวมถึงของควบคุมน้ำหนักของแต่ละหุ้นด้วย

b-innotech-process.png

Source: Fidelity Funds as of 31 May 2024

 

โดยพอร์ตการลงทุนจะประกอบไปด้วยหุ้น 3 ประเภท

  • Growth – Long-term structural winners (มากกว่า 50% ของพอร์ตการลงทุน): บริษัทในกลุ่มนี้จะเป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูงที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สามารถเข้าทดแทนสิ่งอื่นได้หรือหุ้นผู้เป็นชนะในระยะยาว เช่น กลุ่ม Cloud Computing, Internet of Things, eCommerce เป็นต้น และบริษัทที่ถือมักจะถือนานเกิน 3 ปีขึ้นไป
  • Cyclical – Opportunistic cyclicals (น้อยกว่า 30% ของพอร์ตการลงทุน): มองหาโอกาสจากการเติบโตเชิงวัฏจักรเศรษฐกิจปัจจุบัน เช่น กลุ่ม Semiconductors โดยกองทุนจะถือหุ้นในกลุ่มนี้ราว 2-3 ปี
  • Special Situations – Discounted or mispriced (น้อยกว่า 30% ของพอร์ตการลงทุน): กระจายการลงทุนในบริษัทที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงและมีระดับราคาที่น่าสนใจ

 

ตัวอย่างหุ้น 5 ตัวแรกที่พอร์ตการลงทุนถืออยู่ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2024)

  1. Microsoft (5.9%) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น Windows, Office, และ Azure การเติบโตของธุรกิจ Cloud Computing และการมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในตลาดองค์กร

  2. TSMC (5.8%) บริษัทผู้ผลิตชิประดับโลก มีความโดดเด่นด้านชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่มีความล้ำสมัยและในนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง และมีความยืดหยุ่นโดยสามารถปรับขนาดชิปได้ตามความต้องการของลูกค้า

  3. Apple (4.9%) เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่าง iPhone, iPad, และ Mac ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ แลมีฐานลูกค้าที่ชื่นชอบและเป็นสาวกระบบปฏิบัติการ iOS จึงทำให้ Apple มีรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

  4. Samsung Electronics (3.5%) เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ เป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดดเด่นด้านชิปประเภทหน่วยความจำ

  5. Ericsson (3.3%) เป็นบริษัทโทรคมนาคมจากสวีเดน มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและบริการต่างๆ ที่สนับสนุนการสื่อสารแบบไร้สาย

 

ผลตอบแทนของกองทุนหลัก (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 2024)

ผลการดำเนินงานในช่วง 1 ปี

  • กองทุนหลักสร้างผลตอบแทน 2% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 1.6 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 7.8%

  • เทียบกับดัชนีชี้วัดหุ้นเทคโนโลยีโลกที่สร้างผลตอบแทน 1% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 1.7 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 7.4%

  • เทียบกับดัชนีหุ้นโลกที่สร้างผลตอบแทน 23.4% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 1.8 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 7.0%

ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี

  • กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 9.2% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 0.5 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 26.5%

  • เทียบกับดัชนีชี้วัดหุ้นเทคโนโลยีโลกที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 11.0% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 0.5 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 34.8%

  • เทียบกับดัชนีหุ้นโลกที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 5.8% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 0.3 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 25.6%

ผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปี

  • กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 22.2% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 1.1 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 26.5%

  • เทียบกับดัชนีชี้วัดหุ้นเทคโนโลยีโลกที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 22.8% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 1.0 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 34.8%

  • เทียบกับดัชนีหุ้นโลกที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 12.1% โดยมีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ 0.7 เท่า และมีอัตราการขาดทุนสูงสุดที่ 25.6%


ผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี
2013 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 2024)

b-innotech-perf.png

Source: Fidelity Funds as of 31 May 2024

 

คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์เอกซ์

Most Viewed Ideas
1/5
Related Ideas
Most Viewed Ideas
1/5