
หัวใจสำคัญของซีรีส์ชุดนี้คือการบูรณาการความรู้ด้านจิตวิทยาตลาดร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคเพื่อหาจุดได้เปรียบในการลงทุน โดยเริ่มจากการระบุตำแหน่งของหุ้นใน Market Cycle (EP.1) เพื่อหลีกเลี่ยงระยะขาลงและเลือกลงทุนเฉพาะในระยะขาขึ้น (Stage 2) ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังภาวะ Market Bubble (EP.2) ที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ FOMO จนราคาเกินพื้นฐาน การใช้ Wyckoff Method (EP.3) ช่วยให้เราอ่านรอยเท้าของรายใหญ่ผ่านความสัมพันธ์ของราคาและวอลุ่ม โดยเฉพาะจังหวะสะสมพลังก่อนวิ่งแรง ขณะที่ Elliott Wave (EP.4) ช่วยระบุโครงสร้างการเคลื่อนที่ของราคาตามธรรมชาติ และปิดท้ายด้วยการใช้ Price Pattern (EP.5) เพื่อหาจุดเข้าซื้อที่คมชัดและมีวินัย การประสานเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคัดกรองหุ้นที่มีโอกาสชนะสูงและจำกัดความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบ
EP.1 Market Cycle (วัฏจักรตลาด)
วันที่: 20 Nov 2025
การเข้าใจวงจรชีวิตของหุ้นคือหัวใจสำคัญในการ "วางตำแหน่ง" ตัวเองในตลาด เพื่อลดความเสี่ยงจากการเข้าผิดจังหวะ โดยตลาดมักเคลื่อนไหววนลูป 4 ระยะ ดังนี้:
🔗 อ่านฉบับเต็ม: Market Cycle
EP.2 Market Bubble (ฟองสบู่ตลาด)
วันที่: 24 Nov 2025
ฟองสบู่คือปรากฏการณ์ที่ราคาหลักทรัพย์พุ่งสูงเกินพื้นฐานความจริงไปไกลมาก โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจาก "อารมณ์" มากกว่า "ข้อมูล" ซึ่งมักมี 5 ลำดับเหตุการณ์ดังนี้:
🔗 อ่านฉบับเต็ม: Market Bubble
EP.3 Wyckoff Method
วันที่: 01 Dec 2025
แนวคิดของ Richard Wyckoff มุ่งเน้นไปที่การอ่านพฤติกรรมของ "Composite Man" หรือผู้เล่นรายใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อทิศทางราคา โดยมีกฎเหล็กที่ต้องทำความเข้าใจ 3 ข้อ:
นัยสำคัญ: การระบุจังหวะ Spring (การตบราคาหลุดแนวรับเพื่อสลัดรายย่อยก่อนวิ่งขึ้นจริง) คือท่าไม้ตายที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าซื้อได้ในจุดที่ได้เปรียบที่สุด
🔗 อ่านฉบับเต็ม: Wyckoff Method
EP.4 Elliott Wave Analysis
วันที่: 09 Dec 2025
ทฤษฎีคลื่นของ Elliott มองว่าตลาดหุ้นคือเงาสะท้อนของ "จิตวิทยามวลชน" ซึ่งมีความเป็นระเบียบในความไร้ระเบียบ (Fractal) โดยมีการเคลื่อนตัวแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก:
เป็นช่วงที่ราคาเคลื่อนที่ตามแนวโน้มหลัก (Trend) ประกอบด้วย:
Wave 1: การก่อตัวของแนวโน้มใหม่หลังจากผ่านจุดต่ำสุด มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเริ่มคลายความกังวล
Wave 2: การปรับฐานชั่วคราวเพื่อลดความร้อนแรงของ Wave 1 จุดสำคัญคือราคาห้ามหลุดจุดเริ่มต้นของ Wave 1
Wave 3: "คลื่นมหาชน" เป็นช่วงที่ราคาพุ่งแรงและยาวที่สุด วอลุ่มหนาแน่นมาก เป็นระยะที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด
Wave 4: การพักตัวเพื่อสะสมพลังรอบสุดท้าย มักมีความซับซ้อนและใช้เวลานานกว่า Wave 2
Wave 5: "คลื่นแห่งความโลภ" ราคาพุ่งขึ้นรอบสุดท้ายพร้อมสัญญาณเตือน (Divergence) ก่อนจะจบวงจรขาขึ้น
เป็นการปรับสมดุลราคา (A-B-C) หลังจากจบวงจร 5 คลื่นหลัก เพื่อล้างความร้อนแรงของตลาด:
Wave A: คลื่นเริ่มต้นของการพักตัว นักลงทุนส่วนใหญ่มักมองว่าเป็นเพียงการย่อตัวเพื่อซื้อ (Buy the dip) ทำให้ยังไม่ระวังตัว
Wave B: "คลื่นหลอก" หรือ Bull Trap ราคาดีดกลับขึ้นไปหาจุดสูงสุดเดิมแต่ไม่ผ่าน Wave 5 เป็นจังหวะที่รายใหญ่ใช้ระบายของรอบสุดท้าย
Wave C: "คลื่นล้างพอร์ต" ราคาปรับตัวลงรุนแรงและต่อเนื่องจนเกิดภาวะ Panic Sell ซึ่งจุดจบของคลื่น C คือโอกาสในการเริ่มรอบใหม่
🔗 อ่านฉบับเต็ม: Elliott Wave Analysis
EP.5 Price Pattern (รูปแบบราคา)
วันที่: 15 Dec 2025
รูปแบบราคาคือการย่อส่วนของอารมณ์ตลาดมาไว้ในกราฟ เพื่อให้เรามองเห็นร่องรอยการต่อสู้และจังหวะเสียเปรียบ/ได้เปรียบ:
กลยุทธ์แนะนำ: เพื่อเพิ่ม Win Rate ให้สูงสุด ควรใช้ InnovestX Stage Screener คัดกรองหุ้นให้อยู่ใน Stage 2 (ขาขึ้นชัดเจน) ก่อน จากนั้นจึงมองหา Price Pattern เช่น รูปธง (Flag) เพื่อใช้เป็นจุดเข้าซื้อที่คมที่สุด พร้อมวางจุด Stop Loss ไว้ใต้กรอบราคาที่พักตัว
🔗 อ่านฉบับเต็ม: Price Pattern
Disclaimer: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ข้อมูลข้างต้นไม่ใช่คำแนะนำลงทุนและมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ผลลัพธ์นำเสนอจากการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิคและแบบจำลองทางสถิติในอดีต (Historical Data) ภายใต้สมมติฐานที่กำหนด ผลการทดสอบย้อนหลังมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนตามแบบจำลองดังกล่าวมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและความผิดพลาดของแบบจำลอง (Model Risk)