สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกยังคงปรับตัวขึ้นได้ โดยหุ้นสหรัฐกำลังจะกลับขึ้นมาใกล้ระดับสูงสุดในช่วงเดือน ก.พ. อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นการชะลอตัวลงในช่วงท้ายสัปดาห์ แม้จะมีประเด็นด้านบวกจากทั้งตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน พ.ค. ที่ต่ำคาด และพัฒนาการของการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน ที่สหรัฐระบุว่าได้ข้อยุติแล้ว และอยู่ระหว่างรอให้ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบ โดยตลาดยังคงมุมมองการลดดอกเบี้ยของ Fed 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขภาษีที่สหรัฐระบุว่าจะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน อยู่ที่ 55% สูงกว่าตัวเลขตามข้อตกลงในการเจรจาครั้งก่อน ขณะที่จีนยังคงไว้ที่ 10% ทำให้ตลาดยังมีความกังวลว่าจีนจะยอมรับหรือไม่ และหากยอมรับผลกระทบจากภาษีจะรุนแรงกว่าที่คาดหรือไม่ นอกจากนั้น ปธน. ทรัมป์ระบุจะมีการยื่นข้อเสนอที่สหรัฐกำหนดเองให้กับคู่ค้าต่างๆ ภายใน 2 สัปดาห์ ทำให้ประเด็นนี้อาจจะเป็นประเด็นที่กดดันตลาดในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ประเด็นที่เข้ามากดดันตลาดในช่วงปลายสัปดาห์ได้แก่ ความไม่สงบในตะวันออกกลางเริ่มส่งผลให้เกิดความกังวลมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีโดยมุ่งเน้นโครงการนิวเคลียร์ในอิหร่าน ขณะที่สหรัฐระบุรับทราบแผนดังกล่าว แต่ไม่ได้เข้าร่วมในปฏิบัติการในครั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาดหุ้น EM ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่า DM ตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบโดยปรับลงเล็กน้อยท้ายสัปดาห์ ผลบวกจากการเจรจาสหรัฐจีน ถูกชดเชยจากปัจจัยการเมืองที่เป็นประเด็นกดดัน ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นแรง โดยเฉพาะในวันศุกร์ หลังสงครามในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ จากปัจจัยมหภาคสำคัญ ได้แก่ (1) โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า “ข้อตกลงกับจีนเสร็จแล้ว” โดยจีนจะจัดส่งแร่หายากและแม่เหล็กตามที่ตกลงไว้ ขณะที่สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการแลกเปลี่ยน โดยสหรัฐฯ จะคงอัตราภาษีนำเข้ารวม 55% ขณะที่จีนจะเก็บภาษีเพียง 10% (2) ดัชนี Core CPI เดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น +0.13% MoM ต่ำกว่าตลาดคาด
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบโดยปรับลงเล็กน้อย หุ้นบางส่วนได้รับผลบวกจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน แต่มีแรงกดดันจากปัจจัยการเมือง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ (1) รมว.การคลัง เปิดเผยว่าจะมีการเลื่อนประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้าน ออกไปก่อน (2) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลง -4%YoY (vs. -8%YoY สัปดาห์ก่อน)
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงที่ 4.34% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีทรงตัวที่ 3.89% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 45bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.70% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 1.51% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 6,888 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้น 4.1%WoW สู่ 68.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนมีความคืบหน้า และสถานการณ์ในตะวันออกกลางปะทุขึ้นอีกครั้ง ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้น 1.02%WoW สู่ 3,386.02 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ลดลงเป็น 98.07 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเป็น 143 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเป็น 1.15 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็น 32.32 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.17 หยวน