สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังถูกกดดันจากประเด็นปธน. ทรัมป์ขู่เพิ่มภาษีภาษี 50% สหภาพยุโรปในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. ก่อนที่จะเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. ในช่วงวันหยุด โดยระบุได้ผู้คุยกับผู้นำ EC และจะมีการเจรจาให้ได้ข้อสรุปภายในกำหนดการที่มีการเลื่อนเก็บภาษีออกไป ทำให้ตลาดหุ้น DM ฟื้นตัวได้ดี นอกจากนั้นศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (US Court of International Trade) มีคำตัดสินสำคัญว่า "ภาษีที่ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์เรียกเก็บส่วนใหญ่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" และมีคำสั่งให้ภาษี universal and reciprocal tariff จะต้องลดลงเหลือ 0% อย่างไรก็ตามรัฐบาลทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทำให้ภาษีของรัฐบาลทรัมป์ยังคงถูกเก็บได้ระหว่างกระบวนการอุทธรณ์ ที่อาจยืดเยื้อถึง 1.5–3 ปี หากขึ้นถึงศาลฎีกา ด้านผลประกอบการ NVDIA ออกมาดีช่วยหนุนบรรยากาศลงทุนในกลุ่ม AI แม้ท่าทีของ ปธน.ทรัมป์จะออกนโยบายที่จะหยุดให้ Chip software designers สนับสนุนตลาดจีน โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% ด้านตลาดหุ้น EM ค่อนข้างทรงตัว โดยตลาดหุ้นจีนอ่อนตัวลงจากความกังวลหลังสหรัฐคุมเข้มการออกวีซ่าให้กับนักศึกษาของจีน ทำให้ตลาดตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาการค้าระหว่างจีนสหรัฐ ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังผ่านงบ 1Q25 และไม่มีประเด็นบวกใหม่เข้ามากระตุ้นตลาดเพิ่มเติม ขณะที่ความกังวลด้านการเมืองเป็นประเด็นกดดันตลาดในช่วงที่ผ่านมา ด้านราคาน้ำมันปรับลดลงจากความกังวลการเพิ่มการผลิตของกลุ่ม OPEC+ อย่างรวดเร็วอีกในเดือน ก.ค. ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จะยิ่งทำให้ตลาดมีอุปทานส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นจาก ปัจจัยด้านนโยบายภาษีศุลกากรที่ผ่อนคลายลง (1) ในช่วงต้นสัปดาห์สหรัฐฯ เลื่อนกำหนดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU ในอัตรา 50% จากวันที่ 1 มิ.ย. เป็น วันที่ 9 ก.ค. (2) ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ได้มีคำตัดสินสำคัญที่ยุติมาตรการภาษีแบบครอบคลุม ก่อนศาลอุทธรณ์มีคำสั่งคุ้มครองระหว่างรอผลการอุทธรณ์
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลปัจจัยด้านการเมือง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ (1) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงินรวม 3,780,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7%YoY รายจ่ายลงทุนอยู่ที่ 864,077 ล้านบาท ลดลง 68,284.9 ล้านบาท หรือ 7.3%YoY (2) สภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ. รฟม. เปิดทางให้โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงที่ 4.43% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับตัวลดลงที่ 3.94% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 49bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.83% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 1.57% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 6,752 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 0.5%WoW สู่ 64.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากความกังวลอุปทานจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มการผลิตของ OPEC+ เป็น 3 เท่าติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้น 0.7%WoW สู่ 3,317.19 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทรงตัวที่ 99.3 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 144.0 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.13 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าที่ 32.54 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.20 หยวน