- สหรัฐประกาศแผนการเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วน 25% ที่ไม่ได้ผลิตในประเทศ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ มี.ค. ลดลงสู่ 92.9 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำที่สุดนับตั้งแต่ ม.ค. 2564, ดัชนี PMI สหรัฐภาคการผลิตลดลงเหลือ 49.8 จาก 52.7
- ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้เล็กน้อย โดยผันผวนในกรอบ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
- ราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง จากความกังวลด้านอุปทาน
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดปรับขึ้นเล็กน้อย หลัง ปธน. ทรัมป์แสดงท่าทีผ่อนปรนต่อภาษีตอบโต้ลงบ้าง โดยระบุอาจเป็นการเลือกบางประเทศ หรือบางประเภทสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตามความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นภาษีนำเข้าหลายรายการในวันที่ 2 เม.ย. ยังมีอยู่มาก ทำให้ตลาดผันผวน ทั้งนี้ล่าสุดสหรัฐประกาศแผนการเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วน 25% ที่ไม่ได้ผลิตในประเทศ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลลบกระทบตลาดยุโรปที่มีสัดส่วนหุ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์สูง นอกจากนั้นยังประกาศรายชื่อ 15 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ (Dirty 15) และส่งสัญญาณเตรียมขึ้นภาษีประเทศเหล่านั้น ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวเป็นประเทศในเอเชีย (รวมถึงไทย) มากกว่าครึ่งหนึ่ง ทำให้มีแรงขายออกมาเช่นกัน โดยหุ้น EM ลดลง 0.1% WoW ในรายอุตสาหกรรมกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง 1.3% WoW หลัง Alibaba ออกมาเตือนถึงฟองสบู่ใน Data center และจีนมีข้อจำกัดต่อชิป Nvidia ในมาตรการพลังงานใหม่ ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณอ่อนแอลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ มี.ค. ลดลงสู่ 92.9 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำที่สุดนับตั้งแต่ ม.ค. 2564, ดัชนี PMI สหรัฐภาคการผลิตลดลงเหลือ 49.8 จาก 52.7 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้า ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้เล็กน้อย โดยผันผวนในกรอบ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เพื่อรอความชัดเจนและผลกระทบจากประเด็นการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในสัปดาห์หน้า ราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง จากความกังวลด้านอุปทาน ภายหลังสหรัฐมีมาตรการเพื่อจำกัดการส่งออกน้ำมันจากอิหร่านและเวเนซุเอลาเพิ่มเติม หนุนกลุ่มพลังงานสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% WoW
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวดีขึ้นจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศเตรียมจะออกภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ของทรัมป์ที่มีเป้าหมายเฉพาะ (Targeted) มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นรัฐบาลทรัมป์ประกาศรายชื่อ 15 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ Dirty 15 และส่งสัญญาณเตรียมขึ้นภาษีประเทศเหล่านั้น รวมถึงประกาศขึ้นภาษีรถยนต์กับทั่วโลก 25%
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ปริมาณซื้อขายเบาบาง (1) ตัวเลขการส่งออกไทยที่ปรับตัวขึ้นมากถึง 14% แต่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าเป็นผลจากการเร่งการส่งออกก่อนสงครามการค้า (2) ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยที่มากขึ้นหลังตลาดจับตาความเสี่ยงทางการเมืองในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (3) ครม. ผ่านร่าง พรก. เพิ่มอำนาจให้ กลต. ในการกำกับดูแลการลงทุน และ (4) สำนักวิจัยต่างชาติเริ่มมองว่า ธปท. อาจลดดอกเบี้ยได้มากขึ้น
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นที่ 4.34% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 3.99% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 35 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.06% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.76% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 1,056 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นจากสัปดาห์ก่อนสู่ 74.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สหรัฐฯ ประกาศขู่เก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมต่อผู้ที่นำเข้าน้ำมันเวเนซุเอลา ส่วนสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงผิดคาด ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้นสู่ 3,056.39 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 104.3 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวที่ 150.8 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 33.95 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนลงที่ระดับ 7.51 หยวน
