- เงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวเกินคาด
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC+ และความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม 25% ตามที่ส่งสัญญาณ ขณะที่ไม่ปฏิเสธโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย ก่อนจะกลับคำหลังหุ้นตกรุนแรง
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดโลกปรับตัวลง นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐ จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว หลัง Thump ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ Recession โดยบอกว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่าน แม้จะมีการออกมาแก้ภายหลังว่ายังไม่เห็นสัญญาณดังกล่าว นอกนขจากนั้นเริ่มเห็นการปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐลงจากโบรกเกอร์ต่างประเทศ รวมถึงการปรับมุมมองหุ้นสหรัฐลง หลังจากที่ช่วงก่อนหน้าส่วนใหญ่ให้น้ำหนักตลาดสหรัฐดีที่สุด ปัจจัยที่นำไปสู่ความกังวลดังกล่าวมาจากสงครามการค้าที่ดูเหมือนจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ผ่านการตอบโต้ไปมาระหว่างสหรัฐกับทั้ง EU และแคนาดา กลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง 4.9% จากความกังวลต่อการพัฒนา AI ในจีนและแนวโน้มการใช้จ่าย IT ที่อาจจะลดลง กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลดลง 4.9% จากท่าทีของสหรัฐต่อพลังงานสะอาดและภาษีนำเข้าสุรา กลุ่มธนาคารปรับลดลง 3.9% จากความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ ด้านเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวเกินคาด โดยขยายตัวเพียง 2.8% ต่อปี ชะลอตัวลงจากการเพิ่มขึ้น 3% ต่อปีในเดือนก่อน และต่ำกว่าตลาดที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น 2.9% ด้านเงินเฟ้อผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. ออกมาทรงตัว MoM หรือ 3.2% YoY จาก 3.7% ในเดือน ม.ค. และต่ำกว่าคาดที่ 3.3% ด้านตลาด EM ปรับตัวลงเช่นกัน แต่น้อยกว่าได้ปัจจัยหนุนจากการพัฒนา AI ในจีน ตลาดหุ้นไทยยังคงอ่อนตัวลงต่อ แม้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นตลาดทุนผ่านกองทุน Thai ESGX ซึ่งเป็นกองทุนผสมเน้นหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) รองรับเงินจากการโอนย้ายจากกองทุน LTF เดิม ซึ่งจะเป็นการช่วยลดแรงขาย LTF ที่สูงกว่าปกติในปีนี้ และ 2) รองรับเม็ดเงินใหม่ โดยให้สิทธิสูงสุด 3 แสนบาท โดยจำกัดช่วงเวลาลงทุนในเดือน พ.ค.- มิ.ย. ด้านราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสต๊อกน้ำมันสหรัฐที่ดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นโลกตกต่ำจากมาตรการของสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% ขณะที่ EU และแคนาดาประกาศมาตรการตอบโต้ ในช่วงต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับสื่อ และไม่ได้ปฏิเสธโอกาสเกิดภาวะถดถอย ทำให้ตลาดตื่นตระหนก แม้ว่าทรัมป์จะกลับมากล่าวว่าไม่เห็นโอกาสที่เศรษฐกิจจะถดถอยก็ตาม ด้านเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด แต่ก็ไม่ทำให้ตลาดดีขึ้นมากนัก
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยตกต่ำจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลเห็นชอบการจัดตั้งกองทุน Thai ESG Extra เข้ามาพยุงตลาดหุ้นแล้วก็ตาม ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 4.29% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีเพิ่มขึ้นที่ 3.97% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 32 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.14% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.85% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 9,173 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นจากสัปดาห์ก่อนสู่ 69.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังทรัมป์ขู่คว่ำบาตรต่อรัสเซียหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงต่ำกว่าคาด ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้นสู่ 2,986.29 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 103.9 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 148.4 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 33.68 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.24 หยวน
