ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- การส่งออกพลังงานสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ทรัมป์กดดัน OPEC เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดราคาน้ำมัน เพื่อช่วยยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และทำให้เงินเฟ้อและดอกเบี้ยลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันปัจจุบันลดลงต่อเนื่อง
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและดอกเบี้ยเงินกู้จำนองพุ่งขึ้นแม้ดอกเบี้ยนโยบาย
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกทรงตัวจากแรงกดดันในช่วงต้นสัปดาห์ จากข่าว AI จีน DeepSeek ที่ทำให้เกิดความกังวลต่อการพัฒนา หรือการลงทุนใน AI ในอนาคตว่าอาจจะไม่มากอย่างที่คาด เนื่องจาก DeepSeek จะใช้เงินลงทุนในการพัฒนาต่ำกว่า AI อื่นมาก กดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง 3.2% แต่กลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงปลายสัปดาห์หลังภาพรวมงบออกมาเติบโตดีกว่าคาด ด้าน FOMC มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ย สะท้อนตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้น ด้านประธานเฟด ยืนยันไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย จนกว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงสู่เป้าหมาย 2% อย่างต่อเนื่อง หนุนหุ้นกลุ่มการเงินปรับเพิ่มขึ้น 1.2% ด้าน GDP สหรัฐใน 4Q24 เติบโต 2.3% QoQ ต่ำกว่าคาดจากการระบายสินค้าคงคลัง แต่การบริโภคยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งที่ 4.2% QoQ ด้าน ECB ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps ตามคาดสู่ 2.75% และเปิดโอกาสในการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจยุโรปที่อ่อนแอ นำโดยเยอรมนีและฝรั่งเศส ส่วนเงินเฟ้อจะยังอยู่ที่ 2.4% สูงกว่าเป้าหมาย 2% และมีสัญญาณการชะลอตัวของค่าจ้าง ตลาดแรงงาน ตลาดหุ้น EM ปรับขึ้นเล็กน้อย แม้หลายตลาดในเอเชียจะปิดเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ตลาดหุ้นไทยยังคงอ่อนแอกว่าตลาดอื่นนภูมิภาค กดดันจากแรงขายจากกลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะตัวเช่น กลุ่มเครื่องดื่มจากการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น รวมถึงแรงกดดันจากหุ้น DELTA ในประเด็นความกังวลการเข้ามาของ DeepSeek ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตลาดน้ำมันปรับตัวลงกดดันจากตัวเลข PMI จีนที่อ่อนแอ และ ประธานาธิบดีทรัมป์ที่เรียกร้อง OPEC เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดราคาน้ำมันและเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นโลก
ในสัปดาห์นี้ตลาดโลกทรงตัว หลังทรัมป์กล่าวใน WEF เรียกร้อง OPEC เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดราคาน้ำมันและเงินเฟ้อ และให้ ธ. กลางลดดอกเบี้ยทันที ขณะที่ Fed ไม่รีบลงดอกเบี้ยและให้ความสำคัญเงินเฟ้อมากขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐปรับตัวลงและต่ำกว่าคาด ด้านจีนเปิดตัว DeepSeek AI ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า ChatGPT สั่นคลอนกลุ่มเทคฯ สหรัฐ
ตลาดหุ้นไทย
หุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงจากความกังวล AI ใหม่จาก DeepSeek ขณะที่ (1) รมช. คลังประเมินว่า โครงการแจกเงินหมื่นเฟสสองมูลค่ารวม 3 หมื่นลบ. จะช่วยหนุน GDP ราว 1% (2) สศค. หั่น GDP ปี 67 เหลือ 2.5% จากภาคอุตสาหกรรมหดตัว ส่วนปี 68 ลุ้นโตได้ถึง 3.5% หากนโยบายรัฐเดินหน้าตามเป้า (3) ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์ปี 67 อยู่ที่ 1.46 ล้านคัน ต่ำกว่าเป้า ขณะที่ปี 68 ตั้งเป้าผลิต 1.5 ล้านคัน ขายในประเทศ 5 แสนคัน นอกนั้นส่งออก
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลงที่ 4.54% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีทรงตัวที่ 4.26% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 36bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.31% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.07% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 7,914 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงสู่ 76.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กังวลอุปสงค์สหรัฐฯ หลังสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด และปธน. สหรัฐฯ เรียกร้อง OPEC เพิ่มกำลังการผลิต ด้านราคาทองคำ (Spot) เพิ่มขึ้นที่ 2,793.47 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 108.1 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้นที่ 154.0 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.04 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 33.64 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งขึ้นที่ระดับ 7.19 หยวน
