Program_Thumbnail-06
PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 17 ม.ค. 2568

17 Jan 25 9:08 AM
สรุปสาระสำคัญ

ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมา

  • เงินเฟ้อสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยฐานสูงจากราคาน้ำมันที่หมดไป ขณะที่เงินเฟ้อจากความต้องการใช้ (Demand side) เช่น ค่าเช่าและค่าจ้าง ชะลอลงต่อเนื่อง
  • ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐยังอยู่ระดับต่ำ แต่เท่ากับราคาในปีก่อนหน้า
  • การส่งออกจีนขยายตัว 10.7% ในเดือน ธ.ค. สูงกว่าคาดที่ 7.3%

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้  

 

สัปดาห์นี้ตลาดโลกปรับตัวดีขึ้น แต่ระหว่างสัปดาห์มีความผันผวนสูงหลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรดีกว่าคาด สะท้อนภาคแรงงานที่ยังแข็งแรง ทำให้ตลาดกังวลการลดดอกเบี้ยจะช้า/น้อยกว่าที่ประเมิน อย่างไรก็ตามตลาดฟื้นตัวได้หลังตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐานสหรัฐ (Core CPI) เดือน ธ.ค. ต่ำกว่าคาด เช่นเดียวกับดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐ (PPI) เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดกลับมาคาดหวังการลดดอกเบี้เร็วขึ้น สะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลดลง หนุนหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคให้ปรับขึ้น 3.4% นอกจากนั้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% จากผลประกอบการ 4Q24 ที่ดีกว่าที่คาด ด้านจีนรายงาน GDP ปี 2024 ที่ 5% ตามเป้าของรัฐบาลเป็นผลจากการออกมาตรการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกของจีนในปี 2024 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี ผลจากผู้นำเข้าสหรัฐเร่งนำเข้าก่อนทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดี ด้านตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลง ในประเทศยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ การขึ้นเวทีของอดีตนายกฯ ทักษิณ ส่วนใหญ่มุ่งเน้นการสร้างความโปร่งใสเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของตลาด อย่างไรก็ตามด้านเศรษฐกิจส่วนใหญ่มาตรการระยะสั้นยังเป็นมาตรการเดิม ที่เหลือเป็นมาตรการระยะยาว หรือให้ผลเชิง sentiment ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลไบเดนประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่ภาคการขนส่ง ทั้งบริษัทประกันภัย และเรือบรรทุกน้ำมันมากกว่า 150 ลำ ขณะที่อุปสงค์ได้ปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศหนาวเย็นหนุนความต้องการใช้พลังงานในระยะสั้น

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดโลกปรับตัวดีขึ้นหลังเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นตามคาด ขณะที่เงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐาน และเงินเฟ้อผู้ผลิตต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดมองว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น ด้านการส่งออกของจีนในปี 2024 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี ผลจากผู้นำเข้าสหรัฐเร่งนำเข้าก่อนทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดี

 

ตลาดหุ้นไทย

สัปดาห์นี้ตลาดไทยปรับตัวลดลงตามทิศทางโลก รวมถึงแรงกดดันหุ้นขนาดใหญ่ที่ทำให้เงินทุนไหลออก นอกจากนั้น ยังมีประเด็น (1) การปาฐกถาของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เพื่อฟื้นตลาดหุ้น โดยเน้นแก้ปัญหาความเชื่อมั่น มุ่งเน้นธรรมาภิบาล รวมถึงสร้างโอกาสทางศก. เช่น Entertainment Complex, การเช่าทรัพย์อิงสิทธิ การลดต้นทุนไฟฟ้า (2) ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลงที่ 4.61% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับลดลงที่ 4.23% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 38bps

ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 2.41% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.05% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 10,644 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 81.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ซึ่งเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อความกังวลอุปทานน้ำมันชะงัก ด้านราคาทองคำ (Spot) เพิ่มขึ้นที่ 2,713.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ลดลงที่ 108.95 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้นที่ 155.2 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงที่ 1.03 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 34.57 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.33 หยวน

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5