Program_Thumbnail-04
PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 24 ม.ค. 2568

24 Jan 25 9:46 AM
สรุปสาระสำคัญ
  • ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลดลงหลังทรัมป์ประกาศนโยบาย
  • นโยบาย "ยุคทองของอเมริกา" เน้นการเนรเทศผู้อพยพ เก็บภาษีศุลกากร และสนับสนุนอุตฯ พลังงานฟอสซิล
  • IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหลัก

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ ตลาดโลกปรับตัวดีขึ้นได้ดี การรับตำแหน่งของ ปธน. ทรัมป์ ยังไม่มีการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าทันที ท่าทีต่อการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนน้อยกว่าที่ตลาดกังวล โดยช่วงต้นสัปดาห์ทาง ปธน. ทรัมป์ ระบุการพูดคุยกับ ปธน. สีมีทิศทางในเชิงบวก นอกจากนั้นทรัมป์ยังประกาศโครงการร่วมทุน Stargate มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ระหว่าง SoftBank, OpenAI และ Oracle โดยมีเป้าหมายขยายเป็น 5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันปรับตัวลดลง จากแผนการเร่งอนุญาตขุดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น รวมถึงระบุว่าอยากให้ราคาน้ำมันลดลง โดยให้กลุ่ม OPEC ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดเงินเฟ้อ และจะนำไปสู่การลดดอกเบี้ยได้ทั่วโลก เป็นปัจจัยกดดันกลุ่มพลังงานลดลง 1.5% ด้าน IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกในปี 2025 เป็น 3.3% เพิ่มขึ้น 0.1% จากประมาณการครั้งก่อนจากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด และเงินเฟ้อทั่วโลกที่ชะลอตัวลง ซึ่งจะเอื้อให้ธนาคารกลางต่างๆ สามารถลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปได้ ด้านตลาด EM ปรับตัวขึ้นได้ 1% โดยจีนประกาศมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้น โดย กลต. จีนออกมาระบุว่าบริษัทประกันและกองทุนรวมควรเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้น ด้านตลาดหุ้นไทยแม้จะฟื้นตัวได้ในทิศทางเดียวกับภูมิภาคในช่วงต้นสัปดาห์จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และผลประกอบการหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด แต่กลับอ่อนตัวลงแรงในช่วงท้ายสัปดาห์ เป็นผลจากภาวะตลาดที่ยังเปราะบาง นักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่น สะท้อนจากปริมาณซื้อขายต่อวันที่เบาบาง

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดโลกปรับตัวดีขึ้นหลังทรัมป์ประกาศนโยบาย"ยุคทองของอเมริกา" เน้นนโยบายชาตินิยมเพื่อทำให้เศรษฐกิจเติบโตและเงินเฟ้อลดลง ขณะที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจประเทศอื่น ๆ ที่มากขึ้นทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ด้าน IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหลัก

 

ตลาดหุ้นไทย

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ ในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค ประกอบกับผลประกอบการธนาคารที่ออกมาดี แต่ลดลงแรงช่วงท้ายสัปดาห์สะท้อนความเชื่อมั่นที่ยังเปราะบาง ขณะที่ (1) ส่งออกไทย ธ.ค. โตต่อเนื่องที่ 8.7% ทั้งปีโต 5.4% เกินเป้า (2) รมช. คลังเผยไทยยังไม่ได้รับผลจากการขึ้นภาษีสหรัฐ แต่จะหาโอกาสเจรจากับสหรัฐ (3) รมช. คลังระบุได้ยกร่าง พรบ. Finhub แล้ว คาดบังคับใช้ปลายปีนี้

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลงที่ 4.62% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีทรงตัวที่ 4.26% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 36bps

ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.31% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.07% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 7,914 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงสู่ 78.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังปธน. ทรัมป์เข้าสาบานตนและกล่าวย้ำเดินหน้านโยบายเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน และเรียกร้องให้ OPEC เพิ่มกำลังการผลิตเช่นกัน ด้านราคาทองคำ (Spot) เพิ่มขึ้นที่ 2,754.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ลดลงที่ 107.85 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้นที่ 155.9 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งขึ้นที่ 1.04 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 33.79 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งขึ้นที่ระดับ 7.26 หยวน

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5