Global Morning Routine - 31 ม.ค. 2568

บทสรุป

• กระแสเงินในวันที่ 29 ม.ค. 2025 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) กระแสเงินในตลาด EM ค่อนข้างผันผวน ทั้งนี้มีแรงขายจากท่าทีของ ปธน.ทรัมป์ต่อการขึ้นภาษีนำเข้า 3) มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มการเงินจากความคาดหวังในการลดภาษีและผลประกอบการที่แข็งแกร่ง 4) กลุ่มเทคโนโลยีมีแรงซื้อจากการสนับสนุน AI ของปธน.ทรัมป์แต่มีแรงขายในกลุ่ม Semiconductor 5) กลุ่ม Materials และตลาดหุ้นจีนมีเงินไหลออกจากการฟื้นตัวของจีนที่ช้า 6) กลุ่มพลังงานมีแรงขายจากนโยบายขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐและท่าทีของ ปธน.ทรัมป์ที่กดดันในกลุ่มโอเปคลดราคาน้ำมัน
• Apple เผยงบ 4Q24 ดีกว่าคาด แต่ภาพรวมยังคงมีแรงกดดันจากยอดขาย iPhone และยอดขายในจีนที่หดตัวลงอยู่ เราประเมินว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตามคาดหวังการฟื้นตัวมากกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ในตอนนี้ภาพการฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน รวมถึงยังคงมีแรงกดดันหลายปัจจัย ด้วยภาพนี้ทำให้เราแนะไม่ไล่ตามราคาและเก็งกำไรเป็นรอบๆในช่วงที่ราคาย่อตัวลง
• Visa เผยงบดีกว่าคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 10% และกำไรเพิ่มขึ้น 14% หนุนจากปริมาณการชำระเงินเพิ่มขึ้น 9% Mastercard เผยงบดีกว่าคาด โดยกำไรเพิ่มขึ้น 20% และรายได้เพิ่มขึ้น 14% เรามองว่า V และ MA ยังคงไปต่อได้หลัง 1) แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวดีใน FY25 2) การท่องเที่ยวยังคงมีอุปสงค์เติบโตดี แนะลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นย่อตัวลง
• Check point Software เผยงบโตดีกว่าคาด ทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นได้ 6% ภาพนี้ทำให้เราสามารถประเมินได้ว่ากลุ่ม Cybersecurity อาจเผยงบดีในทิศทางเดียวกัน เราชอบ PANW และ CRWD
• Samsung เผยงบ 4Q24 กำไรเพิ่มขึ้น 23.8%YoY จากฐานที่ต่ำในปีที่ผ่านมา แต่แผนกชิปมีกำไรต่ำกว่าที่คาดการณ์ แม้ Samsung กำลังเร่งผลิตชิปให้ Nvidia แต่ประสิทธิภาพยังเป็นรอง SK Hynix และเผชิญการแข่งขันจากจีนที่ไล่ตามมา ส่วนธุรกิจมือถือก็เผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งจีน ยังคงแนะหลีกเลี่ยง Samsung แนะมอง SK Hynix เนื่องจากมีความได้เปรียบในตลาด HBM
• ซอฟต์แบงก์กำลังอยู่ในช่วงเจรจาเพื่อลงทุนในบริษัท OpenAI มูลค่าสูงถึง 15-25 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของ OpenAI ภาพรวมนี้สอดคล้องกับในอนาคตทาง Softbank ที่จะไปมุ่งเน้นในธุรกิจชิปมากยิ่งขึ้น สำหรับ Softbank เราแนะสะสมจากการเติบโตด้าน AI ในระยะยาวและเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนทางอ้อมใน OpenAI และ AI Infrastructure
• Roche และ Sanofi เผย 4Q24 ยอดขายดีเกินคาด และ ปี 2025 แนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง สอดคล้องกับมุมมองของเรา ดังนั้นจึงยังคงแนะนำหุ้นกลุ่ม Pharma โดยเฉพาะหุ้นที่มีผลิตภัณฑ์ Oncology อย่าง Pfizer Roche Merck และ Sanofi อย่างไรก็ดี เราแนะนำลงทุนหลังการเจรจาราคายา Medicare ของสหรัฐที่จะมีในช่วงปลาย ก.พ. 25 เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
• เราประเมินว่าระยะสั้นตลาดยังมีทิศทางผันผวนจาก 1) นโยบายทรัมป์ที่ยังไม่แน่นอน 2) ตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อแนวทางการลดดอกเบี้ยของ Fed 3) การประกาศงบ 4Q24 แต่เชื่อว่าการเติบโตที่ดีกว่าคาดของบ.สหรัฐฯจะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดได้ โดยเราแนะมอง ServiceNow (TP: 1,172.6$) และ MSFT (TP: 505.8$) ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงจากความคาดหวังที่สูง อย่างไรก็ดีหากดูภาพรวมปัจจัยพื้นฐานและงบยังคงเติบโตได้ดี