Keyword
Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 2 ก.ค. 2568

2 Jul 25 7:30 AM
Strategy
สรุปสาระสำคัญ

1. ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง ขณะที่ yield พันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจและความเห็นของพาวเวลล์
2. วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณของทรัมป์ เตรียมส่งต่อสภาผู้แทนฯ
3. ทรัมป์ขู่ตัดเงินอุดหนุนบริษัทของมัสก์ หลังความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
4. EU เตรียมยอมรับ Universal Tariff 10% ของทรัมป์ แต่ขอข้อยกเว้นสำหรับสินค้าสำคัญ
5. อินเดียใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าระยะสั้นกับสหรัฐฯ เลี่ยงการถูกขึ้นภาษี
6. สุริยะเตรียมรับตำแหน่งรักษาการนายกฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่
7. ครม. ขยายเวลาลงทะเบียนโครงการ "คนสู้เราช่วย" ถึง 30 ก.ย. นี้
8. เปิดลงทะเบียน 'เที่ยวไทยคนละครึ่ง' ได้รับความสนใจล้นหลาม คาดสร้างเม็ดเงินหมุนเวียน 35,000 ล้านบาท

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 2 ก.ค. 2568

1. ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่ yield พันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและความเห็นของประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ ที่ไม่ได้ปฏิเสธการลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม โดยตลาดคาดการณ์โอกาสลดดอกเบี้ยเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเป็น 21.2% ด้าน Dow Jones ปรับขึ้นเกือบ 1% แต่ S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวลง โดยหุ้น Tesla ร่วงลง 4% หลังทรัมป์ขู่ตัดเงินอุดหนุนบริษัทของอีลอน มัสก์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แสดงภาคการผลิตยังคงหดตัว และตลาดแรงงานส่งสัญญาณชะลอตัว นักลงทุนจับตารายงานการจ้างงานวันพฤหัสบดีนี้


2. วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณของประธานาธิบดีทรัมป์ด้วยคะแนนเสียง 51-50 โดยมีรองประธานาธิบดี JD Vance เป็นผู้ลงคะแนนชี้ขาด ร่างกฎหมายนี้จะขยายการลดภาษีปี 2017 ของทรัมป์ เพิ่มงบประมาณทางทหารและการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง แต่ตัดงบประมาณโครงการ Medicaid และความช่วยเหลือด้านอาหารสำหรับผู้มีรายได้น้อยราว 9.3 แสนล้านดอลลาร์ ร่างกฎหมายนี้จะเพิ่มหนี้สาธารณะ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ และเพิ่มเพดานหนี้อีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนฯ ซึ่งคาดว่าจะมีการลงคะแนนที่ใกล้เคียงกัน


3. ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ตัดเงินอุดหนุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่บริษัทของอีลอน มัสก์ได้รับจากรัฐบาลกลาง หลังความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายทวีความรุนแรง โดยมัสก์วิจารณ์ร่างกฎหมายลดภาษีที่จะยกเลิก subsidies สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ Tesla หุ้น Tesla ร่วงลงกว่า 5.5% ท่ามกลางการคุกคามนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าการยกเลิก EV credit อาจกระทบกำไรของ Tesla ถึง $1.2 พันล้าน หรือประมาณ 17% ของรายได้จากการดำเนินงานในปี 2024 ทรัมป์ยังบอกว่า DOGE อาจต้อง "กลับมากิน" มัสก์ และยังถามว่าจะเนรเทศมัสก์หรือไม่


4. สหภาพยุโรป (EU) แสดงความพร้อมที่จะยอมรับข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีการเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ แต่ขอให้สหรัฐฯ ลดภาษีสำหรับสินค้าสำคัญ เช่น ยา แอลกอฮอล์ เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องบินพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังขอกำหนดโควตาและข้อยกเว้นเพื่อลดภาษี 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงภาษี 50% สำหรับเหล็กและอลูมิเนียม Bloomberg รายงานว่าทั้งสองฝ่ายมีความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวก่อนเส้นตาย 9 กรกฎาคมนี้ เพื่อขยายเวลาการเจรจาต่อไป


5. อินเดียกำลังจะบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวกับสหรัฐฯ คาดประกาศภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกขึ้นภาษีสูงสุด 26% ตามมาตรการของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม รายงานจาก FT ระบุว่าทั้งสองฝ่ายเห็นชอบลดภาษีสินค้าหลายพันรายการ โดยข้อตกลงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือการค้าระยะยาว อินเดียจะเพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติและสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ขณะที่ยังพยายามขอยกเว้นภาคเกษตรและนมซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง


6. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เตรียมรับตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9:0 รับคำร้องและมีมติ 7:2 ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน โดยแพทองธารยังสามารถเข้าร่วมประชุม ครม. ในฐานะ รมว.วัฒนธรรม และต้องยื่นคำชี้แจงภายใน 15 วัน ทั้งนี้ การเมืองไทยเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ valuation หุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำและมี dividend yield สูง


7. ครม. มีมติขยายเวลาลงทะเบียนโครงการ "คนสู้เราช่วย" จากเดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย. เป็น 30 ก.ย. นี้ พร้อมปรับปรุงเงื่อนไขเพื่อให้ครอบคลุมลูกหนี้มากขึ้น เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนสามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มเติม การขยายเวลานี้คาดว่าจะส่งผลกระทบจำกัดต่อกลุ่มธนาคาร โดยช่วยหนุนคุณภาพสินทรัพย์และลดการตั้งสำรอง แต่อาจถูกหักล้างด้วยส่วนต่างดอกเบี้ย (spread) ที่ลดลง


8. วันแรกของการเปิดลงทะเบียนโครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจนเกิดปัญหาระบบขัดข้อง ทำให้ รมว.ท่องเที่ยวฯ สั่งเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน พร้อมเผยว่าอาจพิจารณาเพิ่มจำนวนสิทธิ์และวงเงินของโครงการหากได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 35,000 ล้านบาท


ประเด็นที่ต้องติดตาม: การจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. คาดการณ์ที่ 1.05 แสนตำแหน่ง ก่อนหน้าที่ 0.37 แสนตำแหน่ง  

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5