Keyword
Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 1 ก.ค. 2568

1 Jul 25 7:30 AM
Strategy
สรุปสาระสำคัญ

1. ตลาดหุ้นทั่วโลกทำสถิติใหม่จากความหวังเจรจาการค้า ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า
2. ธนาคารสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบ Stress Test ของ Fed เปิดทางจ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นคืน
3. นักลงทุนหันมาสนใจยุโรปมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้าสหรัฐฯ
4. เศรษฐกิจอังกฤษไตรมาส 1/2025 เติบโตแข็งแกร่ง
5. เงินทุนจีนขับเคลื่อนหุ้นฮ่องกง สนับสนุนหุ้น H-Share
6. สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีญี่ปุ่นหลังการเจรจาไม่คืบหน้า
7. ราคาทองคำฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน สู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง
8. ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุม 1 ก.ค. 2568 พิจารณารับหรือไม่รับคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรี

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 1 ก.ค. 2568

1. ตลาดหุ้นทั่วโลกทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตร โดยแคนาดายกเลิกภาษีบริการดิจิทัลเพื่อเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าและมีแนวโน้มทำผลงานครึ่งปีแรกแย่ที่สุดในรอบกว่า 50 ปี ด้านดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่สอง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นประมาณ 1% นักลงทุนจับตารายงานตลาดแรงงานในสัปดาห์นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed ยังคงมองว่าตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งทำให้ธนาคารกลางสามารถชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยได้


2. หุ้นธนาคารรายใหญ่ของวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นหลังผ่านการทดสอบ Stress Test ประจำปีของ Fed ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธนาคาร 22 แห่งมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนแม้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผลการทดสอบนี้เปิดทางให้ธนาคารสามารถจ่ายเงินปันผลและทำ buyback ได้ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า Goldman Sachs, Wells Fargo, Citigroup และ M&T Bank เป็นผู้ชนะรายใหญ่จากการทดสอบครั้งนี้ เนื่องจากมีการลดลงของ Stress Capital Buffers (SCBs) ดัชนี S&P 500 Banks ปรับตัวขึ้นเกือบ 1% และมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่า S&P 500 ในปีนี้


3. นักลงทุนกำลังหันความสนใจมาที่ยุโรปมากขึ้น เนื่องจากความมีเสถียรภาพของภูมิภาคนี้เมื่อเทียบกับความไม่แน่นอนในสหรัฐฯ จากนโยบายภาษีของทรัมป์ โดยกองทุน European equity ได้รับเงินไหลเข้ากว่า 100 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ (เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีที่แล้ว) ขณะที่เงินไหลออกจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าที่ 87 พันล้านดอลลาร์ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2025 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ายุโรปต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎระเบียบและทำตามคำมั่นด้านการใช้จ่าย เพราะ "หน้าต่างแห่งโอกาส" นี้จะไม่เปิดตลอดไป


4. GDP อังกฤษขยายตัว 0.7% ในไตรมาสแรกของปี 2025 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเติบโต 1.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากแทบไม่เติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 นักวิเคราะห์ ING ระบุว่าการฟื้นตัวนี้ได้แรงหนุนจากภาคการผลิต โดยเฉพาะอุปกรณ์ขนส่งที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ด้านดัชนี Lloyds Bank Business Barometer เดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นแตะ 51% สูงสุดในรอบ 9 ปี สะท้อนความมั่นใจของผู้ประกอบการ แม้จะมีความผันผวนจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน


5. เม็ดเงินลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงทำสถิติใหม่ถึง 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในครึ่งแรกของปี 2025 ส่งผลให้ดัชนีหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นแรง 21% ปัจจัยดึงดูดนักลงทุนจีนคือส่วนต่างราคาระหว่าง A-shares ในจีนที่สูงกว่า H-shares ในฮ่องกง ซึ่งปัจจุบันลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เหลือต่ำกว่า 30% นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นฮ่องกง และเชื่อว่าทิศทางขาขึ้นยังมีโอกาสต่อเนื่อง เรายังคงแนะนำกองทุน DAOL-CHINATECH สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีน H-Share


6.ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อความคืบหน้าการเจรจาการค้ากับญี่ปุ่น โดยเฉพาะประเด็นการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ ทรัมป์ระบุว่าหลายประเทศ "ถูกตามใจจากสหรัฐฯ มากเกินไป" และเตรียมประชุมกับทีมเจรจาการค้าเพื่อกำหนดอัตราภาษีสำหรับประเทศที่ "ไม่ยอมร่วมเจรจาด้วยความสุจริตใจและเป็นธรรม" ด้านรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนท์ เตือนว่าหลายประเทศอาจได้รับแจ้งการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเส้นตาย 9 กรกฎาคม 2025 ใกล้เข้ามา


7. ราคาทองคำฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน (30 มิ.ย. 2025) สู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ต่อ หลังดอลลาร์อ่อนค่าและสถานการณ์การค้าสหรัฐฯ-จีนกับตะวันออกกลางผ่อนคลาย ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ (ADP) ซึ่งจะประกาศในวันพุธ และข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันพฤหัสบดี เพื่อจับสัญญาณแนวโน้มทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำ โดยเรายังคงแนะนำกองทุน UOBSG – H สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำ


8. ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน ซึ่งถูกกล่าวหาอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงและกระทบต่อความมั่นคง หากศาลรับคำร้อง อาจมีคำสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวระหว่างรอวินิจฉัย หรืออาจไม่สั่งหยุดก็ได้ โดยนายกรัฐมนตรีจะต้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน 15 วัน ซึ่งผลการพิจารณาครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาล อย่างไรก็ตามเช้าวันนี้มีรายงานว่า ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง ครม. ชุดใหม่แล้ว จะเข้าเฝ้าและถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 3 ก.ค. นี้


ประเด็นที่ต้องติดตาม: ดัชนี CPI ของยุโรป เดือน มิ.ย. 2025 คาดว่าจะอยู่ที่ 2.0% ก่อนหน้าที่ 1.9% และ JOLT Job Opening ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาดว่าจะอยู่ที่ 7.45 ล้านตำแหน่ง ก่อนหน้าที่ 7.391 ล้านตำแหน่ง 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5