5 Bites Breakfast

5 Bites Breakfast - 5 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดวันนี้ 3 ก.พ. 2568

3 Feb 25 8:00 AM
5 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดวันนี้
สรุปสาระสำคัญ

1. ภาษีทรัมป์หวนคืน! เตรียมป่วนตลาดหุ้น

2. นานาชาติไม่อยู่เฉย หลังทรัมป์ขึ้นภาษี

3. การแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลและฮามาสราบรื่น

4. รวบตัวอดีตที่ปรึกษา Fed หลังปล่อยข้อมูลให้จีน

5. ผู้นำอุตสาหกรรมสหรัฐฯชี้การขึ้นภาษีนำเข้าไม่ใช่คำตอบ

5 ประเด็นสำคัญที่คุณต้องรู้ สำหรับวันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2568

 

1. ภาษีทรัมป์หวนคืน! เตรียมป่วนตลาดหุ้น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้า 25% กับเม็กซิโกและแคนาดา และ 10% กับจีน โดยให้เหตุผลเรื่องความมั่นคงจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด เช่น เฟนทานิล นักเศรษฐศาสตร์กังวลว่ามาตรการนี้อาจกระตุ้นเงินเฟ้อและกระทบห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่นักธุรกิจและนักการเมืองมีความเห็นแตกต่างกัน โดยบางฝ่ายสนับสนุนเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่บางฝ่ายมองว่าเป็นนโยบายที่ไม่ช่วยแก้ปัญหาหลัก นอกจากนี้ ทรัมป์ยังขู่ขึ้นภาษีสินค้าจาก EU และสินค้าอื่น ๆ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม และยา ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลงเฉลี่ยราว 2% - 3%

 

2. นานาชาติไม่อยู่เฉย หลังทรัมป์ขึ้นภาษี แคนาดา ตอบโต้ด้วยภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า $155 พันล้าน เม็กซิโก เตรียมใช้มาตรการตอบโต้แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ขณะที่ จีน ยื่นฟ้อง WTO และเตรียมตอบโต้เช่นกัน พร้อมระบุว่าเฟนทานิลเป็นปัญหาของอเมริกาไม่ใช่จีน ด้าน EU แสดงความกังวลและเตรียมตอบโต้หากถูกเก็บภาษี ด้านเอกชนของแคนาดาอย่าง LCBO ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากสหรัฐฯ มูลค่าเกือบ $1 พันล้านต่อปี แต่จะหยุดขายทั้งหมดอย่างไม่มีกำหนด มาตรการนี้สอดคล้องกับการตอบโต้ของ แคนาดา นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ สงครามการค้าระดับโลก ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจและดันเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น

 

3. การแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลและฮามาสราบรื่น การแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่าง อิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นไปอย่างราบรื่น โดย ฮามาส ปล่อยตัวชาวอิสราเอล 3 ราย ขณะที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ 183 ราย ขณะเดียวกัน นายกฯ เนทันยาฮู เตรียมพบกับ โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อหารืออนาคตของข้อตกลงหยุดยิง ระยะที่สองจะเน้นการปล่อยตัวตัวประกันที่เหลือและขยายระยะเวลาสงบศึก ซึ่งอาจล้มเหลวและนำไปสู่การสู้รบใหม่ในเดือนมีนาคม ด้าน ราฟาห์ เปิดทางให้เด็กป่วยชาวปาเลสไตน์ 50 คนออกไปรักษาใน อียิปต์ ขณะที่สถานการณ์ในกาซายังคงตึงเครียด

 

4. รวบตัวอดีตที่ปรึกษา Fed หลังปล่อยข้อมูลให้จีน John Harold Rogers อดีตที่ปรึกษาอาวุโสของ Fed ถูกจับกุมฐานสมคบคิดลักลอบขโมยข้อมูลลับของธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อ จีน โดยข้อมูลดังกล่าวอาจช่วยให้จีน แทรกแซงตลาดการเงินสหรัฐฯ ได้เหมือนกับการใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) อัยการระบุว่า Rogers รับสินบนและค่าตอบแทนจากจีน รวมถึงเงินเดือน $450,000 จากมหาวิทยาลัยในเซี่ยงไฮ้ ขณะเดียวกัน รัฐบาล ทรัมป์ ได้ประกาศขึ้นภาษีต่อจีน แคนาดา และเม็กซิโกในวันเดียวกัน Rogers ถูกตั้งข้อหา จารกรรมทางเศรษฐกิจ และ ให้ข้อมูลเท็จ ซึ่งอาจถูกจำคุกสูงสุด 15 ปี

 

5. ผู้นำอุตสาหกรรมสหรัฐฯชี้การขึ้นภาษีนำเข้าไม่ใช่คำตอบ ผู้นำอุตสาหกรรมและองค์กรต่าง ๆ แสดงความกังวลหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโก และ 10% จากจีน โดยภาคธุรกิจมองว่าจะกระทบ ต้นทุนการผลิต ห่วงโซ่อุปทาน และผู้บริโภค สมาคมผู้ผลิตและการค้า เช่น U.S. Chamber of Commerce และ National Association of Manufacturers คัดค้านนโยบาย ขณะที่ United Auto Workers สนับสนุนการขึ้นภาษีเพื่อปกป้องแรงงาน ด้านผู้บริหารธุรกิจค้าปลีก เช่น Walmart (WMT) , Best Buy (BBY) และ Levi's (LEVI)เตรียมปรับกลยุทธ์รับมือต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภค

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม: วันที่ 28 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์เป็นวันหยุดทำการของตลาดหุ้นจีน ติดตามการรายงาน Caixin manufacturing PMI จากจีน โดยคาดว่าจะรายงานออกมาทรงตัวที่ 50.5 , การรายงานเงินเฟ้อล่วงหน้าจากยุโรป โดยคาดว่าจะรายงานออกมาที่ 2.5% YoY เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่ 2.4% YoY , ISM Manufacturing PMI โดยคาดว่าจะรายงานออกมาที่ 49.5 เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่ 49.3 และการรายงานผลประกอบการของ PLTR

 

มุมมองการลงทุน INVX – คาดตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงการรายงานผลประกอบการของกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันนักลงทุนยังคงจับตามองทิศทางผลการดำเนินงานจากผู้บริหารว่าได้รับผลกระทบจาก DeepSeek ที่มีแนวโน้มใช้ GPU น้อยลงอย่างไร ประกอบกับผลกระทบการขึ้นภาษีของทรัมป์ในช่วงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะทำให้ตลาดเกิดใหม่ผันผวนมากยิ่งขึ้น สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว (6 - 12 เดือนขึ้นไป) ทาง INVX ยังคงแนะนำทยอยสะสมการลงทุนตลาดหุ้นเวียดนามและทองคำตลอดจนหุ้นขนาดเล็กสหรัฐฯ หลังผลการเลือกตั้งได้ข้อสรุป โดย INVX มองในระยะอีก 1 ปี ต่อจากนี้นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์จะเน้นประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก จึงทำให้หุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้เยอะกว่าประเทศอื่นๆ



📌 [Event Play] (ระยะสั้น 1-3 เดือน) INVX แนะนำลงทุนใน
กองทุน KT-PRECIOUS หุ้นเหมืองทอง เนื่องจากราคาหุ้นเหมืองทองยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา
กองทุน AFMOAT-HA หุ้นสหรัฐฯคุณภาพดี กระจายการลงทุนในธุรกิจที่มีปราการแข็งแกร่งและไม่กระจุกตัวในหุ้นใหญ่
กองทุน K-CHINA-A(A) หุ้นจีนเน้นการบริโภคที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงต่อจากนี้

📌 [Theme play] (ระยะยาว 6-12 เดือน) INVX แนะนำลงทุนใน
กองทุน BGOLD ทองคำได้แรงหนุนจากอุปสงค์จากธนาคารกลางทั่วโลก และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
กองทุน ASP-USSMALL-A หุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็กคุณภาพดี จากแนวโน้มการฟื้นตัวกำไรและมีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่นในระยะข้างหน้า รวมถึงได้ประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
กองทุน PRINCIPAL VNEQ-A จากการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง และกำไรเติบโตดี รวมถึงมีมูลค่าที่น่าสนใจ
กองทุน UGIS-N  การลงทุนตราสารหนี้โลก เพื่อกระจายความเสี่ยงและรับผลตอบแทนช่วงดอกเบี้ยขาลง
กองทุน TUSFIN-A  ลงทุนในหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ รับประโยชน์จากนโยบายของ Trump 2.0 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5