หลังการประชุมนักวิเคราะห์ เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ AEONTS และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 149 บาท (PBV ปี FY2568 ที่ 1.35 เท่า) โดยได้รับการสนับสนุนจากการคาดการณ์ว่าคุณภาพสินทรัพย์จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น เราคาดว่า credit cost ที่ลดลงจะถูกชดเชยบางส่วนโดย NIM ที่หดตัวลง และสินเชื่อจะเติบโตเล็กน้อยในปี FY2568
คุณภาพสินทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป AEONTS คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ credit cost จะปรับตัวลดลงอีกใน 4QFY67 และ ปี FY2568 โดยได้แรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท. คุณภาพสินทรัพย์จะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน การแจกเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่เข้าเงื่อนไข และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท. เราคาดว่า credit cost จะลดลง 17 bps QoQ มาอยู่ที่ 7.79% ใน 4QFY67 และ 25 bps มาอยู่ที่ 8.15% ในปี FY2568 จาก NPL ที่ไหลเข้าช้าลงอันเป็นผลจากเงินแจก 10,000 บาท การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน (เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.9%) ในปี 2568 การแจกเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่เข้าเงื่อนไข และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท.
คาดมีกำไรจากการขาย NPL ที่ตัดจำหน่ายเป็นหนี้สูญไปแล้วใน 4QFY67 AEONTS วางแผนขาย NPL ที่ตัดจำหน่ายเป็นหนี้สูญไปแล้วใน 4QFY67 (ธ.ค.-ก.พ.) และเราคาดว่าบริษัทจะรับรู้กำไรจากการขาย NPL จำนวน 170 ลบ. (เท่ากับตัวเลขใน 2QFY67)
รายได้หนี้สูญรับคืนจะเติบโตดีต่อเนื่อง รายได้หนี้สูญรับคืนของ AEONTS เพิ่มขึ้น 17% YoY ใน 9MFY67 สอดคล้องกับประมาณการเต็มปีของเราที่ 16% เราคาดว่ารายได้หนี้สูญรับคืนจะเติบโตดีต่อเนื่องที่ 16% ในปี FY2568 โดยได้แรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท.
สินเชื่อเติบโตระดับต่ำ เราคาดว่าสินเชื่อจะหดลงตัว 1% ในปี FY2567 (-1.7% YTD ณ 3QFY67) จากการปรับเพิ่มอัตราชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำจาก 5% เป็น 8% นโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น และการตัดหนี้สูญมากขึ้น เราคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2% ในปี FY2568
NIM จะหดตัวลง เราคาดว่า NIM จะลดลงในปี FY2568 อันเป็นผลมาจาก: 1) มาตรการแก้หนี้เรื้อรัง (PD) ของ ธปท. และ 2) การให้เครดิตเงินคืนเทียบเท่าดอกเบี้ย 0.5% ของยอดค้างชำระสินเชื่อบัตรเครดิตใน 1H68 และ 0.25% ใน 2H68 สำหรับลูกหนี้ที่ผ่อนชำระขั้นต่ำมากกว่าหรือเท่ากับ 8% เราคาดว่า NIM จะหดตัวลง 18 bps สำหรับปี FY2568
แนวโน้มกำไร 4QFY67 และปี FY2568 เราคาดว่ากำไร 4QFY67 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ เนื่องจาก ECL ที่ลดลงและกำไรจากการขาย NPL ที่มากขึ้นจะถูกชดเชยโดยอัตราภาษีที่แท้จริงที่กลับสู่ระดับปกติ แต่จะลดลง 28% YoY ซึ่งเป็นผลมาจาก ECL ที่สูงขึ้นหลังจากตั้ง ECL ต่ำกว่าปกติใน 4QFY66 ปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี FY2568 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว (+7% ถ้าไม่รวมรายการพิเศษในปี FY2567) เนื่องจากคาดว่า credit cost ที่ลดลงจะถูกชดเชยโดย NIM ที่ลดลง และไม่มีรายการพิเศษ (กำไรจากการขายเงินลงทุนและภาษี)
คงคำแนะนำ OUTPERFORM และคงราคาเป้าหมายไว้เท่าเดิม เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ AEONTS และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 149 บาท (PBV ปี FY2568 ที่ 1.35 เท่า) โดยได้รับการสนับสนุนจากการคาดการณ์ว่าคุณภาพสินทรัพย์จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง 2) ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบจากมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของธปท. และ 3) ความเสี่ยง ESG ด้านการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct)
Asset quality improving, but NIM narrowing
After the analyst meeting, we maintain our Outperform rating with an unchanged TP of Bt149 (1.35x PBV for FY2025) on the back of an expected gradual improvement in asset quality, which is believed to a key share price driver. We expect a reduction in credit cost to be partly offset by a squeeze in NIM with modest loan growth in FY2025.
Gradual improvement in asset quality. AEONTS expects continued improvement in asset quality and a further reduction in credit cost in 4QFY24 and FY2025, backed by tailwinds from government stimulus and the BoT’s relief measures. Its asset quality will benefit from the minimum wage hike to Bt400/day (up 2.9% on average), the Bt10,000 cash handout to the eligible elderly and the BoT’s debt relief measures. We expect these same factors to reduce NPL inflow, which will bring credit cost down 17 bps QoQ to 7.79% in 4QFY24 and 25 bps to 8.15% in FY2025.
Expect gain on sale of written-off NPLs in 4QFY24. AEONTS is planning to sell written-off NPLs in 4QFY24 (December-February) and we anticipate a gain of Bt170mn will be booked from the sale (on par with the 2QFY24 figure).
Continued good growth in bad debt recovery. Bad debt recovery rose 17% YoY in 9MFY24, in line with our full-year forecast of 16%. We expect continued good growth in bad debt recovery at 16% in FY2025, underwritten by tailwinds from government stimulus and the BoT’s relief measures.
Weak loan growth. We expect a 1% contraction in loans in FY2024 (-1.7% YTD as of 3QFY24) due to a hike in minimum credit card payment to 8% from 5%, tighter credit and larger write-offs. We expect a modest pickup in loan growth to 2% in FY2025.
Narrowed NIM. We expect NIM to fall in FY2025 as a result of: 1) the BoT’s PD measure and 2) cash back of 0.5% interest on credit card loans in 1H25 and 0.25% in 2H25 for debtors who make the 8% minimum repayment. We forecast an 18 bps narrowing in NIM in FY2025.
4QFY24 and FY2025 outlook. We expect 4QFY24 earnings to be flattish QoQ as lower ECL and larger gain on NPL sales will be offset by a return to a normal effective tax rate, but down 28% YoY due to higher ECL from the lower-than-usual ECL in 4QFY23. We now expect fairly stable earnings (+7%, if exclude the FY2024 one-off items) in FY2025 as the lower credit cost is expected to be offset by lower NIM and absence of one-off items (gain on investment and tax).
Maintain Outperform with unchanged TP. We maintain our Outperform rating with an unchanged TP of Bt149 (1.35x PBV for FY2025), backed by expected gradual improvement in asset quality, which we believe is a key share price driver.
Key risks: 1) Asset quality risk from uneven economic recovery, 2) regulatory risk from the BoT’s household debt measures, and 3) ESG risk from market conduct.
Download PDF Click > AEONTS250113_E.pdf