TFEX ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โอกาสทำกำไรทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง

ตลาด TFEX มีสินค้าอะไรให้ซื้อขายได้บ้าง

• ตราสารทุน (Equity) เช่น SET50 Index Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงดัชนี SET50 , Single Stock Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงหุ้นรายตัว, SET50 Index Options คือ ออปชันอ้างอิงดัชนี SET50
• โลหะมีค่า (Precious Metal) เช่น Gold Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงทองคำบริสุทธิ์ 96.5%, Gold Online Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงทองคำบริสุทธิ์ 96.5%  และ Silver Online Futures  คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงโลหะเงินบริสุทธิ์ 99.9% 
• สินค้าเกษตร (Agriculture) เช่น Japanese Rubber Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่ตลาดญี่ปุ่น, RSS3D Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงยางแผ่นรมควันชั้น 3 (เพื่อการส่งมอบสินค้า), RSS3 Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงยางแผ่นรมควันชั้น 3
• อัตราแลกเปลี่ยน (Currency Futures) เช่น USD/THB Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB , EUR/THB Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน EUR/THB, JPY/THB Futures  คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน JPY/THB,  EUR/USD Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD  และ USD/JPY  Futures คือ ฟิวเจอร์สอ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY

 

Futures สัญญาที่คุณ “ซื้อ”  ที่คุณ “ขาย” อนาคต

 

สมมติว่าคุณอยากได้รถรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ราคาจำหน่ายที่ประกาศไว้คือ 1 ล้านบาท คุณตัดสินใจทำสัญญาจองรถกับดีลเลอร์ โดยตกลงกันว่าจะรับรถในอีก 3 เดือนข้างหน้าในราคาเดิมคือ 1 ล้านบาท ต่อมาในอีก 3 เดือน ราคาตลาดของรถรุ่นนี้ปรับขึ้นเป็น 1.5 ล้านบาท เพราะความต้องการสูงมาก แต่เนื่องจากคุณมีสัญญา “ซื้อ” ไว้แล้ว คุณจึงยังสามารถซื้อรถได้ในราคาเดิม 1 ล้านบาท  ตามที่ตกลงกันไว้ กรณีนี้เปรียบเสมือนการถือ สัญญา Futures ที่ช่วยล็อคราคาซื้อรถล่วงหน้า ทำให้คุณได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นในตลาด

 

 

ความแตกต่างระหว่าง Futures กับหุ้น

• Futures และหุ้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน Futures เป็นการเก็งกำไรจากราคาสินทรัพย์โดยไม่ต้องถือครองจริง และไม่มีสิทธิ์ในกิจการ ต่างจากหุ้นที่เป็นการถือครองสิทธิ์ในบริษัท
• ในด้านการทำกำไร Futures ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ส่วนหุ้นส่วนใหญ่มักทำกำไรได้เฉพาะขาขึ้น
• อีกจุดเด่นคือ Futures ใช้เงินลงทุนน้อยกว่ามูลค่าสัญญา เพราะใช้เพียงเงินวางหลักประกันบางส่วน ทำให้เกิด Leverage หรือการใช้เงินน้อยเพื่อให้ได้มูลค่าสินทรัพย์ที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงขาดทุนมากขึ้นตามไปด้วย

 

ข้อดีของการลงทุน Futures

 

การลงทุนใน Futures มีข้อได้เปรียบหลายด้านเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต้นทุน ประสิทธิภาพ หรือความยืดหยุ่น โดยมีจุดเด่นสำคัญดังนี้:

• ใช้เงินลงทุนน้อย (Leverage สูง): นักลงทุนวางเงินหลักประกัน (Margin) ประมาณ 10 –15% ของมูลค่าสัญญา  ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
• ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง:  เมื่อคาดว่าหุ้นจะขึ้นนักลงทุนสามารถเปิดสถานะ Long  ในทางตรงกันข้าม  เมื่อคาดว่าหุ้นจะลงนักลงทุนสามารถเปิดสถานะ Short   ซึ่งช่วยสร้างโอกาสทำกำไรในทุกสภาวะตลาด ต่างจากการลงทุนทั่วไปที่มักทำกำไรได้เฉพาะช่วงตลาดขาขึ้น
• เป็นเครื่องมือบรรเทาความเสี่ยง (Hedging): นักลงทุนสามารถใช้ Futures เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรืออัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน

 

Futures กับการเก็งกำไร

 

Futures คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงราคากันตั้งแต่วันนี้ แต่จะส่งมอบสินทรัพย์กันจริงในอนาคต ผู้ลงทุนสามารถเลือกเปิดสถานะได้ 2 แบบ คือ

 

1. Long Position (สถานะซื้อ) นักลงทุนคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต หากหุ้นปรับตัวขึ้นจริงในอนาคต นักลงทุนจะกำไร

 

2. Short Position (สถานะขาย) นักลงทุนคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงในอนาคต หากหุ้นปรับตัวลงจริงในอนาคต นักลงทุนจะกำไร

 

 

Futures กับการบริหารความเสี่ยง

 

สำหรับเครื่องมือบริหารความเสี่ยง หากคุณถือหุ้นอยู่ในพอร์ตและเริ่มกังวลว่าราคาหุ้นอาจปรับตัวลดลง แต่ยังไม่ต้องการขายหุ้นทิ้ง การใช้สัญญา Futures สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงได้ โดยการเปิดสถานะ  Short   Futures ที่อ้างอิงกับหุ้นที่คุณถืออยู่ หากราคาหุ้นลดลงจริง แม้คุณจะขาดทุนจากมูลค่าหุ้น แต่คุณจะได้กำไรจากการ Short Futures เข้ามาชดเชย ทำให้มูลค่าพอร์ทรวมไม่ผันผวนมากในช่วงตลาดขาลง

 

ตัวอย่างเช่น นาย A ถือหุ้น CPALL อยู่ในพอร์ต แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่อาจลดลง จึงเลือกเปิด Short CPALL Futures เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงจริง แม้พอร์ตหุ้นจะลดลง แต่นักลงทุนจะได้กำไรจากฝั่ง Futures มาช่วยชดเชย ทำให้มูลค่าพอร์ตรวมไม่ลดลงมากนัก และไม่กระทบต่อการลงทุนในระยะยาวมากนัก

 

 

ขั้นตอนเริ่มต้นลงทุนใน TFEX

 

ก่อนเริ่มลงทุนใน TFEX  สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการเตรียมความพร้อมด้าน ความรู้ และ Mindset เพราะตลาด TFEX สามารถสร้างกลยุทธ์ได้หลากหลาย และใช้ Leverage ได้ ถ้านักลงทุนมีความพร้อมและเข้าใจก็จะทำให้ประสบความสำเร็จในการลงทุน

 

 

 

ข้อดีของการลงทุนกับ TFEX กับ Innovestx

 

การสนับสนุนข้อมูลและบทวิเคราะห์ ทาง Innovest X ข้อมูลและบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญตลาด TFEX เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของนักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Trading View เครื่องมือเทรดที่ทันสมัย: InnovestX ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย ทั้งบนแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ที่สำคัญคือ คุณสามารถเชื่อมต่อบัญชี InnovestX เพื่อดูกราฟราคาแบบเรียลไทม์ พร้อมใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลายและ Indicator มากมาย ซึ่งช่วยให้การวิเคราะห์และตัดสินใจเทรดของคุณมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น

 

 

วิธีเปิดบัญชี TFEX ผ่านแอปพลิเคชั่น InnovestX

 

 

 1. กดที่เมนูโปรไฟล์ มุมซ้ายบน                                                      2. เลือกเมนู บัญชีและข้อมูลส่วนบุคคล  

 

      3. เลือกเมนู บัญชีลงทุนของฉัน                                               4. เลือกเมนู อนุพันธ์ (TFEX) กด “เปิดบัญชี”

   

                                            

     5. ทำแบบประเมินความรู้การลงทุน                                         6. เมื่อเห็นหน้าจอ “ส่งคำขอเปิดใช้บริการสำเร็จ” ถือว่าท่านได้ส่งคำขอ                อนุพันธ์ให้ครบถ้วน                                                                    เปิดใช้บริการเรียบร้อยแล้ว และ กด “ตกลง

 

-------

🚀  ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน