
จุดที่คุณต้องยอมรับความจริงข้อแรก: ตลาด Futures & Options (F&O) คือสนามประลองของนักวางแผน ไม่ใช่ที่สำหรับคนเล่นหวย หลายคนเข้ามาเพราะได้ยินเรื่อง "รวยเร็ว" แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ ในตลาดที่มีอัตราทดสูงขนาดนี้ การอยู่รอดให้ได้ครบหนึ่งปีก่อน คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
บทความนี้คือบทเรียนแรกที่เราจะมานั่งแกะกลไกของ F&O อย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องของ Leverage และ ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ เพราะถ้าคุณเข้าใจสองสิ่งนี้อย่างถ่องแท้ โอกาสที่คุณจะรอดและทำกำไรในระยะยาวก็จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทันที
ก่อนที่เราจะไปลงลึกในกลยุทธ์เราต้องเข้าใจก่อนว่าโครงสร้างของ F&O นั้นแตกต่างจากการซื้อขายหุ้นอย่างไร เพราะถ้าคุณนำ Mindset การซื้อขายหุ้นมาใช้ในตลาดนี้คุณมีโอกาสจะแพ้สูงมาก
|
คุณสมบัติ |
การลงทุนในหุ้น (Stock) |
Futures & Options (F&O) |
ความหมายต่อเทรดเดอร์ |
|
สินทรัพย์หลัก |
ความเป็นเจ้าของบริษัท |
สัญญา (Contract) ที่อ้างอิงกับราคาสินทรัพย์อื่น |
คุณกำลังเทรดบนความคาดหวัง ไม่ใช่ความเป็นเจ้าของ |
|
การทำกำไร |
เน้นขา "ขึ้น" เป็นหลัก |
ทำกำไรได้ทั้งขา "ขึ้น" (Long) และขา "ลง" (Short) |
ต้องมีมุมมองที่เป็นกลาง (Neutral) เตรียมพร้อมเสมอ |
|
อายุสัญญา |
ไม่มีวันหมดอายุ (ถือได้ตลอดไป) |
มี วันหมดอายุ (Expiration Date) ชัดเจน |
เวลาคือต้นทุนสำคัญ (โดยเฉพาะ Options) ต้องมีจังหวะเวลาที่แม่นยำ |
|
มูลค่าต่อจุด |
ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นต่อหน่วย |
มี Tick Value และ Contract Size กำหนดแน่นอน |
การเคลื่อนไหวเล็กน้อย (1 จุด) มีผลกระทบต่อกำไร/ขาดทุนมหาศาล |
หัวใจสำคัญที่เปลี่ยนเกม:
นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะนี่คือสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ล้มเหลว: พวกเขาไม่เข้าใจกลไกของ Leverage และ Margin อย่างละเอียด
2.1 เข้าใจ "Leverage" ผ่านตัวเลข
สมมติว่าคุณต้องการควบคุมสินทรัพย์อ้างอิงที่มีมูลค่า 200,000 บาท (เช่น SET50 Index Futures 1 สัญญา)
|
รายละเอียด |
การซื้อขายหุ้น (Stock) |
การซื้อขาย Futures |
|
เงินลงทุนที่ต้องใช้ (Capital Used) |
200,000 บาท |
20,000 บาท (สมมติ Initial Margin 10%) |
|
อัตราทด (Leverage) |
1:1 |
10:1 |
|
สถานการณ์ที่ 1: ตลาดขึ้น 1% |
กำไร 2,000 บาท (1% ของ 200,000) |
กำไร 2,000 บาท |
|
ผลตอบแทนต่อเงินทุนที่ใช้ |
1% |
10% ($2,000 / 20,000$) |
|
สถานการณ์ที่ 2: ตลาดลง 1% |
ขาดทุน 2,000 บาท |
ขาดทุน 2,000 บาท |
|
ผลขาดทุนต่อเงินทุนที่ใช้ |
-1% |
-10% |
หมายเหตุ: กำไร/ขาดทุนในบทความนี้ ยังไม่ได้รวมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
บทสรุปจากตาราง: Leverage ไม่ได้เปลี่ยนจำนวนกำไร/ขาดทุนจริง แต่มันเปลี่ยน "อัตราผลตอบแทน/ขาดทุน" ต่อเงินทุนที่คุณใช้ไป นั่นหมายความว่า การผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในตลาด F&O สามารถทำให้คุณสูญเสียเงินทุนตั้งต้นไปอย่างรวดเร็วกว่าตลาดหุ้น 10 เท่า
2.2 Margin Call: เสียงระฆังเตือนมรณะ
Margin ในระบบ F&O แบ่งได้เป็นสองระดับ:
ถ้าตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง จนเงินทุนในบัญชีของคุณลดลง ต่ำกว่าระดับ MM โบรกเกอร์จะแจ้ง Margin Call คือการแจ้งให้คุณเติมเงินเข้าไปเพื่อให้เงินกลับมาที่ระดับ IM ภายในเวลาที่กำหนด หรือหากไม่ต้องการเติมก็ต้องปิดสถานะ
ความจริงที่ต้องรู้: หากคุณไม่เติมเงิน หรือราคาเคลื่อนไหวสวนทางต่อไป เงินในบัญชีอาจติดลบ และคุณยังต้องรับผิดชอบส่วนที่ติดลบนั้นทั้งหมด ในฐานะเทรดเดอร์มืออาชีพเราไม่ควรให้บัญชีเข้าใกล้ระดับ MM เลยแม้แต่น้อย เพราะนั่นแสดงว่าเราบริหาร Position Sizing ผิดพลาดตั้งแต่ต้น
ความสามารถในการทำกำไรจากขาลง (Short Position) คือความได้เปรียบทางกลยุทธ์ที่สำคัญ แต่ก็มีกับดักทางจิตวิทยาที่ใหญ่หลวงที่สุด
3.1 การ Short: อาวุธที่ต้องใช้สติ
การ Short ใน Futures คือการ ขายสัญญา โดยคาดการณ์ว่าราคาในอนาคตจะต่ำลง และเราจะซื้อคืนเพื่อปิดสถานะและรับส่วนต่างกำไร
3.2 ความเสี่ยงไร้ขีดจำกัด (The Unlimited Loss)
ในสถานะ Short นั้น กำไรสูงสุดของคุณมีจำกัด (เมื่อราคาวิ่งลงไปจนถึง 0) แต่การขาดทุนสูงสุดนั้น ไม่มีจำกัด เพราะราคาทางทฤษฎีสามารถขึ้นไปได้เรื่อยๆ (เช่น 1,000 -> 2,000 -> 5,000 จุด)
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ: เมื่อคุณเปิดสถานะ Short คุณ กำลังยืนอยู่บนหน้าผาชัน หากเกิดข่าวดีที่ไม่คาดฝัน ตลาดจะพุ่งสวนทางอย่างรุนแรง (Short Squeeze) นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเทรด Short จึงจำเป็นต้องมีวินัย Stop Loss ที่เคร่งครัดกว่าการเทรด Long เป็นเท่าตัว
ก่อนที่เราจะไปต่อในบทเรียนหน้าคุณต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคุณเข้าใจเรื่อง Margin และการบริหารความเสี่ยงแล้วจริง ๆ นี่คือแบบทดสอบที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้น
โจทย์:
หาก คุณ มี พอร์ตลงทุนรวม 100,000 บาท และต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ปลอดภัยที่สุด โดยตั้งกฎเหล็กไว้ว่า "Margin ที่ใช้ต้องไม่เกิน 20% ของพอร์ตทั้งหมด"
คำถาม: คุณสามารถเปิดสัญญา SET50 Index Futures ได้สูงสุดกี่สัญญา?
(สมมติฐาน: Initial Margin (IM) ของ SET50 Futures คือ 16,000 บาท/สัญญา)
เฉลย:
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเงินทุนสูงสุดที่ยอมให้ใช้เป็น Margin
นี่คือขีดจำกัดด้านความเสี่ยงของคุณ:
Max IM = พอร์ตลงทุนรวม × 20%
Max IM = 100,000 บาท × 0.20 = 20,000 บาท
ขั้นตอนที่ 2: คำนวณจำนวนสัญญาที่เปิดได้
นี่คือการหาจำนวนสัญญาที่คุณ "จ่ายไหว" ภายใต้กฎความเสี่ยง:
จำนวนสัญญาที่เปิดได้ = Max IMIM ต่อสัญญา
จำนวนสัญญาที่เปิดได้ = 20,000 บาท 16,000 บาท/สัญญา
จำนวนสัญญาที่เปิดได้ = 1.25 สัญญา
ผลลัพธ์: จำนวนสัญญาที่เหมาะสมที่สุด คือ 1 สัญญา
เนื่องจากเราไม่สามารถเทรดเศษสัญญาได้ และหลักการบริหารความเสี่ยงคือการ "ปัดลงเสมอ" เพื่อรักษาความปลอดภัย
บทวิเคราะห์ผลลัพธ์ (ทำไม 1 สัญญาถึงปลอดภัยที่สุด)
|
รายละเอียด |
ตัวเลขที่ได้ |
บทวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ |
|
จำนวนสัญญาที่เทรดสูงสุด |
1 สัญญา |
นี่คือ Position Sizing ที่ถูกต้องตามกฎของคุณ |
|
Margin ที่ใช้จริง (IM) |
16,000 บาท |
ใช้เพียง 16% ของพอร์ต (ต่ำกว่าขีดจำกัด) |
|
เงินทุนสำรอง (Free Cash) |
84,000 บาท |
เงินก้อนนี้คือ "เบาะรองรับ" ที่จะช่วยให้ คุณ อยู่รอดในทุก Drawdown (ขาดทุนต่อเนื่อง) โดยไม่ต้องกลัว Margin Call |
นี่คือวิธีการเทรดแบบมืออาชีพ: การยอมจำกัดตัวเองในการใช้ Leverage ในช่วงเริ่มต้น คือการให้โอกาสตัวเองได้หายใจ และมีโอกาสครั้งที่สองในการแก้ไขข้อผิดพลาดในตลาดที่มีความผันผวนสูง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง และศึกษาเพิ่มเติม
บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) - TFEX
ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว
เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX
⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อนให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจังไม่เหมาะสมกับบุคคลทุกคน ก่อนตัดสินใจซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น ท่านควรพิจารณาถึงฐานะทางการเงินวัตถุประสงค์การลงทุน ตลอดจนความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้อย่างรอบคอบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจสุญเสียเงินลงทุนมากกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก