ลงทุนก้าวแรก

เปิดสถิติหุ้นอเมริกาปันผลดีในรอบทศวรรษ

24 Apr 25 3:01 PM
หุ้นอเมริกาปันผลดีช่วยให้สินทรัพย์ได้เติบโต
สรุปสาระสำคัญ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถือเป็นแหล่งลงทุนที่ขึ้นชื่อเรื่องศักยภาพการเติบโตในระยะยาว แต่ในขณะที่นักลงทุนบางส่วนแสวงหากำไรจากส่วนต่างของราคา (Capital Gains) ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่มุ่งเน้นลงทุนใน “หุ้นปันผล” (Dividend Stocks) ซึ่งให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน แต่คำถามสำคัญคือ มีหุ้นอเมริกาตัวไหนที่จ่ายปันผลดีและมีความมั่นคงในระยะยาวบ้าง ? ในบทความนี้ เราจะพาย้อนเวลาไปดู 5 หุ้นอเมริกาปันผลดีที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พร้อมข้อมูลสถิติที่ควรรู้

ภาพที่สื่อถึงการเติบโตของหุ้นอเมริกาปันผลดี

  

1. Johnson & Johnson (JNJ)

Johnson & Johnson คือหนึ่งในบริษัทที่มีความมั่นคงสูงในภาคการดูแลสุขภาพ ด้วยสถานะเป็น Dividend King หรือ ‘สุดยอดหุ้นปันผล’ ที่สามารถจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องมายาวนานกว่า 60 ปี และยังสามารถเพิ่มเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยความแข็งแกร่งของธุรกิจในกลุ่มยารักษาโรคและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ JNJ เป็นตัวเลือกหุ้นอเมริกาปันผลดียอดนิยมของนักลงทุนที่มองหาความมั่นคง

  

สถิติย้อนหลัง 10 ปี

  • อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย : 2.7%
  • อัตราการเติบโตของเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี : 6.1%
  • อัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรเฉลี่ย : 63.4%
  • ผลตอบแทนรวม (รวมการเติบโตของราคาและเงินปันผล) : 142.8%

  

2. Procter & Gamble (PG)

Procter & Gamble เป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลกที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลน่าประทับใจ โดยจ่ายเงินปันผลมาแล้ว 132 ปีและเพิ่มเงินปันผลติดต่อกันมา 67 ปี แบรนด์สินค้าของ PG ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น Tide, Pampers และ Gillette ทำให้บริษัทมีรายได้ที่สม่ำเสมอและยังคงเป็นหุ้นอเมริกาปันผลดีอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย

  

สถิติย้อนหลัง 10 ปี

  • อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย : 2.9%
  • อัตราการเติบโตของเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี : 5.3%
  • อัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรเฉลี่ย : 67.8%
  • ผลตอบแทนรวม (รวมการเติบโตของราคาและเงินปันผล) : 168.2%

  

3. Coca-Cola (KO)

หากพูดถึงธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้มั่นคง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นหรือลง Coca-Cola คือตัวเลือกที่ชัดเจน บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1886 และเติบโตขึ้นเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่า 500 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Coca-Cola, Sprite, Fanta, Minute Maid และอีกมากมาย แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไป แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมดื่มเครื่องดื่มของ Coca-Cola ยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างรายได้มหาศาลและเป็นหุ้นอเมริกาปันผลดีต่อเนื่องยาวนานกว่า 60 ปี นักลงทุนปันผลหลายคนเลือก KO เพราะเป็นธุรกิจที่มีความเสถียรสูงและมีความสามารถในการกำหนดราคา (Pricing Power) ได้ดี

  

สถิติย้อนหลัง 10 ปี

  • อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย : 3.2%
  • อัตราการเติบโตของเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี : 5.8%
  • อัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรเฉลี่ย : 73.5%
  • ผลตอบแทนรวม (รวมการเติบโตของราคาและเงินปันผล) : 121.6%

  

4. Microsoft (MSFT)

Microsoft เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดในโลก ด้วยผลิตภัณฑ์หลักอย่าง Windows, Office, Azure และบริการ Cloud Computing ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

  

ถึงแม้ว่า Microsoft จะถูกนิยามว่าเป็น ‘หุ้นเติบโต’ มากกว่า ‘หุ้นอเมริกาปันผลดี’ โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในรายการนี้ แต่อัตราการเติบโตของเงินปันผลและการเติบโตของราคาหุ้นนั้นโดดเด่นมาก โดยการลงทุนในธุรกิจคลาวด์ (Azure) และการเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์อย่าง LinkedIn, GitHub และ Activision Blizzard ยังช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างมีนัยสำคัญ

  

สถิติย้อนหลัง 10 ปี

  • อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย : 1.8% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มนี้)
  • อัตราการเติบโตของเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี : 10.3% (สูงที่สุดในกลุ่มนี้)
  • อัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรเฉลี่ย : 45.6%
  • ผลตอบแทนรวม (รวมการเติบโตของราคาและเงินปันผล) : 847.3% (โดดเด่นที่สุดในกลุ่มนี้)

  

5. 3M Company (MMM)

3M หรือ Minnesota Mining and Manufacturing Company เป็นหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายที่สุดในโลก มีผลิตภัณฑ์กว่า 60,000 รายการที่ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เทปกาว Post-it, วัสดุทางการแพทย์ ไปจนถึงฟิล์มกันรอย โดย 3M มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ปี 1902 และได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่ง Dividend King เพราะสามารถจ่ายปันผลต่อเนื่องมายาวนานกว่า 100 ปี และเพิ่มปันผลต่อเนื่องมานานกว่า 64 ปี

  

อย่างไรก็ตาม 3M ถือเป็นกรณีที่แตกต่างจากหุ้นอเมริกาปันผลดีตัวอื่น ๆ ในลิสต์นี้ เนื่องจากแม้จะมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่แข็งแกร่ง แต่ผลตอบแทนรวมในช่วง 10 ปีกลับเป็นลบ เนื่องจากความท้าทายด้านการดำเนินงานและคดีความที่เกี่ยวกับสารเคมีอันตราย PFAS แต่บริษัทยังคงรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูง ทว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความยั่งยืนในระยะยาว

  

สถิติย้อนหลัง 10 ปี

  • อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย : 3.9% (สูงที่สุดในกลุ่มนี้)
  • อัตราการเติบโตของเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี : 4.6%
  • อัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรเฉลี่ย : 78.2%
  • ผลตอบแทนรวม (รวมการเติบโตของราคาและเงินปันผล) : -12.5% (ต่ำที่สุดในกลุ่มนี้)

  

ภาพที่สื่อถึงการลงทุนในหุ้นอเมริกาปันผลดี

  

การเปรียบเทียบและข้อสังเกตจากการวิเคราะห์

เมื่อพิจารณาหุ้นอเมริกาปันผลดีทั้ง 5 บริษัทข้างต้น เราสามารถสังเกตเห็นแนวโน้มที่น่าสนใจได้ดังนี้

  1. ความสมดุลระหว่างการเติบโตและเงินปันผล : Microsoft มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลต่ำสุด แต่มีอัตราการเติบโตของเงินปันผลและผลตอบแทนรวมสูงที่สุด ในทางตรงกันข้าม 3M มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด แต่มีผลตอบแทนรวมเป็นลบ
  2. ความสำคัญของอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไร : บริษัทที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรต่ำกว่า เช่น Microsoft (45.6%) มีโอกาสในการลงทุนเพื่อการเติบโตมากกว่า ในขณะที่บริษัทที่มีอัตรานี้สูง เช่น 3M (78.2%) อาจมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าในการรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจ
  3. ความหลากหลายของอุตสาหกรรม : หุ้นอเมริกาปันผลดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง รายชื่อของเราครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยี (Microsoft) ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (P&G, Coca-Cola) การดูแลสุขภาพ (Johnson & Johnson) และอุตสาหกรรม (3M)

  

บทเรียนสำหรับนักลงทุนเงินปันผล

จากการวิเคราะห์หุ้นอเมริกาปันผลดีย้อนหลัง 10 ปี เราสามารถสรุปบทเรียนสำคัญได้ดังนี้

  1. อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงไม่ได้หมายถึงการลงทุนที่ดีเสมอไป : 3M คือบทเรียนตัวอย่างที่ชัดเจนว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงอาจเกิดจากราคาหุ้นที่ลดลง ดังนั้น นักลงทุนควรมองหาความสมดุลระหว่างอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล การเติบโตของเงินปันผล และศักยภาพในการเติบโตของราคาหุ้น
  2. ความสม่ำเสมอและความยั่งยืนมีความสำคัญ : บริษัทอย่าง Johnson & Johnson และ Procter & Gamble ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาและเพิ่มเงินปันผลผ่านพลวัตเศรษฐกิจที่หลากหลาย บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจและการบริหารจัดการเงินสด
  3. กระจายการลงทุนในหุ้นปันผล : การกระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างกระแสรายได้ที่มั่นคง

  

เริ่มลงทุนหุ้นอเมริกาปันผลดีได้อย่างสะดวกกับ InnovestX

การลงทุนในหุ้นอเมริกาปันผลดีถือเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ที่ต้องการพอร์ตที่เติบโตอย่างช้า ๆ แต่มีความมั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว โดยสำหรับใครที่สนใจลงทุนในหุ้นอเมริกา หรือหุ้นต่างประเทศอื่น ๆ สามารถเริ่มต้นเปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศได้ง่าย ๆ กับ InnovestX แพลตฟอร์มการลงทุนที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตลาดหุ้นทั่วโลกถึง 21 ประเทศ 31 ตลาด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีทั้งระบบ iOS และ Android วันนี้ เพื่อเริ่มต้นสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายและเติบโตไปพร้อมกับบริษัทระดับโลก

  

คำเตือน

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

  

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. The 10 Best US Dividend Stocks. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 จาก https://www.morningstar.co.uk/uk/news/259119/the-10-best-us-dividend-stocks.aspx
  2. 10 Stocks That Have Doubled Their Dividends in 10 Years. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 จาก https://money.usnews.com/investing/articles/10-stocks-that-have-doubled-their-dividends-in-10-years
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5