หากคุณกำลังเริ่มสนใจใน Leveraged และ Inverse ETF แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร เหมาะกับใคร และควรเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้จะไม่อธิบายเชิงทฤษฎีแบบวิชาการ หากแต่พาไปสำรวจวิธี "ลองลงทุนจริง" ที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ลงทุนในไทย "ตลาดฮ่องกง" อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม ทั้งในแง่ของเวลาเทรดที่ใกล้เคียงกับไทย และผลิตภัณฑ์ ETF ทั้งประเภท Leveraged และ Inverse ที่หลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเคลื่อนไหวสูง
หากคุณกำลังเริ่มสนใจใน Leveraged และ Inverse ETF แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร เหมาะกับใคร และควรเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้จะไม่อธิบายเชิงทฤษฎีแบบวิชาการ หากแต่พาไปสำรวจวิธี "ลองลงทุนจริง" ที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ลงทุนในไทย "ตลาดฮ่องกง" อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม ทั้งในแง่ของเวลาเทรดที่ใกล้เคียงกับไทย และผลิตภัณฑ์ ETF ทั้งประเภท Leveraged และ Inverse ที่หลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเคลื่อนไหวสูง
1. เวลาตลาดเปิดตรงกับไทย
เทรดได้ตั้งแต่ 8:30 – 11:00 และ 12:00 – 15:00 (ตามเวลาไทย)
→ เทรดจบก่อนเที่ยง ไม่ต้องรอยันตีสามแบบตลาด US
2. หุ้นจีนผันผวนแรง เหมาะกับทั้ง Leveraged และ Inverse
ดัชนี Hang Seng TECH ที่รวมหุ้นใหญ่สายเทคจีนอย่าง Alibaba, Tencent, Baidu — เคลื่อนไหวแรง ทำให้ทั้ง Leveraged และ Inverse ETF มีโอกาสทำกำไร (หรือขาดทุน) ได้เร็วตามทิศทางตลาด
3. เทรดผ่านแอปของไทยอย่าง InnovestX ได้เลย
ไม่ต้องเปิดบัญชี offshore ให้ยุ่งยาก แค่เปิดบัญชีต่างประเทศในแอปเดียวก็เทรดได้ทันที
4. การแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างเงินบาทและฮ่องกงดอลลาร์ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม
การแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่าง THB-HKD และ HKD-THB ผ่าน InnovestX ยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม
Leveraged ETF (2x)
ETF เหล่านี้เป็น Leveraged ETF ที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงจริง (HKEX) และครอบคลุมกลุ่มดัชนีหลักที่นักลงทุนสนใจ — ทั้งหุ้นเทคจีน และหุ้น A-share ฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการลองเทรดแรง ๆ แต่ยังอยู่ในตลาดที่เข้าถึงง่ายและมีสภาพคล่องเพียงพอ
Inverse ETF (-1x, -2x)
Inverse ETF ให้ผลตอบแทนในทางตรงข้ามกับสินทรัพย์อ้างอิง ดังนั้น หากทิศทางของตลาดเป็นขาลง Inverse ETFs จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก
นักลงทุนจึงสามารถเข้าซื้อโดยสะดวก และสามารถใช้ Inverse ETFs มาเพิ่มผลตอบแทน portfolio โดยไม่ต้องเปิดบัญชีวางหลักประกัน (หรือการ short ในบัญชี margin) โดยมี Inverse ETF ที่สภาพคล่องสูง และเป็นที่นิยม
Leveraged ETF สำหรับช่วงตลาดขาขึ้น
เมื่อคุณมีมุมมองว่าตลาดจะปรับตัวขึ้น การใช้ Leveraged ETF จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้เร็วกว่าการลงทุนในดัชนีอ้างอิงโดยตรง
Inverse ETF สำหรับทำกำไรตลาดขาลง หรือ การ Hedging
สำหรับนักลงทุนที่ถือครองหุ้น หากต้องการทำกำไรขาลง หรือ ป้องกันความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง สามารถซื้อ Inverse ETFs ของหุ้นรายตัว เช่น Tesla, NVIDIA โดยหากคุณถือหุ้น Tesla และทิศทางตลาดดูไม่สดใส อาจซื้อ Inverse ETFs ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็น Tesla เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน โดยสินทรัพย์ประเภทนี้พึ่งเริ่มซื้อขายในตลาดฮ่องกงช่วงมีนาคม 68 และทาง InnovestX จะเปิดให้ซื้อขายเร็วๆนี้
เปรียบเทียบตลาด Leveraged และ Inverse ETF: ฮ่องกง 🇭🇰 / สหรัฐฯ 🇺🇸 / เกาหลีใต้ 🇰🇷 / ไต้หวัน 🇹🇼
ตารางนี้สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของตลาด Leveraged และ Inverse ETF ที่น่าสนใจในแต่ละประเทศ โดยฮ่องกงมีจุดแข็งด้านเวลาการเทรดที่ใกล้เคียงกับไทย ไม่มีภาษีปันผล และมีค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ซึ่งแม้จะมีตัวเลือก ETF หลากหลายและสภาพคล่องสูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับภาษีที่สูงและช่วงเวลาเทรดที่อาจไม่สะดวกสำหรับนักลงทุนไทย ในขณะที่เกาหลีใต้และไต้หวันก็เป็นตลาดที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่ม ETF 2x ที่เน้นหุ้นภายในประเทศและเทคโนโลยี ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มองหาโอกาสในเอเชียเป็นหลัก
ทั้ง 4 ตลาดนี้ใช้ระบบ "Daily Reset" ซึ่งหมายความว่า ผลตอบแทนของ ETF จะถูกปรับใหม่ทุกวันตามดัชนีอ้างอิงของวันนั้น เช่น ถ้า ETF เป็นแบบ 2x แล้วดัชนีขยับขึ้น 1% ในวันนั้น ETF จะขึ้น 2% แต่พอข้ามวัน ระบบจะรีเซ็ตและคำนวณผลตอบแทนจากราคาปิดวันก่อนหน้า ไม่ใช่ทบต้นจากวันก่อน ทำให้หากตลาดมีความผันผวนมาก ผลตอบแทนจริงในระยะยาวอาจไม่ตรงกับที่เราคาดจากตัวคูณแบบ 2x หรือ -1x เสมอไป
ประโยชน์ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ คือ ETF ในฮ่องกงจำนวนมากมี "ฐานผู้เล่นรายย่อย" ค่อนข้างเยอะ ทำให้ราคามักเคลื่อนไหวไวตาม sentiment ข่าว เช่น นโยบายจีนหรือเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเหมาะกับสายเทรดที่ชอบจังหวะเร็ว–แรง นอกจากนี้ ตลาดยังมี "market maker" คอยดูแลสภาพคล่อง ทำให้แม้จะไม่ได้ฮิตติดเทรนด์แบบ US ก็ยังซื้อขายได้ไม่ยาก
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ข้อควรระวัง คือ ฮ่องกงยังไม่มี Leveraged ETF ที่ให้อัตราทด 3x แบบในตลาดสหรัฐฯ และการที่ ETF ส่วนใหญ่เป็นรายวัน (daily reset) หมายความว่าการถือยาวอาจไม่ใช่แนวทางที่เหมาะ เพราะผลตอบแทนจริงอาจเบี้ยวไปจากที่เราคิดได้ถ้าตลาดแกว่งมากเกินไป
แม้ Leveraged และ Inverse ETF จะดูน่าสนใจเพราะมีโอกาสทำกำไรเร็ว แต่ก็มีจุดที่มือใหม่ต้องรู้ไว้ก่อนกดเทรด — ผลตอบแทนของ ETF ประเภทนี้จะถูก "รีเซ็ตทุกวัน" หมายความว่าไม่ได้ทบต้นในระยะยาวแบบที่หลายคนเข้าใจ จึงไม่เหมาะกับการถือยาว แต่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ถนัดการจับจังหวะในแต่ละวัน และที่สำคัญคือ หากเทรดผิดจังหวะ ก็อาจขาดทุนได้เร็วพอ ๆ กับที่มันทำกำไรได้เร็วเช่นกัน
เริ่มต้นลงทุนใน Leveraged และ Inverse ETF ผ่าน InnovestX
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถเริ่มลงทุนใน Leveraged และ Inverse ETF ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นจีน ทั้ง H-shares และ A-shares ได้ง่าย ๆ ผ่านการค้นหา Ticker ของกองทุน (ชื่อ Ticker ตามตาราง) บนแอปพลิเคชัน InnovestX
ขั้นตอนการลงทุน Leveraged และ Inverse ETF บนแอปพลิเคชัน InnovestX
1. เลือกเมนู Trade ในแถบเมนูด้านล่าง
2. ค้นหา Ticker กองทุน หรือ ชื่อกองทุน ที่ต้องการ
3. อ่าน รายละเอียดกองทุน และ ตรวจสอบคำสั่งซื้อ ก่อนกดยืนยัน
หมายเหตุ: Leverage และ Inverse ETF คืออะไร ผู้ลงทุนสามารถอ่านได้ในบทความ
https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/investsnack/product-basic-knowledge/etf/single-stock-leverage-and-inverse-etf
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน