ETF ที่ขึ้นได้แม้มีความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์: เจาะลึก iShares MSCI Israel ETF (EIS) กับ InnovestX

ผลการดำเนินงานของดัชนี EIS ที่โดดเด่น

iShares MSCI Israel ETF (EIS) มีผลตอบแทนที่น่าสนใจ (23 มิถุนายน 2568, yahoo finance)

โดย 5 อันดับแรกที่มีสัดส่วนการถือครองสูงสุดใน ETF ได้แก่
BANK LEUMI LE ISRAEL, BANK HAPOALIM BM, TEVA PHARMACEUTICAL INDUSTRIES ADR, CHECK POINT SOFTWARE TECHNOLOGIES, และ CYBER ARK SOFTWARE LTD ซึ่งมีทั้งอุตสาหกรรมการเงินและเทคโนโลยี

 

ผลตอบแทน 1 ปี: ดัชนี iShares MSCI Israel ETF (EIS) ทำผลตอบแทนได้สูงถึง 45.56%ซึ่งเหนือกว่าดัชนีโลกอย่าง MSCI World Index (URTH) ที่ 10.36% อย่างชัดเจน

แม้ว่าจะมีสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน แต่ยังแสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้น Tel Aviv มีการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดย มีผลตอบแทน  1 และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่132.56%, 326.53% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ S&P 500 ในช่วงในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่8.64%, 92.55% ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและความยืดหยุ่นของตลาดในประเทศ

 

หุ้นส่วนใหญ่ยังเป็น Growth Stock ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

อิสราเอลได้รับการขนานนามว่าเป็น "Startup Nation" ด้วยระบบนิเวศนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง  กองทุนนี้มีการกระจุกตัวในหุ้น 5 อันดับแรกที่มีสัดส่วนสูงสุดดังนี้:

1. Bank Leumi Le-Israel (LUMI) มีสัดส่วน 8.82% Bank Leumi Le-Israel เป็นสถาบันการเงินและการธนาคารที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของอิสราเอล โดยมีโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมบริการทางการเงินครบวงจร ทั้งในภาคค้าปลีก ธุรกิจ และตลาดทุน ธนาคารให้บริการสินเชื่อผู้บริโภคหลากหลายประเภท รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (mortgages) นอกจากนี้ยังเป็นผู้ให้บริการธนาคารพาณิชย์แก่ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ รวมถึงให้บริการด้านการจัดการสินทรัพย์และการลงทุนในตลาดทุนอีกด้วย รายได้หลักของธนาคารมาจากการดำเนินงานธนาคารแบบดั้งเดิม เช่น ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) และค่าธรรมเนียมจากการให้บริการทางการเงินต่างๆ
2. Bank Hapoalim BM (POLI) มีสัดส่วน 7.60% Bank Hapoalim เป็นอีกหนึ่งธนาคารชั้นนำและใหญ่ที่สุดของอิสราเอล โมเดลธุรกิจของธนาคารมุ่งเน้นการให้บริการทางการเงินและการธนาคารที่หลากหลายและครบวงจรเช่นกัน ครอบคลุมบริการธนาคารส่วนบุคคล (retail banking) บริการธนาคารธุรกิจ (commercial banking) และบริการธนาคารเพื่อการลงทุน (investment banking) ให้แก่ฐานลูกค้าที่กว้างขวาง รวมถึงบุคคลทั่วไป ภาคธุรกิจ และองค์กรขนาดใหญ่ ธนาคารสร้างรายได้จากการให้สินเชื่อแก่ลูกค้า การรับฝากเงิน การจัดการการลงทุน และการให้บริการทางการเงินอื่นๆ ทั้งในประเทศและในบางสาขาในต่างประเทศ
3. Teva Pharmaceutical Industries ADR (TEVA) มีสัดส่วน 6.77% Teva Pharmaceutical Industries เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจโดยมีโมเดลที่เน้นการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายยาชื่อสามัญ (generics) ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการลงทุนและพัฒนาในส่วนของยาเฉพาะทาง (specialty medicines) และนวัตกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มโรคระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) และระบบทางเดินหายใจ (respiratory) บริษัทมีเครือข่ายการผลิตและการจัดจำหน่ายทั่วโลก ทำให้สามารถเข้าถึงตลาดและลูกค้าจำนวนมาก โมเดลธุรกิจของ Teva ยังรวมถึงการวิจัยและพัฒนาเพื่อค้นหายาใหม่ๆ หรือปรับปรุงยาเดิม เพื่อรักษาการเติบโตและตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
4. Check Point Software Technologies (CHKP) มีสัดส่วน 6.55% Check Point Software Technologies เป็นผู้นำระดับโลกในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยมีโมเดลธุรกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาและจำหน่ายโซลูชั่นด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมในหลายมิติ ซึ่งรวมถึง:

• ความปลอดภัยของเครือข่าย (Network Security): ให้บริการไฟร์วอลล์ (firewall), VPN, ระบบป้องกันการบุกรุก (IPS) และการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง
• ความปลอดภัยของคลาวด์ (Cloud Security): ปกป้องข้อมูลและแอปพลิเคชันที่ทำงานบนแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะและส่วนตัว
• ความปลอดภัยของผู้ใช้และอุปกรณ์ปลายทาง (User & Endpoint Security): ครอบคลุมการป้องกันสำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และข้อมูล
• การจัดการความปลอดภัย (Security Management): ระบบรวมศูนย์สำหรับการบริหารจัดการโซลูชั่นทั้งหมด บริษัทสร้างรายได้จากการจำหน่ายซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบริการสมัครสมาชิก รวมถึงการสนับสนุนและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ให้กับองค์กรทุกขนาดทั่วโลก

5. CyberArk Software Ltd (CYBR) มีสัดส่วน 6.32% CyberArk Software เป็นผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง โดยมีโมเดลธุรกิจที่เน้นการปกป้อง "ข้อมูลประจำตัวที่มีสิทธิ์พิเศษ" (Privileged Identities) ซึ่งเป็นบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบและข้อมูลที่สำคัญที่สุดขององค์กร โมเดลธุรกิจหลักของ CyberArk ประกอบด้วย:

• การจัดการการเข้าถึงพิเศษ (Privileged Access Management - PAM): ซึ่งเป็นแกนหลักของธุรกิจ เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่บัญชีที่มีสิทธิ์สูง
• การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลประจำตัวองค์กร (Workforce Identity and Access Management - IAM): ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและรักษาความปลอดภัยของการเข้าถึงสำหรับพนักงานทั่วไปและพันธมิตร
• การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลประจำตัวแบบ Machine (Machine Identity Security): ปกป้องข้อมูลประจำตัวที่ใช้โดยแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ที่ไม่ใช่บุคคล บริษัทสร้างรายได้จากการจำหน่ายใบอนุญาตซอฟต์แวร์และบริการสมัครสมาชิก รวมถึงบริการให้คำปรึกษา การติดตั้ง และการสนับสนุน โดยมีฐานลูกค้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่และภาครัฐทั่วโลกที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยสูงสุดจากการโจมตีทางไซเบอร์

 

 

Valuation ไม่แพงน่าสนใจ

 EIS มี P/E Ratio: ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 13.6 เท่า ซึ่งหากเทียบกับดัชนี s&p500 มี pe ratio อยู่ที่ 28.4 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่แพงน่าสนใจกว่า (yahoo finance)

สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่น่าสนใจและมีศักยภาพการเติบโตอย่างอิสราเอล iShares MSCI Israel ETF (EIS) ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยความโดดเด่นด้านเทคโนโลยี และการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจ InnovestX พร้อมเป็นประตูสู่การลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก รวมถึง การลงทุน iShare MSCI Israel ETF (EIS)  ผ่านแอปพลิเคชันของเรา

InnovestX นำเสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมีประสบการณ์ ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำและการสนับสนุน เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการลงทุน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน InnovestX วันนี้ และเริ่มต้นการเดินทางสู่โอกาสการลงทุนในตลาดโลกที่หลากหลายและน่าตื่นเต้น!

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงดังกล่าว