PDF Available  
Company History

SENSE23 DR23 จาก InnovestX กับโอกาสลงทุน SenseTime Group (0020.HK): ผู้พัฒนา AI จากจีน มุ่งขับเคลื่อนภาคธุรกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประจำวันด้วย AI

20 Nov 25 9:06 AM
สรุปสาระสำคัญ

SenseTime (SENSE23) เริ่มต้นจากงานวิจัยในห้องแล็บสู่การเป็นผู้นำ AI ระดับโลก บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยทีมศาสตราจารย์ Tang Xiao’ou จากมหาวิทยาลัยฮ่องกง (CUHK) พร้อมด้วย ดร. Xu Li และ ดร. Wang Xiaogang ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีให้คอมพิวเตอร์ “เข้าใจโลกจริง” ผ่านภาพและวิดีโอเหมือนมนุษย์ ตั้งแต่วันแรก SenseTime วางตัวเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ AI เต็มรูปแบบ เน้นพัฒนาอัลกอริทึมและเครื่องมือที่นำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่สมาร์ตโฟน เมืองอัจฉริยะ ไปจนถึงระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ด้วยพันธกิจ AI for a Better Tomorrow

พอเข้าสู่ยุค Generative AI บริษัทก็เร่งเครื่อง เปิดตัวแพลตฟอร์มโมเดลขนาดใหญ่ SenseNova และโครงสร้างพื้นฐาน SenseCore จนวันนี้รายได้กว่า 77% ของบริษัทมาจากบริการด้าน Generative AI ทั้งการฝึก ปรับแต่ง และใช้งานโมเดลในโลกจริง เช่น หุ่นยนต์ รถยนต์อัจฉริยะ และระบบสุขภาพ AI

เทคโนโลยีของ SenseTime ถูกใช้งานจริงในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ระบบตรวจจับใบหน้าและวัตถุที่ใช้ในเมืองอัจฉริยะ เทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ช่วยแพทย์อ่านภาพ X-ray, CT และ MRI ได้เร็วขึ้น ไปจนถึง AI สำหรับสมาร์ตโฟน การเงิน หุ่นยนต์ และรถยนต์อัจฉริยะที่ต้อง มองเห็น คิด และตัดสินใจ ได้เองในแบบมนุษย์ ทำให้ SenseTime กลายเป็นผู้ให้บริการ AI ครบวงจรที่ขับเคลื่อนทั้งองค์กรและชีวิตประจำวันของผู้คนในจีน SenseTime ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทวิจัยอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องจักรแห่งนวัตกรรมที่ผสานโมเดล โครงสร้างพื้นฐาน และแอปพลิเคชัน AI เข้าด้วยกันอย่างครบวงจร พร้อมพาโลกเข้าสู่ยุค AI 2.0 อย่างเต็มตัว

ประวัติและวิวัฒนาการของ SenseTime Group Inc.

SenseTime ก่อตั้งปี 2014 เกิดจากงานวิจัยด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision หรือการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อให้คอมพิวเตอร์ เข้าใจและตีความภาพและวิดีโอได้เหมือนมนุษย์ เช่น การตรวจจับใบหน้า ยานพาหนะ วัตถุ หรือพฤติกรรม เพื่อช่วยในการตัดสินใจแบบอัตโนมัติในโลกจริง) ของศาสตราจารย์ Tang Xiao’ou จากมหาวิทยาลัย CUHK (Chinese University of Hong Kong) โดยมี ดร. Xu Li และ ดร. Wang Xiaogang เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ตั้งแต่แรกเริ่ม บริษัทวางตัวชัดเจนว่าเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เอไอมุ่งพัฒนาอัลกอริทึมและเครื่องมือ (toolchains) ให้พาร์ตเนอร์เอาไปฝังใช้จริงในโลก รวมทั้งสมาร์ตโฟน เมืองอัจฉริยะ (smart cities) และภาคอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีพันธกิจที่จะสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอให้ดียิ่งขึ้น พัฒนางานวิจัยและซอฟต์แวร์เชิงแพลตฟอร์มที่ต่อยอดสเกลได้หลายอุตสาหกรรม

 

ตั้งแต่ปี 2023 บริษัทมุ่งไปที่โมเดลฐานและโครงสร้างพื้นฐานเอไอ เปิดตัวโมเดลขนาดใหญ่ SenseNova และมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยกระดับการให้เหตุผล การเขียนโค้ด และการรองรับบริบทยาว สะท้อนถึงการย้ายจาก classic CV module แบบเดิม ไปสู่แพลตฟอร์ม Generative AI สำหรับองค์กร และสิ่งที่นักลงทุนควรจับตาวันนี้คือการผสาน โมเดล โครงสร้างพื้นฐาน และแอปพลิเคชัน ให้พัฒนาไปด้วยกัน และความสามารถในการเปลี่ยนงานวิจัยให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จริงอย่างต่อเนื่อง

 

โครงสร้างรายได้และธุรกิจหลัก

SenseTime Group Inc. มีโครงสร้างรายได้ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก

  1. Generative AI – 77.0% ของรายได้รวม

Generative AI เป็นแหล่งรายได้หลักของ SenseTime โดยมาจากบริการ ฝึก (training) ปรับแต่ง (fine-tuning) และ รันใช้งานโมเดล (inference) บนโครงสร้างพื้นฐาน SenseCore ควบคู่กับรายได้จาก แอปพลิเคชันที่พัฒนาบนโมเดลใหญ่ SenseNova ในปี 2024 รายได้ของกลุ่ม Generative AI พุ่งขึ้นอย่างมาก จากความต้องการใช้บริการฝึกและปรับแต่งโมเดล รวมถึงการเติบโตของแอปพลิเคชันแนวตั้งในหลายอุตสาหกรรม เช่น อินเทอร์เน็ต ฮาร์ดแวร์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ เฮลธ์แคร์ และการเงิน ซึ่งทั้งหมดสะท้อนโมเดลธุรกิจแบบครบวงจรที่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับองค์กรทั่วจีน

 

  1. Computer Vision – 18.5% ของรายได้รวม

ในส่วนของธุรกิจ Computer Vision (CV) บริษัทสร้างรายได้จากอัลกอริทึมและโซลูชันที่สามารถนำไปใช้เชิงพาณิชย์ได้จริง โดยรายได้หลักมาจากการขายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ โซลูชันเฉพาะทาง และบริการสนับสนุนต่างๆ โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมภายในประเทศที่บริษัทมีจุดแข็งและสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งคัดสรรพาร์ตเนอร์ในต่างประเทศที่มีศักยภาพในการต่อยอดรายได้ระยะยาว


ขณะเดียวกัน SenseTime ยังผสานความสามารถของโมเดลขนาดใหญ่เข้ากับผลิตภัณฑ์ CV เดิม เพื่อยกระดับชุดเทคโนโลยี (stack หรือโครงสร้างเทคโนโลยีที่ต่อเนื่องกันเป็นชั้นเช่น ชั้นโครงสร้างพื้นฐาน ชั้นโมเดล ชั้นเครื่องมือและแพลตฟอร์ม) ให้ทันสมัยและค่อย ๆ นำลูกค้าเข้าสู่แพลตฟอร์ม Generative AI อย่างเป็นระบบในอนาคต

 

  1. X Businesses หรือ Smart Auto – 4.5% ของรายได้รวม

X Businesses คือกลุ่มธุรกิจที่ SenseTime ปั่นขึ้นภายในองค์กร (incubated vertical companies) เพื่อต่อยอดเทคโนโลยี AI สู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น SenseAuto ที่เป็นผู้นำด้าน Intelligent Automotive Platform สำหรับระบบขับขี่อัจฉริยะ (smart pilot), smart healthcare (SenseCare) และ home robotics (SenseRobot) ซึ่งแต่ละธุรกิจจะมีโมเดลรายได้ต่างกันตามอุตสาหกรรม แต่มีจุดร่วมคือการสร้างมูลค่าจาก ซอฟต์แวร์ฟีเจอร์แบบฝัง (pre-install/embedded) กับผู้ผลิต และบริการเสริมบนคลาวด์ (cloud-based services)

 

ทั้งหมดนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีหลัก SenseCore (AI Infrastructure) และ SenseNova (Large Model Platform) ทำให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้ทรัพยากรด้านโมเดลและ compute (พลังการประมวลผล หรือ ขีดความสามารถในการคำนวณของระบบคอมพิวเตอร์ ในงานด้าน AI) ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างทั้งรายได้และโอกาสขยายระบบนิเวศ AI ในระดับอุตสาหกรรม

 

Screenshot-2025-11-20-090958.png

 

กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งที่โดดเด่น
เพื่อพร้อมรับคลื่นเทคโนโลยีของยุค AI 2.0 SenseTime ตั้งใจโฟกัสไปที่ธุรกิจหลักอย่างการสร้างคลาวด์ AI ชั้นนำของโลก กับระบบโครงสร้างพื้นฐานคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (AI Infrastructure) ให้เข้ากับโมเดลพื้นฐาน (Foundation Models) และแอปพลิเคชัน AI ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงขยายการใช้งานเทคโนโลยี Computer Vision ในหลากหลายอุตสาหกรรมด้วย

  1. รวมกลยุทธ์สามด้าน — SenseCore, SenseNova และ Applications
    SenseTime ตั้งเป้าลดต้นทุนการฝึกและรันโมเดล AI ขนาดใหญ่ลงหลายเท่าในทุกปี เพื่อให้พร้อมสำหรับยุคที่แอป AI ที่กำลังเติบโต บริษัทไม่เพียงตอบโจทย์ลูกค้าเดิม แต่ยังบุกไปในสาย Embodied AI และอุตสาหกรรมใหม่ๆ หาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะทางที่แข็งแกร่ง พร้อมขยายศูนย์คอมพิวเตอร์จากเซี่ยงไฮ้ไปทั่วประเทศจีน นอกจากนี้ ยังพัฒนาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพและเครื่องมือโต้ตอบ เพื่อให้ Generative AI เข้าถึงทั้งองค์กรและผู้ใช้ทั่วไปได้มากขึ้น มุ่งสู่การสร้าง AI Super App

 

  1. พัฒนาโมเดลหลายมิติระดับโลก (Multimodal Models)
    SenseTime จะใช้ฐานข้อมูลภาพและการให้เหตุผลแบบหลายมิติที่เป็นจุดแข็งของบริษัท มาสร้าง “ผู้ช่วยอัจฉริยะยุคใหม่” (Super Assistant) และ AI agent (ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและเข้าใจบริบทของโลกจริง) ที่เก่งรอบด้าน เพื่อที่จะเตรียมบรรลุขีดจำกัดของการนำไปใช้เชิงพาณิชย์

 

  1. ปรับโมเดลธุรกิจ Computer Vision ให้ทำเงินได้จริง
    SenseTime จะต่อยอดจากลูกค้าระดับสูงที่ใช้งานจริงและเห็นผล พร้อมดันวิธีแก้ปัญหา (solution) ระดับโลกไปสู่ทั้งตลาดจีนและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก

เทียบกับ OpenAI ในสหรัฐฯ: OpenAI เป็นผู้พัฒนาโมเดลระดับแนวหน้าที่ผลักดัน GPT5 สู่การใช้งานจริงแบบ multimodal (ข้อความ–ภาพ–เสียง) พร้อมฐานกระจายตัวระดับโลกผ่าน ChatGPT Enterprise และ API ที่เน้นมาตรฐานความปลอดภัยองค์กร และเครื่องมือแอดมินสำหรับควบคุมข้อมูลในองค์กร รวมถึง ecosystem เต็มอย่าง GPT Store ที่เปิดทางให้นักพัฒนาปล่อยแอปและ agent ได้กว้างขึ้น จุดแข็งของ OpenAI จึงอยู่ที่สเกลการเติบโต การปฏิบัติตามมาตรฐาน และความสามารถของโมเดลรุ่นล่าสุดที่ขยายบริบทยาวและประสิทธิภาพ coding ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

SenseTime และ OpenAI ต่างมุ่งสู่ multimodal models และ agent เหมือนกัน แต่ SenseTime มีข้อได้เปรียบเชิงแข่งขันด้านการตั้งโครงสร้างพื้นฐานจนถึงการพัฒนาแอปในจีน คุมตั้งแต่ SenseCore (AI cloud/compute + deep learning platform) ไปจนถึง SenseNova นอกจากนี้ รายได้ฝั่ง Generative AI โตแรงและเป็นสัดส่วนหลักของบริษัท สะท้อนความต้องการในโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง

 

สรุปสั้นๆ ถึงแม้แพลตฟอร์มสากลและ ecosystem ที่กว้างกว่าของ OpenAI จะโดดเด่น แต่ถ้าต้องการโซลูชันที่สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานจีน ต้นทุนต่อหน่วยที่ถูก และการทำงานแบบ end-to-end ในอุตสาหกรรมท้องถิ่น SenseTime คือคู่แข่งที่ได้เปรียบ

 

เปรียบเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

เทียบกับ Bluebik Group (BBIK) เป็นที่ปรึกษาและผู้ให้บริการ Digital Transformation สัญชาติไทยที่โฟกัสการยกระดับองค์กรด้วยกลยุทธ์ธุรกิจและเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริการ Enterprise Transformation, AI-Led Integrated Services, Big Data & AI, Cybersecurity และ Supply Chain แบบ end-to-end จุดเด่นของ Bluebik คือการเข้าใจ Pain point ขององค์กรไทยและภูมิภาค ช่วยออกแบบกลยุทธ์, Use case, Roadmap ด้าน Data/AI และลงมือ Implement ระบบ Analytics หรือ AI ให้ใช้งานได้จริงในระดับองค์กร (AI Transformation Partner) ไม่ได้สร้างโมเดลฐานหรือโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่เอง แต่ทำหน้าที่เลือกและผสมผสานเทคโนโลยีที่มีในตลาด เพื่อนำไปใช้ในเคสธุรกิจของลูกค้า รายได้รวมปี 2023 อยู่ราว 1.3 พันล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 280 ล้านบาท ณ ปลายปี 2025 ซึ่งสะท้อนภาพของบริษัทคอนซัลต์เทคโนโลยีขนาดกลางที่เติบโตเร็วในตลาดไทยมากกว่าจะเป็นผู้เล่นระดับแพลตฟอร์ม AI ระดับโลก

 

อย่างไรก็ตาม SenseTime มีความได้เปรียบเชิงระบบ (systemic advantage) ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนในด้านขนาดของโครงสร้างพื้นฐานและการวิจัยพัฒนา โดยในรายงานกลางปี 2025 บริษัทมีศูนย์ประมวลผล AI (SenseCore) ที่มีกำลังประมวลผลกว่า 25,000 PetaFLOPS และพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ SenseNova V6.5 ที่มีสมรรถนะใกล้เคียง OpenAI o1 และ Gemini 2.5 Pro SenseTime ยังมีระบบนิเวศ 1+X ครอบคลุม Generative AI, Computer Vision, และธุรกิจแนวตั้ง เช่น Smart Auto, Smart Healthcare, และ Robotics ที่ขยายการใช้งาน AI สู่ระดับมหาชนในกว่า 200 เมืองและ 30,000 อาคารทั่วจีน ความได้เปรียบเชิงแข่งขันของ SenseTime จึงอยู่ที่ขนาดของข้อมูล ความสามารถด้าน multimodal AI และระบบนิเวศเชื่อมโยงซอฟต์แวร์–ฮาร์ดแวร์–การประมวลผล (AI Infrastructure) ซึ่งยากที่บริษัทขนาดเล็กอย่าง ARV จะสร้างได้ในระยะสั้น แม้ ARV จะมีจุดแข็งในด้านความเข้าใจอุตสาหกรรมพลังงาน แต่ SenseTime เด่นในด้านเทคโนโลยีฐานรากและการพัฒนา AI แบบสเกลโลก ทำให้มีศักยภาพในการขยายสู่ AI Smart Infrastructure และ AI Robotics ได้ลึกและกว้างกว่าอย่างมาก

 

อนาคตของ SenseTime

อนาคตของ SenseTime มีศักยภาพเติบโตจากทั้งแรงขับเชิงโครงสร้างและนโยบายระดับชาติ จีนกำลังผลักดันการประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมหลัก ควบคู่กับการเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้ AI เพิ่มสูงขึ้น นำไปสู่ความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน (AI Infrastructure) โมเดลขนาดใหญ่ (Large Models) และพัฒนาไปสู่โซลูชันเชิงอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ด้วยโลกก้าวสู่ยุค AI 2.0 ที่ต้องการ AI ที่มีความสามารถหลากหลาย (multimodal) และสามารถปฏิบัติงานได้แบบอัตโนมัติ (agent) เพื่อใช้งานซับซ้อนในธุรกิจ ตั้งแต่งานวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกไปจนถึงการสื่อสารกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และหุ่นยนต์

 

SenseTime เดินหน้าโมเดลหนึ่งแกนหลักบวกกับหลายธุรกิจผสานสามเสาหลัก SenseCore (โครงสร้างพื้นฐาน), SenseNova (โมเดลขนาดใหญ่) และแอปพลิเคชัน เป้าหมายคือสร้าง AI Cloud ชั้นอุตสาหกรรมที่ลดต้นทุนเทรนและรันใช้งานโมเดล ขยายศูนย์ข้อมูลทั่วประเทศ และนำ Generative AI เข้าสู่การใช้งานจริง จุดแข็งด้าน Computer Vision ถูกยกระดับเป็น “Vision Agents” เชื่อมกับ multimodal models สร้างโซลูชันแม่นยำ ใช้งานได้จริง และขยายซ้ำได้

ด้านรายได้ SenseTime อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Generative AI อย่างเต็มตัว ขณะที่ธุรกิจ Computer Vision กลับมาฟื้นตัวจากฐานลูกค้าคุณภาพสูง ส่วนกลุ่ม X Businesses กำลังเปิดศักยภาพ ecosystem ใหม่ โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและโมเดลร่วมกันเพื่อขยายรายได้สู่ผู้บริโภคโดยตรง จุดแข็งของบริษัทอยู่ที่ตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่ การสนับสนุนเชิงนโยบายด้าน data center, multimodal models และ agent ที่พร้อมต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกันก็สามารถบริหารความเสี่ยงจากวัฏจักรลงทุน พลังงาน และกฎระเบียบ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ความท้าทายและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

แม้ SenseTime จะก้าวสู่บทบาทแกนกลางของ AI รุ่นใหม่ในจีนด้วย stack ครบวงจรทั้งโครงสร้างพื้นฐาน (SenseCore) โมเดลฐาน (SenseNova) และแอปพลิเคชันสำหรับองค์กร แต่บริษัทกำลังเผชิญแรงกดดันหลายด้านที่อาจจำกัดศักยภาพการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในความท้าทายหลักคือ ข้อจำกัดด้านซัพพลายชิปและนโยบายคุมส่งออก ซึ่งทำให้การเข้าถึงจีพียูรุ่นสูงมีความไม่แน่นอน กระทบต้นทุนและจังหวะขยายกำลัง compute แม้ช่วงหลังมีสัญญาณการอนุญาตส่งออกบางรุ่น แต่เงื่อนไขยังผันผวนและเปลี่ยนแปลงเร็ว ส่งผลต่อการวางแผนลงทุนศูนย์คอมพิวต์ในจีนโดยตรง

 

นอกจากนั้นความท้าทายเชิงปฏิบัติการและการเงินในช่วงขยายตัวและระยะเติบโตของธุรกิจก็มีความสำคัญ เพราะการเร่งขยายกำลัง compute ทำให้ต้นทุน hardware และ data center เพิ่มขึ้น กดดันกำไรและกระแสเงินสด ด้านกรอบกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลและไบโอเมตริกซ์ในจีน ก็เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานกำกับระบุชัดว่าห้ามบังคับใช้จดจำใบหน้า ต้องมีทางเลือกยืนยันตัวตนอื่นและมีความโปร่งใส ส่งผลให้โซลูชัน CV และ smart city ต้องออกแบบใหม่ให้สอดคล้องกัน ซึ่งเพิ่มทั้งต้นทุนทางกฎหมายและเวลาในการปรับใช้ โดยเฉพาะในโปรเจกต์สาธารณะขนาดใหญ่

 

 

 

 

สนใจลงทุนในหุ้น SenseTime Group (SENSE23, 0020.HK) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน

 

คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5