China Mobile (0941.HK) ผู้นำโทรคมนาคมจีนที่มาพร้อมกับฐานลูกค้ากว่า 1 พันล้านราย พร้อมบุกธุรกิจ Cloud และ AI

จากผู้ผลิตสิ่งทอสู่ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคม

 

China Mobile มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเริ่มต้นจากการควบรวมกิจการบริษัทโทรคมนาคมหลายแห่งในจีนตั้งแต่ปี 1997 ก่อนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปีเดียวกัน ในช่วงแรกบริษัทเผชิญกับความท้าทายจากรัฐบาลจีนที่บังคับให้ใช้เทคโนโลยี TD-SCDMA ซึ่งเป็นเทคโนโลยี 3G ที่พัฒนาขึ้นในประเทศ แทนที่จะใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสากล

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ยุค 4G และ 5G China Mobile สามารถใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสากลได้ ทำให้สามารถแข่งขันได้อย่างเต็มศักยภาพ บริษัทได้ขยายโครงข่าย 5G อย่างรวดเร็วและเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการ 5G ในโลก นอกจากนี้ยังได้รับใบอนุญาตให้บริการบรอดแบรนด์แบบใยแก้วนำแสง (Fixed-line Broadband) ในปี 2014 และสามารถเติบโตจนกลายเป็นผู้ให้บริการบรอดแบรนด์รายใหญ่ที่สุดในจีน

 

ปัจจุบัน China Mobile มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก ด้วยเงินสดและหลักทรัพย์ระยะสั้นรวมกว่า 277 พันล้านหยวน ทำให้สามารถลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาบริการ Cloud และ AI ที่เป็นธุรกิจเติบโตสูง

 

 

โครงสร้างรายได้และธุรกิจหลัก

 

China Mobile มีโครงสร้างรายได้ที่หลากหลายและสมดุล แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลัก:

 

Telecommunications Services – 85% ของรายได้รวม ซึ่งประกอบไปด้วยธุรกิจย่อย ได้แก่

 

1. Wireless Data Traffic – 37% ของรายได้รวม

ธุรกิจบริการข้อมูลไร้สายที่เป็นแกนหลักของบริษัท ครอบคลุมบริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ การสตรีมมิ่ง และแอปพลิเคชันต่าง ๆ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเพิ่มขึ้นของการใช้งานข้อมูลและการเปลี่ยนผ่านสู่ 5G ที่ส่งผลให้ผู้ใช้ใช้ข้อมูลมากขึ้น

 

2. Applications and Data Services – 23% ของรายได้รวม

ธุรกิจแอปพลิเคชันและบริการข้อมูล ครอบคลุม Cloud Computing IoT (Internet of Things) ที่หมายถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับอินเทอร์เน็ต Big Data และ AI Solutions กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของธุรกิจและภาครัฐในจีน โดยเฉพาะบริการ Cloud ที่ China Mobile เป็นอันดับ 2 ของจีน

 

3. Wireline Broadband – 13% ของรายได้รวม

ธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านใยแก้วนำแสง ที่ China Mobile สามารถเติบโตจนมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 50 ในจีน กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการทำงานจากที่บ้านและการใช้งานบันเทิงดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น

 

4. Voice Services – 7% ของรายได้รวม

ธุรกิจบริการเสียงแบบดั้งเดิม แม้จะมีสัดส่วนลดลงจากการเปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชันสื่อสาร แต่ยังคงเป็นบริการพื้นฐานที่สำคัญสำหรับลูกค้าองค์กรและผู้สูงอายุ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มคงที่หรือเติบโตเล็กน้อยจากการขยายสู่พื้นที่ชนบท

 

5. SMS and MMS – 3% ของรายได้รวม

 ธุรกิจบริการข้อความและมัลติมีเดีย แม้จะมีสัดส่วนเล็ก แต่ยังคงมีความสำคัญสำหรับการสื่อสารทางธุรกิจและการแจ้งเตือนต่าง ๆ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยจากการเปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชันสื่อสาร

 

6. Product Sales and Others – 15% ของรายได้รวม

ธุรกิจขายสินค้าและบริการอื่น ๆ ครอบคลุมการขายอุปกรณ์โทรคมนาคม มือถือ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการอุปกรณ์ 5G และอุปกรณ์ IoT ที่เพิ่มขึ้น

 

 

 

กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งของ China Mobile

 

China Mobile วางกลยุทธ์การเติบโตผ่านการสร้าง "Digital Ecosystem" ที่เชื่อมโยงบริการต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าขนาดใหญ่และโครงข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ บริษัทลงทุนหนักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5G และ Data Center เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ Cloud และ AI

 

จุดแข็งที่โดดเด่นคือ Scale Economies ซึ่งหมายถึงการลดต้นทุนต่อหน่วยเมื่อมีปริมาณการผลิตมาก ด้วยฐานลูกค้าเกือบ 1 พันล้านราย China Mobile สามารถกระจายต้นทุนโครงข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Network Effects ที่ยิ่งมีผู้ใช้มาก ยิ่งทำให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น

 

การเป็นรัฐวิสาหกิจก็เป็นจุดแข็งในการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเข้าถึงโครงการของภาครัฐ โดยเฉพาะในยุคที่จีนเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล China Mobile อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนี้

 

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก

 

เทียบกับ Verizon Communications (VZ) ในสหรัฐอเมริกา: Verizon เป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ให้บริการมือถือ บรอดแบรนด์ และ 5G โดยมีฐานลูกค้าประมาณ 100 ล้านราย เน้นการให้บริการในตลาดที่พัฒนาแล้วซึ่งมีการแข่งขันสูง China Mobile และ Verizon ต่างเป็นผู้นำในตลาดของตนเอง แต่ China Mobile มีข้อได้เปรียบด้านขนาดตลาดที่ใหญ่กว่า ในขณะที่ Verizon มีรายได้ต่อผู้ใช้ (ARPU) ที่สูงกว่าและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จุดต่างที่สำคัญคือ China Mobile สามารถขยายสู่ธุรกิจ Cloud และ AI ได้เร็วกว่าเนื่องจากการสนับสนุนของรัฐบาลและตลาดที่เติบโตรวดเร็ว

 

เปรียบเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

 

เทียบกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC): AIS เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของไทย มีฐานลูกค้ามือถือมากที่สุดในประเทศ ธุรกิจหลักคือ มือถือ บรอดแบนด์ และดิจิทัลเซอร์วิส ทั้ง AIS และ China Mobile เป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคมของประเทศตน โดย AIS เน้นการให้บริการในไทยและขยายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ส่วน China Mobile ดำเนินธุรกิจในตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนและมีแผนขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งสองบริษัทต่างลงทุนในเทคโนโลยี 5G และธุรกิจดิจิทัล แต่ China Mobile มีทรัพยากรและขนาดตลาดที่ใหญ่กว่ามาก ทำให้สามารถลงทุนในการวิจัยพัฒนาและขยายธุรกิจใหม่ได้รวดเร็วกว่า

 

 

ความท้าทายและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

 

China Mobile เผชิญความท้าทายจากการควบคุมของรัฐบาลที่อาจไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อย การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากคู่แข่งในประเทศและบริษัทเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด ความไม่แน่นอนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอาจส่งผลต่อการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 5G และ 6G ในอนาคตจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งอาจกดดันกระแสเงินสดในระยะสั้น ประกอบกับความเสี่ยงด้านไซเบอร์และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีลูกค้าจำนวนมหาศาล

 

 

อนาคตและโอกาสของ China Mobile

 

อนาคตของ China Mobile มีแนวโน้มเติบโตจากหลายปัจจัย การขยายตัวธุรกิจ Cloud และ AI การพัฒนาเทคโนโลยี 5G และการเตรียมตัวสู่ 6G จะเปิดโอกาสธุรกิจใหม่ในด้าน Industrial IoT Smart City และ Autonomous Vehicles การที่รัฐบาลจีนสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของบริษัท นอกจากนี้โอกาสการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ Belt and Road Initiative ยังเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว การเป็นผู้นำด้าน Cloud และ AI ในจีนจะทำให้ China Mobile สามารถสร้างรายได้ใหม่ที่มีอัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม

 

สนใจลงทุนในหุ้น China Mobile (0941.HK) และหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน