Baidu Inc. (NASDAQ: BIDU, HKEX: 9888) บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาด NASDAQ และ Hong Kong Exchange ไม่ได้เป็นแค่ "Google ของจีน" อย่างที่หลายคนรู้จัก แต่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี AI ครบวงจรที่มีศักยภาพสูง โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดsearch engine ในประเทศจีนมากกว่าครึ่งและการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่าง ERNIE (Enhanced Representation through Knowledge Integration) ที่สามารถแข่งขันกับ ChatGPT ได้ บริษัทแห่งนี้จึงกลายเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในตลาดเทคโนโลยีจีนและการเติบโตของ AI ในระยะยาว
Baidu ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 โดย Robin Li และ Eric Xu โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาเครื่องมือค้นหาสำหรับตลาดจีน ในช่วงปี 2005 บริษัทเข้าจดทะเบียนใน NASDAQ และเริ่มขยายธุรกิจไปยังบริการต่างๆ เช่น Baidu Maps, Baidu Tieba และ Baidu Baike ซึ่งคล้ายกับ Wikipedia
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Baidu เริ่มลงทุนหนักในการวิจัยและพัฒนา AI ตั้งแต่ปี 2010 โดยการจัดตั้ง Institute of Deep Learning และในปี 2017 ได้เปิดตัว Apollo โครงการรถยนต์ไร้คนขับ ขณะเดียวกันบริษัทก็พัฒนา DuerOS แพลตฟอร์มผู้ช่วยเสียงที่ใช้ AI และล่าสุดได้เปิดตัว ERNIE โมเดล AI ที่สามารถเข้าใจและสร้างเนื้อหาได้หลากหลายรูปแบบ
ปัจจุบัน Baidu ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจให้แบ่งออกเป็น Baidu Core ซึ่งรวมธุรกิจค้นหา AI Cloud และโฆษณาออนไลน์ และ iQIYI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอ
Baidu มีโครงสร้างรายได้หลักแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก
Online Marketing Services – 59% ของรายได้รวม
ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ผ่านเครื่องมือค้นหา Baidu Search ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท ครอบคลุมการโฆษณาแบบ pay-per-click, display ads และโซลูชันการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจต่างๆ ในจีน กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของธุรกิจจีนและการใช้งาน AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา โดยเฉพาะการนำ generative AI มาช่วยสร้างเนื้อหาโฆษณาที่ตรงกับผู้บริโภคมากขึ้น
Others (Cloud system) – 41% ของรายได้รวม
ประกอบด้วยธุรกิจหลากหลาย ได้แก่ AI Cloud (บริการคลาวด์และ AI สำหรับองค์กร), iQIYI (แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอ), Apollo Go (บริการรถยนต์ไร้คนขับ), DuerOS (แพลตฟอร์มผู้ช่วยเสียง), และบริการดิจิทัลอื่นๆ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการขยายตัวของตลาด AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะ AI Cloud ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการใช้บริการ AI ขององค์กรต่างๆ ในจีน
โครงสร้างรายได้ที่มีการกระจายตัวนี้ช่วยให้ Baidu ลดการพึ่งพิงธุรกิจโฆษณาแต่เพียงอย่างเดียว และสร้างโอกาสการเติบโตจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต
Baidu วางกลยุทธ์การเติบโตผ่านการพัฒนา AI แบบครบวงจร (Full-Stack AI) ที่ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงแอปพลิเคชันผู้ใช้ปลายทาง การลงทุนในศูนย์ข้อมูลและการพัฒนาชิป Baidu AI Ship (Kunlun) ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพได้
จุดแข็งที่โดดเด่นคือระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เชื่อมต่อกันของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ข้อมูลจากการใช้งาน Baidu Search, Baidu Maps และแพลตฟอร์มอื่นๆ ช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาและปรับปรุง AI models ได้อย่างต่อเนื่อง การเปิดตัว ERNIE ที่สามารถเข้าใจและประมวลผลข้อมูลแบบหลากหลายรูปแบบ (Multimodal) ทำให้ Baidu มีความได้เปรียบในการแข่งขันด้าน AI
นอกจากนี้ Apollo Go ยังเป็นหนึ่งในบริการรถยนต์ไร้คนขับที่ใหญ่ที่สุดในจีน โดยได้รับอนุญาตให้ทดสอบในหลายเมือง และเพิ่งขยายไปยังตลาดต่างประเทศเช่น Dubai และ Abu Dhabi
เทียบกับ Alphabet (GOOGL) ในสหรัฐอเมริกา: Alphabet เป็นบริษัทที่ให้บริการ Google Search, YouTube, Google Cloud และผลิตภัณฑ์ AI ต่างๆ ทั้ง Baidu และ Alphabet ต่างเป็นผู้นำด้านการค้นหาและลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่อง จุดต่างคือ Alphabet มีตลาดทั่วโลก ขณะที่ Baidu เน้นตลาดจีนและเอเชีย แต่ Baidu มีความเข้าใจวัฒนธรรมและพฤติกรรมผู้บริโภคจีนได้ดีกว่า ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดในประเทศได้ดี
เทียบกับ TRUE Corporation (TRUE) ในประเทศไทย: แม้ไทยจะไม่มีบริษัทที่เทียบเท่า Baidu โดยตรง แต่ TRUE เป็นบริษัทเทคโนโลยีและโทรคมนาคมรายใหญ่ที่มีธุรกิจครอบคลุมโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และบันเทิงดิจิทัล ทั้งสองมีความใกล้เคียงในการเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่พยายามสร้าง ecosystem ครอบคลุมการใช้ชีวิตดิจิทัล อย่างไรก็ตาม Baidu มีการลงทุนใน AI และเทคโนโลยีขั้นสูงมากกว่า ขณะที่ TRUE เน้นบริการโทรคมนาคมและเนื้อหาบันเทิงเป็นหลัก
Baidu เผชิญกับความท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาด AI จากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบรัฐบาลจีนเกี่ยวกับเทคโนโลยีและข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้การพึ่งพิงตลาดจีนเป็นหลักทำให้มีความเสี่ยงจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ การลงทุนในโครงการใหม่ๆ เช่น Apollo Go และ AI Cloud ยังต้องใช้เวลาในการสร้างผลตอบแทนที่ชัดเจน
อนาคตของ Baidu มีแนวโน้มเติบโตจากการเติบโตของตลาด AI และการเพิ่มขึ้นของการใช้งานดิจิทัลในจีน การพัฒนา AI models ที่ก้าวหน้าและการนำไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้ ธุรกิจ AI Cloud มีศักยภาพเติบโตสูงจากความต้องการใช้บริการ AI ขององค์กรต่างๆ
การขยายตัวของ Apollo Go สู่ตลาดต่างประเทศและการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับอาจกลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่สำคัญ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ๆ และการสร้างพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ ยังเป็นโอกาสสำหรับการเติบโตต่อเนื่อง
สนใจลงทุนในหุ้น Baidu (BIDU,0988.HK) และหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน