สรุปสาระสำคัญ
หากคุณกำลังมองหาโอกาสการลงทุนที่หลากหลายมากกว่าตลาดหุ้นไทย หุ้นสิงคโปร์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากสิงคโปร์จะถูกขนานนามให้เป็น "ศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ในเอเชีย" ที่แซงหน้าฮ่องกงในปี 2565 ด้วยตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) ที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 800 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 700 บริษัท ทำให้เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและมีความหลากหลายของสินทรัพย์ ทำให้นักลงทุนที่มองหาตลาดใหม่ ๆ อยากเข้าไปลงทุนในหุ้นสิงคโปร์กันมากยิ่งขึ้น

สำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงโอกาสการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย การลงทุนหุ้นสิงคโปร์เป็นทางเลือกที่ควรเก็บเอาไว้ในลิสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม REITs (Real Estate Investment Trusts หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) รวมถึงธนาคารที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงและมีความต่อเนื่อง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ พร้อมแนะนำ 8 หุ้นสิงคโปร์น่าลงทุน และไปรู้กันว่า Index หุ้นสิงคโปร์ตัวไหนที่สำคัญบ้าง พร้อมวิธีการลงทุนที่นักลงทุนไทยสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว
หุ้นสิงคโปร์คืออะไร ?
หุ้นสิงคโปร์หมายถึงหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange หรือ SGX) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์หลักของประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 จากการควบรวมกันของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SES) และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์นานาชาติสิงคโปร์ (SIMEX)
ความโดดเด่นของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คือการมีบริษัทจดทะเบียนจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในภูมิภาคเอเชียได้อย่างครอบคลุม การซื้อขายจะทำผ่านสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) เป็นหลัก โดยเปิดให้ซื้อขายตั้งแต่ 9:00-17:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
สิ่งสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์แตกต่างจากตลาดหุ้นไทย คือการใช้สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) ในการซื้อขาย และด้วยความที่มีบริษัทจีนขนาดใหญ่หลายแห่งเข้ามาจดทะเบียน รวมถึงบริษัทในกลุ่ม REITs และ Business Trusts ที่เน้นความหลากหลายและมีความยืดหยุ่น ทำให้ตลาดสิงคโปร์เป็นช่องทางเข้าถึงการลงทุนในภูมิภาคเอเชียที่กว้างขวางมากขึ้น
5 จุดเด่นหลัก ที่ทำให้หุ้นสิงคโปร์น่าลงทุน
1. ศูนย์กลางการเงินเอเชีย
สิงคโปร์ได้รับการยอมรับเป็นศูนย์กลางการเงินที่สำคัญที่สุดในเอเชีย ด้วยระบบการเงินที่มีเสถียรภาพสูง กฎระเบียบที่เป็นมาตรฐานสากล และนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการลงทุน ทำให้ธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำของโลกเลือกตั้งสำนักงานภูมิภาคเอเชียที่นี่
2. ความหลากหลายของหุ้น
ตลาดหุ้นสิงคโปร์มีความหลากหลายทั้งในด้านขนาดบริษัท อุตสาหกรรม และประเทศต้นกำเนิดของบริษัท ตั้งแต่หุ้นธนาคารท้องถิ่น บริษัทเทคโนโลยีจีน บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคไปจนถึง REITs และ Business Trusts ที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง
3. สภาพคล่องและความโปร่งใส
SGX เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง มีระบบซื้อขายที่ทันสมัย และมีการเปิดเผยข้อมูลแบบโปร่งใส ตามมาตรฐานสากล ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ครบถ้วนและตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูล
4. มีโอกาสสร้างผลตอบแทนเงินปันผลสูง
หุ้นสิงคโปร์หลายตัวมีนโยบายจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอและมีอัตราผลตอบแทนสูง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร REITs และ Business Trusts ที่มักจ่ายเงินปันผลมากกว่า 4-6% ต่อปี
5. การเข้าถึงตลาดเอเชีย - Gateway สู่ตลาดจีนและอินเดีย
การลงทุนในหุ้นสิงคโปร์ให้โอกาสในการเข้าถึงการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ผ่านบริษัทที่มีฐานธุรกิจในภูมิภาคเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนสามารถรับประโยชน์จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดเกิดใหม่
หุ้นสิงคโปร์มี Index ใดบ้างที่ควรรู้จัก ?
- STI (Straits Times Index) เป็นดัชนีหลักของตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่ประกอบด้วย 30 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูง ดัชนีนี้ครอบคลุมประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดรวมของ SGX และเป็นตัวชี้วัดสำคัญของผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นสิงคโปร์
- FTSE ST All-Share Index เป็นดัชนีที่ครอบคลุมหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหุ้นสิงคโปร์อย่างกว้างขวาง โดยรวมหุ้นที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทั้งหมด ทำให้เป็นตัวแทนที่ดีของตลาดหุ้นสิงคโปร์โดยรวม

หุ้นสิงคโปร์แนะนำ - Top 8 หุ้นน่าลงทุน
กลุ่มการเงินและธนาคาร
- DBS Group (D05) ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์และบริการทางการเงินครบวงจร เป็นธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีฐานลูกค้าแข็งแกร่งทั้งในสิงคโปร์และภูมิภาคเอเชีย ด้วยผลการดำเนินงานที่มั่นคงและจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
- OCBC Bank (O39) ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ประกันภัย และบริการจัดการเงินทุน เป็นธนาคารเก่าแก่ที่มีฐานะการเงินมั่นคงและมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- UOB (U11) ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์และบริการการเงินสำหรับลูกค้าทั่วไปและองค์กร มีเครือข่ายกว้างครอบคลุมอาเซียน โดยเฉพาะในไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการธุรกิจระหว่างประเทศ
กลุ่มเทคโนโลยีและโทรคมนาคม
- Singtel (Z74) ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคม บรอดแบนด์ และบริการดิจิทัล เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับ 1 ในสิงคโปร์ และมีเครือข่ายกว้างครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ตอัปต่าง ๆ
- Sea Limited (SE) ดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลครอบคลุม E-commerce (Shopee) Gaming (Garena) และ Fintech (SeaMoney) เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีฐานผู้ใช้กว่า 600 ล้านคนทั่วโลก
กลุ่มอุตสาหกรรมและอาหาร
- Thai Beverage (Y92) ดำเนินธุรกิจสุรากลั่น เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร เป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีส่วนแบ่งตลาดสูงในไทยและขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
- Wilmar International (F34) ดำเนินธุรกิจการผลิตและการค้าสินค้าเกษตร น้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางในเอเชีย
กลุ่มการขนส่งและบริการ
- Singapore Airlines (C6L) ดำเนินธุรกิจสายการบินและบริการการบินที่เกี่ยวเนื่อง เป็นสายการบินระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับระดับโลก มีเครือข่ายการบินครอบคลุมทั่วโลกและมีฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย
วิธีการลงทุนหุ้นสิงคโปร์สำหรับคนไทย
ช่องทางการลงทุนแบบ Direct
- เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ในสิงคโปร์ นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีโดยตรงกับบริษัทหลักทรัพย์ในสิงคโปร์ แต่ต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำสูงและมีข้อกำหนดที่ซับซ้อน
- เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไทยที่มีบริการ ปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์ไทยหลายแห่งที่เปิดบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ รวมถึงหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งสะดวกมากกว่า เพราะสามารถใช้ภาษาไทยและมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา
ช่องทางการลงทุนแบบ Indirect
- กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นสิงคโปร์ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกและมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารจัดการ โดยไม่ต้องเลือกหุ้นเอง
- ETF ที่ติดตาม STI Index เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงและติดตามผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นสิงคโปร์โดยรวม
ความเสี่ยงที่ควรรู้
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นความเสี่ยงหลักที่นักลงทุนต้องเผชิญ เพราะการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงิน ทั้งบาทไทยและดอลลาร์สิงคโปร์ อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุน
- ความเสี่ยงจากการเมืองและเศรษฐกิจ แม้ว่าสิงคโปร์จะมีเสถียรภาพทางการเมืองสูง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคเอเชียที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
- ความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละหุ้น ครอบคลุมความเสี่ยงจากการดำเนินงานของบริษัท อุตสาหกรรม และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นแต่ละตัว
- การบริหารความเสี่ยง นักลงทุนควรกระจายการลงทุนในหุ้นหลาย ๆ ตัว แต่ก่อนการลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และกำหนดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
สนใจลงทุนหุ้นสิงคโปร์ใช่ไหม ? ดาวน์โหลดแอปเทรดหุ้นต่างประเทศ InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนหุ้นต่างประเทศกว่า 50+ ตลาดทั่วโลก รวมถึงหุ้นสิงคโปร์ที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้ ใช้งานง่ายในแอปเดียว ซื้อขายได้สะดวก เปรียบเทียบหุ้นได้ทันที พร้อมข้อมูลวิเคราะห์ครบถ้วน ช่วยให้คุณสร้างพอร์ตการลงทุนต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ
คำเตือน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อมูลอ้างอิง:
- Why Invest in Singapore?. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.aseanexchanges.org/content/why-invest-in-singapore/
- Singapore’s High-Yield Stocks Gain Favor as Global Trade Risks Rise. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.aseanbriefing.com/news/singapores-high-yield-stocks-gain-favor-as-global-trade-risks-rise/